เจ้าพ่อ Day Trade ทุน 4แสน สู่กำไร 5,500ล้านบาท ใน 8 ปี

เรื่องPatihanUhas

exness social trade

Takashi Kotegawa 小手川 隆 (B.N.F หรือ Jcom Man) เจ้าพ่อ Day Trade เริ่มต้นลงทุนครั้งแรก ในวัย 21 ทุน 4 แสน สู่กำไร 5,500 ล้านบาท เพียงระยะเวลาแค่ 8 ปี

 

เจ้าพ่อ Day Trade ทุน 4แสน สู่กำไร 5,500ล้านบาท ใน 8 ปี

 

 

  • Takashi Kotegawa นักเทรดชาวญี่ปุ่น เปลี่ยนจากเงิน $13K มา เป็น $153M  ภายใน 10 นาที เขาทำได้ยังไง?
  • Takashi Kotegawa ใช้เวลา 8 ปี ตั้งแต่ปี 2000-2008  ปั้นพอร์ตของเขาให้มีมูลค่าสูงถึง 21.8 billion yen  ($200 million) https://xueqiu.com/1874044378/178898350 ประมาณ 6,660,500,000 บาท
  • ไอดอลของ Takashi Kotegawa คือ Victor Niederhoffer

 

ในปี 2005 Takashi Kotegawa โด่งดังและเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในประเทศญี่ปุ่นจากทำกำไร 2.2 พันล้านเยนJPY ในเวลาเพียง 10 นาที

 

เหตุการณ์เกิดเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2005 เวลา 9 โมงเช้า  บริษัท Mizuho Securities (Investment banking companyสถาบันทางการเงินซึ่งทำหน้าที่ระดมเงินทุน, ซื้อขายหลักทรัพย์)  มีการเปิดขายหุ้น IPO ของบริษัทต่างๆ

 

ซึ่งหุ้นตัวนี้เป็นหุ้น IPO หรือที่เรียกกันแบบเต็ม ๆ ว่า Initial Public Offering คือ การเสนอขายหุ้นครั้งแรกของบริษัทให้กับประชาชนทั่วไป ซึ่งจะทำให้บริษัท เปลี่ยนสถานะจากบริษัทเอกชน เป็นบริษัทมหาชน

 

เรื่องมันมีอยู่ว่า …เจ้าหน้าที่ที่ทำงานในนั้น เกิดสะเพร่า ไม่รู้ว่าเกิดเมาค้างหรือว่าอะไร ได้ออกคำสั่งผิดพลาด ในการขายหุ้น IPO ของบริษัท JCOM

 

ความจริงที่ควรจะเป็นคือ

 

610,000 JPY  : ต่อ 1 หุ้น แต่ดันไปกดขาย 1 JPY ต่อ 610,000 หุ้น

 

ทันทีที่ตลาดเปิด เมื่อ Takashi เห็นกราฟ ราคาหุ้น JCOM ดิ่งลงสุด เห็นภาพดั้งนั้นเขานั้นรีบซื้อ 7,100 หุ้นภายใน10 นาที และภายในวันนั้นเขาก็ได้ขายหุ้นทั้งหมด เป็นเงินมูลค่าทั้งหมด 2.2 พันล้านเยน จนเป็นที่มาของฉายาใหม่ของเขา ที่ว่า JCOM Man! ジェイコムおとこ

 

เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2008 เขาได้เป็นที่จับตามองอีกครั้ง ฟาดหัวข้อข่าวบนหนังสือพิมพ์ Nihon Keizai Shimbun  “Kotegawa Takashi คือนักลงทุน Day trade ที่ประสบความสำเร็จแบบสุด ๆ เมื่ออายุ 29 ปี

 

เขาได้ลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์โดยการซื้อตึกอาคารในย่าน Akihabara  ชื่อตึกว่า “Chom chom  Akiharaba”จอม จอม อากิฮาบาระ

 

ย่านอากิฮาบาระ เป็นแหล่งช็อปปิ้งสุดคึกคักที่ขึ้นชื่อเรื่องร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่มีตั้งแต่ร้านเล็กๆ ไปจนถึงศูนย์การค้าขนาดใหญ่ ยังมีร้านที่เน้นขายหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่น แอนิเมชัน และวิดีโอเกมอย่างร้าน Tokyo Anime Center ซึ่งมีทั้งส่วนนิทรรศการและส่วนขายของที่ระลึก กล้องถ่ายรูป เกมส์ อนิเมชั่น ฟิกเกอร์ โมเดล (หุ่นประกอบ) การ์ตูน ตลอดจนเป็นสวรรค์ของเหล่าบรรดาโอตาคุทั้งหลายอีกด้วย

 

ภาพจาก https://chillchilljapan.com/

 

 Takashi Kotegawa คืออะไร

 

B.N.F = handle name given by the person. เป็นชื่อที่เขาใช้เรียกตัวเองเวลาเขียนตอบกระทู้ในเว็บไซด์ ทำไมเขาถึงตั้งชื่อไอดีเขาแบบนี้ ก็เพราะว่า ตั้งชื่อตามไอดอลของเขา B.N.F  Victor Niederhoffer ทำไมไม่ VNF ?? การออกเสียงภาษาอังกฤษแปลกเพราะภาษาญี่ปุ่นไม่ดี V ก็ออกเสียงเหมือนกัน Bui หรือ B ยังไงก็ตาม Victor Niederhof เป็นจุดเริ่มต้นของตำนาน ทาคาชิ เทพเจ้าแห่งการเทรด ชาวญี่ปุ่นคนรุ่นใหม่ ที่โด่งดังในโลกออนไลน์

 

JCOM man = nickname derived from the case of mass misordering of JCOM stock เป็นชื่อที่นักข่าวเรียกเขาจากการที่เขาสามารถทำกำไรจากการเทรดหุ้น JCOM 2.2 พันล้านเยน (ก็ประมาณ 600 ล้านกว่าบาทไทย)ภายในเวลาสิบกว่านาทีและทำให้เขามีชื่อเสียงรู้จักไปทั่วเพียงข้ามคืน

 

Takashi kotegawa =  Real name เป็นชื่อจริง

 

ประวัติ Takashi Kotegawa

 

Takashi kotegawa (B.N.F) เกิดเมื่อวันที่ 5 เดือนมีนาคม ค.ศ. 1978  ในเมืองอิชิกาวะ Ichikawa จังหวัดชิบะ (ปัจจุบันกำลังย่างเข้าสู่วัย 43 ปี)

 

ในปี 2000 ตอนที่เขาเรียนอยู่ปีที่3 ของคณะนิติศาสตร์ในมหาวิทยาลัย日大法学 https://www.law.nihon-u.ac.jp มหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งในโตเกียว

 

จุดเริ่มต้นของ Takashi kotegawa คือการที่เขาได้เจอกับไอดอลของเขาผ่านทางหนังสือ Victor Niederhoffer อัจฉริยะ นักเก็งกำไรชาวอเมริกัน และนั้นก็คือจุดเปลี่ยนของทาคาชิ

 

exness social tradeในการเข้าเทรดตลาดหุ้นครั้งแรก ลองผิดลองถูก ในสมัยนั้นตลาดเทรด ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนักในญี่ปุ่น แหล่งความรู้ให้ศึกษาก็มีไม่มากนัก เขาจึงใช้เวลาส่วนมากไปกับการเรียนรู้โดยการนั่งดูกราฟหุ้น Stock Chart  และอ่านหนังสือของ Victor Niederhoffer  ชื่อเรื่องว่า”Memoirs of a Stock Trader.”ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับการเทรด เขาศึกษาควบคู่กันไป ลองเทรดไปเรื่อย ๆ เหมือนกับการเล่นเกมส์ จนเขาจับจุดได้ถูก

 

เขาทั้งเรียนและทำงานพาร์ทามไปด้วย (เขาดรอปเรียนในวิชาที่เขาคิดว่าไม่สำคัญ เหลือเพียงแค่ 2 หน่วยกิต เพื่อที่จะเอาเวลาที่เหลือ มาศึกษาการเทรดและทำงานหาเงินไปลงทุน ) นำเงินที่หามาได้มาลงเทรดหุ้น ด้วยเงินทุน 1.6 ล้านเยน

 

ผู้คนส่วนมากตั้งอีกฉายาให้เขาว่า “โอตาคุ おたく ซึ่ง เป็นอะไรที่ดูถูกเขาอย่างมาก แต่เขาก็ไม่ได้เก็บเอาคำเหล่านั้นมาใส่ใจ ทำไมผู้คนถึงตั้งฉายาให้เขาแบบนั้น ก็เพราะว่าเขาไม่สุงสิงกับใคร เก็บตัวอยู่ในห้องคนเดียว อ่านการ์ตูนเล่น อยู่ในโลกของเขา ไม่สนใจโลกภายนอกใดๆเลย

 

(***คำนิยามของ Otaku โอตาคุ นั้นใช้เรียกบุคคลที่มีความสนใจอย่างคลั่งไคล้เกี่ยวกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง อย่างเช่น แอนิเมะมังงะ ก็ประมาณพวกที่ชื่นชอบอะไรอย่างหนึ่งมากๆ และอาจใช้ในเชิงเหยียดติดลบอยู่สักหน่อย ประมาณว่าเป็นพวกที่ติดอะไรอย่างมากจนส่งผลต่อการใช้ชีวิต มีความหมกมุ่นอยู่อย่างนั้นจนเข้าสังคมไม่ได้ อาจจะเป็นพวกที่อยู่ติดบ้าน หรือฮิคิโคโมริ (พวกที่แยกตัวออกจากสังคม กักขังตัวเองอยู่แต่ในห้อง กลัวการเข้าสังคม เป็นต้น) และพวกว่างงาน ด้วยลักษณะนิสัยเช่นนี้เป็นลักษณะนิสัยที่ชาวญี่ปุ่นค่อนข้างจะไม่ชอบ จึงทำให้มีภาพลักษณ์ที่ติดลบ

 

**ในความคิดเห็น เขาเป็นโอตาคุจริงๆ แต่เป็นเทพแห่งโอตาคุ ดูจากรายการนี้>>>   https://www.youtube.com/watch?v=La-WIYNjgoY

 

เขาแทบจะไม่สนใจพิธีกรเลย หลายๆคนที่ดูรายการนั้น ก็วิจารณ์เขาว่า เขารวยน่ะแต่ดูไม่มีความสุขเลย  บางคนก็บอกว่าเขาขาดทักษะการเข้าสังคมเอามากๆ

 

นอกเหนือจากการวิจารณ์ก็จะมีคำชมด้วยอว่าเขานั้นอัจฉริยะสุดๆไปเลย, เขานี้เป็นแรงบันดาลใจ,

 

exness social trade ทาคาชิ หลงใหลการเทรดมาก เขาซื้อขายหุ้นเหมือนกับการเล่นเกมส์ ซึ่งบางครั้งเขาก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหุ้นที่เขาซื้อนั้นทำเกี่ยวกับอะไร เขามีเทคนิคหลายอย่างในการเทรด เข้าไปเปิดทุ่มซื้อก่อนสร้างความปั่นป่วน หลังจากนั้นก็จะมีคนมาซื้อตามเขา หลังจากที่ราคาขึ้นเขาก็ขายทิ้งในวันนั้นเลย)

 

กิจวัตรประจำวัน Takashi Kotegawa

 

ทุกวันเขาจะมานั่งหน้าคอมตั้งแต่ 9 โมงเช้าจนถึงบ่ายสาม โฟกัสอย่างจริงจัง

 

หลังจากตื่นนอนเวลาประมาณ 8.00 น. ทุกเช้า ทาคาชิจะดูภาพรวมตลาดหุ้นสหรัฐและคาดการณอนาคตโดยสังเขป

 

9 โมงเช้า ต้องมานั่งหน้าคอม ดูสถานการณ์ ดูข่าว ดูกราฟว่าจะไปในทิศทางไหน ดูจาก PC หลายเครื่องพร้อมกันและซื้อขายได้ทันที

 

ช่วงพักกินราเมงอยู่ในบ้าน เขาเล่าให้ฟังว่าเพื่อที่จะสามารถรวบรวมสมาธิในการเทรดหุ้นได้อย่างเต็มที่ ดังนั้นมื้อกลางวันของเขาจะกินเพียงแต่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเท่านั้นเพราะว่าจะไม่อิ่มเกินไป

 

ตอนเที่ยงเขาจะให้ความสนใจกับตลาดหุ้นเอเชียแปซิฟิก เช่น สิงคโปร์และเกาหลีใต้

 

เนื่องจากเขาเทรดแบบระยะสั้น เขามักจะซื้อและถือไว้เพียง 1 วันถึง 1 สัปดาห์ และมันไม่จำเป็นสำหรับเขาที่จะดูดัชนีระยะยาว แต่เขาจะให้ความสนใจกับดัชนีตลาดหลักทรัพย์, ข้อมูลการจ้างงาน, และแนวโน้มของธนาคารกลาง, ตลาดสกุลเงิน, ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ล่วงหน้า, ต่างประเทศ, ตลาดหุ้น ฯลฯ

 

ถ้าหากคุณสงสัยว่า ทำไมเขาถึงรวยมาก?

และนี่คือดีเทล ทามไลน์ชีวิตของ Takashi Kotegawa โดยสังเขป

 

จะเห็นได้ว่าต่อให้ไม่มีการผิดพลาดจากเหตุการณ์ JCOM ตัวของ Takashi เองก็สามารถสร้างรายได้อยู่แล้ว

https://ja.wikipedia.org/wiki/B%E3%83%BBN%E3%83%BBF

 

https://www.youtube.com/watch?v=PXGZZZ65aIk

 

สรุปตั้งแต่ปี 2000- 2021

  • ในช่วงต้นปี 2000 เขาทำการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว และภายในสิ้นปีนั้น ทรัพย์สินส่วนตัวของเขามีมูลค่าเพิ่มถึง 21,800 ล้านเยน (200 USDในขณะนั้น) >> ในปีช่วงนั้นเขากำลังเรียนอยู่ปี 3 ตัดสินใจดรอปเรียนเหลือเพียงแค่ 2 หน่วยกิต
  • 2004: เริ่มโพสต์ไปยัง 2channel ด้วยชื่อ “N.F” 2channel เป็นเว็บบอร์ดของญี่ปุ่น กล่าวกันว่าเป็นเว็บบอร์ดที่ใหญ่ที่สุดในโลก 2channel มีอิทธิพลต่อสังคมญี่ปุ่นเป็นอย่างมากเช่นเดียวกับสื่อหลักทั่วไป เช่น โทรทัศน์ วิทยุ และนิตยสาร

BNF ได้โพสต์กลยุทธ์ในการเทรดต่างๆที่มันสร้างรายได้ให้กับเขาจริงๆ ลงในกระทู้ 2channel  ตอนนั้นเขามีเงินอยู่ในบัญชี 11,000,000 USD ทุกอย่างที่เขาโพสต์ลงไป เหมือนเป็นการพูดทำนายแบบถูกทาง และหลังจากนั้นคนก็เริ่มพูดถึงเขามากขึ้นเรื่อย ๆ เป็นวงกว้าง

  • 2005: กำไรประมาณ 2 พันล้านเยน จากคดีหุ้นของ JCOM
  • 2008: ซื้ออาคารพาณิชย์ในย่านอากิฮาบาระ (ประมาณ 9 พันล้านเยน)
  • 2011: ซื้ออาคารพาณิชย์แห่งที่สองในย่านอากิฮาบาระ (ประมาณ 17 พันล้านเยน)
  • 2015-2018: ชื่อของเขาปรากฏในคอลัมน์ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ของหุ้นหลายตัว (ด้านล่างสุดมีภาพประกอบ)
  • 2018: ขายอาคารพาณิชย์ที่ซื้อในปี 2008 (ประมาณ 10 ถึง 13 พันล้านเยน)
  • 2019: วางแผนสร้างอาคารร้านอาหารในซัปโปโร ซูซูกิโนะ
  • 2020: อาคารซัปโปโร ซูซูกิโนะ (Lydia Building) สร้างเสร็จและเปิดให้บริการแล้ว
  • 2021: ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท Land Co., Ltd.

https://kabu-lounge.com/investors/bnf/

 

 

ไลฟ์สไตล์ Takashi Otegawa

 

โดยรวมที่ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อช่วงปี 2006 – 2008

  1. อาศัยอยู่คนเดียวตามลำพังในคอนโดหรูหรา โลเคชั่นดี มูลค่า 400 ล้านเยน ใจกลางเมืองโตเกียว (บ้านไม่ได้ตกแต่งอะไรมาก)
  2. ซื้อบ้านมูลค่า 200 ล้านเยนให้พ่อกับแม่ของเขา
  3. ไม่มีรถส่วนตัว ออกไปไหนและขึ้นรถไฟใต้ดิน  ชอบไปซื้อของที่ร้านขายของชำถูกๆ
  4. กินง่าย อยู่ง่าย กินราเมงเป็นประจำในตอนเที่ยง
  5. ไม่ชอบเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นต่างประเทศหรือในประเทศ ไม่ค่อยไปไหน เขาจึงมีเงินเก็บมาลงทุนต่อยอด
  6. ไม่มีแฟน (ปัจจุบันแต่งงานมีลูก 3 แล้ว)
  7. ไม่มีเพื่อน
  8. ไม่ค่อยติดต่อครอบครัว (อินดี้สุดๆ)
  9. แต่งตัวเสื้อยืด กางเกงยีน สมาถะแบบสุดๆ

https://xueqiu.com/1874044378/178898350

 

วิธีการเทรดของ Takashi Kotegawa (Day trad and swing trade)

เขาเคยกล่าวลงในโซเชียลมีเดีย “ไม่ว่าเขาจะเทรดเสียหรือขาดทุน เขาจะดึงอารมณ์ให้กลับมาเป็นปกติให้เร็วที่สุด นักเทรดที่ดีจะต้องเพิกเฉยต่ออารมณ์และความโกรธได้ จะประสบความสำเร็จในการเทรดได้นั้นต้องทำตรงกันข้ามกับธรรมชาติของมนุษย์”

 

ทาคาชิ โอะกาวะเท กล่าว หากคุณสนใจแต่เรื่องเงินเท่านั้น คุณจะไม่มีทางประสบความสำเร็จในการเทรดได้

 

เคล็ดลับความสำเร็จของทาคาชิ

 

1. ใส่ใจในการเรียนรู้ไม่ใช่เรียนเหมือนคนตาบอดที่ลองผิดลองถูก

 

ทาคาชิเคยกล่าวในการให้สัมภาษณ์กับสื่อว่าไอดอลของเขาคือ Victor Niederhoffer นักเก็งกำไร อัจฉริยะชาวอเมริกัน เขาได้เรียนรู้วิธีการเทรดมาจากหนังสือเล่มเดียวที่เขาอ่านตอนนั้นคือ “Memoirs of a Stock Trader.” ของเขาคือ Victor Niederhoffer

 

เขาเชื่อว่าความสำเร็จของเขาเป็นผลมาจากความคุ้นเคยอย่างต่อเนื่องกับการเทรดบ่อยๆ

 

ทาคาชิกล่าวว่า ทักษะการเทรดถือว่าเป็นกีฬา เช่นเดียวกับการเล่น หมากรุก สปรินต์ ว่ายน้ำ ทุกอย่างล้วนตองใช้ทักษะและการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ ต่อเนื่องและเขายังบอกอีกด้วยว่า

 

การเทรดเป็นประจำ เป็นการฝึกสมองอย่างต่อเนื่องในการอนุมานและตัดสินแนวโน้มของหุ้นในอนาคต และฝึกฝนตนเองจากทุกด้านอย่างต่อเนื่องเพื่อปรับปรุงสัญชาตญาณ

 

2. รักษาจิตให้สงบไม่วิตกกังวล

 

ครั้งหนึ่ง Sun Zhengyi ประธานของบริษัท Softbank ได้ริเริ่มที่จะเชิญทาคาชิให้ไปรับประทานอาหารค่ำด้วยกัน

 

และมอบหมายให้เขาจัดการทรัพย์สินของตัวเอง แต่ทาคาชิได้ปฏิเสธไป และเขาได้อธิบายไว้ว่า เพื่อรักษาอารมณ์ในการเทรดให้คงที่ เขาจะใช้เงินทุนของเขาเองเพียงเท่านั้น

 

ทาคาชิยังกล่าวอีกว่า ถ้าถาหากเทรดด้วยเงินของคนอื่นแล้วกลางเดือนมายังขาดทุนอยู่ สภาวะเหล่านี้มันจะทำให้เขาตกอยู่ในความเครียด วิตก กังวล  และอารมณ์เหล่านั้นจะนำพาหายนะเข้ามาในชีวิต ถ้าหากสภาพจิตใจไม่ดี ยิ่งเทรดยิ่งมีแต่เสียกับเสีย

 

3. สร้างระบบการซื้อขายในแบบของคุณเอง

 

โดยทั่วไปมีการเทรดหลักๆอยู่ 3 ประเภท

  • West, Day Trader (ultra-short trade),
  • Swing trader (swing trader)
  • Trend trader (trend trader)

หารูปแบบที่คุณถนัดและเข้ากับชีวิตประจำวันของคุณให้ได้มากที่สุด และใส่ใจเรียนรู้ ฝึกฝนกับมันอย่างจริงจัง แล้วคุณจะประสบความสำเร็จ

 

ในส่วนที่ทาคาชิถนัด คือ Day Trade และ swing trade

 

เพิ่มเติม : Swing Trading  กึ่งกลางระหว่าง “สั้น” กับ “ยาว” คือ “รูปแบบการเทรดที่คาดหวังกำไรจากรอบการเทรดในระยะกลาง” ดังนั้น มันจึงไปอยู่ตรงกลางระหว่างการเทรดระยะยาวที่อาจกินเวลาเป็นเดือนๆ หรือปี กับการเทรดแบบ Scalping, Daytrading โดย Swing Trading อาจกินเวลาไม่กี่วัน ลากยาวไปเป็นสัปดาห์ๆ ก็ได้ และสำหรับตลาด Forex การเทรดแบบสวิงมักจบแค่ไม่กี่สัปดาห์เท่านั้น อาจไม่ยาวถึงเป็นเดือนๆ exness social trade

 

หุ้นที่เขาเคยถือ ในปี 2015-2018

 

Source

 

 

Contact

Twitterhttps://twitter.com/BNF78276798

 

กลับสู่หน้าหลัก  uhas.com

ไปอ่านบทความ เทรดฟอเร็กซ์