กฎ 3 ข้อ เมื่อใช้ Stop Loss Forex เหตุผลทางจิตวิทยา

เรื่องJirayuJeerapat

stop loss forex

กฎ 3 ข้อเมื่อใช้ Stop Loss Forex เทรดเดอร์ที่ยังไม่มีประสบการณ์มากพอ อาจคิดว่าการใช้ Stop Loss อาจจะไม่ใช่สิ่งจำเป็นเท่าไหร่ เพราะอาจมีความคิดที่ว่าตลาดอาจจะหวนกลับมาก็ได้ อดทนรออีกซักหน่อยคงจะดีขึ้น

 

กฎ 3 ข้อเมื่อใช้ Stop Loss Forex

 

แต่ความคิดแบบนั้นเป็นความคิดที่ผิดและเหตุผลแบบนั้นมันใช้ไม่ได้ เพราะหากการคาดคะเนมันไม่เป็นไปอย่างนั้นก็อาจจะทำให้เทรดเดอร์เกิดการสูญเสียกำไรและเงินลงทุน

 

เนื่องจากไม่มีการควบคุมการสูญเสียในลิมิตที่ตั้งรับความเสี่ยงไว้ได้ และนี่เป็นเหตุผลที่ทำให้มีคนคิดค้นเครื่องมือจำกัดการขาดทุนขึ้นมา เทรดเดอร์ควรใช้ Stop Loss เพื่อปิดการซื้อขายที่ขาดทุนโดยอัติโนมัติในระดับที่กำหนดไว้ล่วงหน้า

 

Stop Loss หมายถึงการหยุดเพื่อไม่ให้ราคาหลักทรัพย์ในพอร์ตนั้นลดลงไปมากกว่านี้ ซึ่งขณะที่ทำการ Stop loss นั้นเทรดเดอร์อาจขาดทุนหรือได้กำไรอยู่ในขณะที่ขายก็ได้ แต่ขายออกไปเพื่อป้องกันไม่ให้กำไรลดลงกว่าที่เป็นหรือขาดทุนมากยิ่งขึ้น

 

การตั้งค่าคำสั่ง Stop Loss Forex

การตั้งค่า คำสั่ง Stop Loss จะเปรียบเสมือนว่าคุณออกคำสั่งล่วงหน้าไว้กับโบรกเกอร์ แม้ว่าคุณจะไม่ได้เปิดคอมพิวเตอร์หรือเชื่อมต่อบัญชีเทรดของคุณอยู่ก็ตาม ซึ่งถ้าหากคุณไม่มีเวลาติดตามสถานะการซื้อขายของคุณตลอด

 

การตั้งค่า Stop Loss จะเป็นตัวช่วยในการปกป้องเงินทุนของคุณจากการกระชากอย่างรุนแรงของราคา โดยเฉพาะในตลาด Forex ได้ และในทางปฏิบัติจริงๆ นั้นมันอาจเป็นเรื่องที่ยากมากๆ ที่คุณจะสามารถตั้งค่า Stop Loss ได้อย่างมีประสิทธิภาพตั้งแต่เริ่มเทรดเป็นครั้งแรกๆ

 

ดังนั้น สิ่งสำคัญคือเทรดเดอร์ควรจะทดสอบสัญญาณการซื้อขายของคุณ และตรวจสอบว่า การตั้งค่า Stop loss ในระบบเทรดของคุณจะสามารถควบคุมความเสี่ยงและรักษาพอร์ตในเติบโตในระยะยาวได้จริงไหม

 

การตั้งค่า Stop Loss จะช่วยให้เทรดเดอร์ไม่เพิ่มโอกาส ให้มีการสงสัยในแผนการซื้อขายและข้อข้อผิดพลาดที่คาดคะเนไม่ได้ และเมื่อเทรดเดอร์มีประสบการณ์มากเท่าไหร่ คุณก็จะมีความเข้าใจที่ดียิ่งขึ้นเกี่ยวกับพฤติกรรมของตลาดและมันจะยังช่วยให้เทรดเดอร์มีวินัยมากขึ้นอีกด้วย

 

การปิดการซื้อขายด้วยตัวเองนั้นเป็นการเปิดโอกาส และเพิ่มช่องว่างในการเทรดผิดพลาด โดยเฉพาะในช่วงเหตุการณ์ที่เกินกว่าจะรับมือได้ เช่น การซื้อขายหรือขนาดจำนวนที่ไม่ถูกต้อง หรือเหตุการณ์ไฟดับก็เกิดขึ้นได้เพราะมันเป็นเรื่องไม่คาดคิด

 

ดังนั้น เทรดเดอร์ไม่ควรปล่อยการเทรดของคุณให้อยู่ในความเสี่ยงที่ไม่จำเป็น การมี Stop loss สำรองไว้มันเป็นเรื่องที่ดี

 

 

กฎ 3 ข้อที่ควรทำตามในการใช้ Stop Loss

 

1. ไม่ใช้อารมณ์มาหยุดการขาดทุน

การตั้งค่าการหยุดขาดทุนเทรดเดอร์จึงต้องกำหนดไว้ล่วงหน้าก่อนที่จะทำการซื้อขาย เป็นเรื่องที่ไม่ดีแน่นอนหากปล่อยให้อารมณ์ตื่นตระหนกเข้ามาระหว่างการหยุดขาดทุน

 

2. ปล่อยตาม Stop Loss

การปล่อยไปตาม Stop Loss มันหมายถึงการควบคุมทิศทางของการซื้อขายที่ชนะเพราะมันจะล็อคผลกำไรและจัดการความเสี่ยงของคุณ

 

3. อย่าขยายจุดหยุดขาดทุน

การเพิ่มจุดหยุดขาดทุนมันเป็นการเพิ่มความเสี่ยง และจำนวนเงินที่คุณจะสูญเสียมากขึ้น เมื่อตลาดถึงจุดหยุดตามแผนที่คุณวางไว้นั่นแสดงว่าการซื้อขายของคุณได้เสร็จสิ้นแล้วรอโอกาสต่อไปในการทำกำไร หากเทรดเดอร์ทำการขยายจุดขาดทุน มันก็ไม่เกิดประโยชน์และเทรดเดอร์ไม่ควรทำแบบนั้น ซึ่งมันเท่ากับว่าคุณก็ไม่ได้ใช้ Stop loss ให้ทำงานกับคุณจริงๆ

 

เพียง 3 ข้อนี้เป็นกฎที่เข้าใจง่ายหากเทรดเดอร์นำไปปรับปรุงใช้และปฎิบัติได้จริงก็จะสามารถส่งผลดีต่อพอร์ตการซื้อขายของเทรดเดอร์ได้ดีทีเดียว

 

ทำไมเราถึงกลัวการ Stop Loss

เทรดเดอร์หลายคนยอมถือออเดอร์ที่ติดลบ และยอมให้ออเดอร์ที่ติดลบไม่กี่ออเดอร์ ลากพอร์ตลงทุนของเราลงไปจนสร้างความเสียหายให้พอร์ตลงทุนของเราได้ บางครั้งอาจจะถึง พอร์ต Forex แตก เลยทีเดียว แต่กลับทำใจยอม Stop Loss ไม่ได้

 

จริงๆ แล้ว สาเหตุเหล่านี้ มีเหตุผลทางจิตวิทยาอธิบายเอาไว้ ว่ามนุษย์เรากลัวความสูญเสียเป็นอย่างมาก เมื่อมีการขาดทุนเกิดขึ้น มนุษย์เรามักจะแกล้งทำเป็นไม่สนใจ เขาจะพยายามหลีกเลี่ยงทุกอย่างที่ทำให้เขาสูญเสียในตอนนั้น เช่น การตัดใจ Stop Loss เป็นต้น เหตุผลทางจิตวิทยานี้คือ Loss Aversion

 

รู้จัก Loss Aversion แบบละเอียด >> คลิกที่นี่ <<

 

เข้าใจ Loss Aversion

 

ผลวิจัยเผยว่า การสูญเสียทรงพลังกว่าการได้รับถึง 2 เท่า จึงทำให้คนเรามองโลกในแง่ร้ายไว้ก่อน และทำให้เราอ่อนไหวต่อคำวิจารณ์มากกว่าคำชม Daniel Kahneman นักจิตวิทยาชาวอเมริกันที่ได้รับรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์ และ Amos Tversky ที่เป็นผู้ช่วยของแดเนล ทั้งสองช่วยกันทำการวิจัย และนิยามทฤษฎีนี้

 

โดยให้เหตุผลที่เรียบง่ายว่า “คนเราเกลียดการสูญเสียมากกว่าดีใจกับการได้มา” หรือจะให้เข้าใจง่ายๆเลยก็คือ คนเราให้ค่าความทุกข์มากกว่าความสุข ที่เป็นเช่นนี้เพราะ คนเรา “ยึดติด” กับสิ่งของที่เรามี โดยเฉพาะถ้าสิ่งของนั้นเราเป็นคนทุ่มแรงสร้างมันมากับมือ เสียแรง-เสียเงิน-เสียเวลา เราจะยิ่งเสียมันไปได้ยากยิ่งขึ้น

 

ให้ภาพอธิบาย หากคุณหาเงินได้มา 100 $ คุณรู้สึกก็ดีใจน่ะ- ก็ดี – ก็ไม่ได้แย่ แต่เวลาเสียไป 100 $  เสียใจแบบจะเป็นจะตาย ทำไมเราจึง “หลีกเลี่ยงการสูญเสีย” ?  เรื่องนี้เป็นนิสัยที่สืบทอดกันมาผ่าน DNA จากรุ่นสู่รุ่น ตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์ ย้อนกลับไปสมัยก่อนความเป็นอยู่ของมนุษย์ยุคโบราณนั้นเปราะบางมาก

 

ความผิดพลาดแบบโง่เขลาเพียงครั้งเดียว อาจนำความตายมาสู่ชีวิตได้ทันที (ยกตัวอย่างเช่นคุณพลาดไปกินผลไม้พิษ วิ่งสะดุดล้มระหว่างหนีเสือ ก็ทำให้คุณตายได้ในทันที มันจึงทำให้มนุษย์กลัวการที่จะสูญเสีย)

 

คนที่รอดชีวิตคือคนที่ระมัดระวังภัย คนกลุ่มนี้จะรอบคอบสุดๆ มักไม่เอาตัวเองไปเสี่ยงอันตราย จะหลีกเลี่ยงการสูญเสียทุกรูปแบบ ความกลัวจึงกลายมาเป็นสันชาตญาณที่ทำให้มนุษย์ดำรงชีวิตรอดอยู่ได้ นอกจากนี้วัฒนธรรมยังมีส่วนในการเพิ่มความกลัวใน Loss Aversion

 

เพราะว่าถ้าหากตัดสินใจผิดพลาดไปแล้ว นอกจากตัวเองจะรู้สึกแย่แล้วยังโดนกระแสคนรอบข้างหรือสังคมซ้ำเติมอีก

 

โดยรวมแล้วมีอยู่ 3 ปัจจัยหลักที่ทำให้มนุษย์ “หลีกเลี่ยงการสูญเสีย”

  • การทำงานของระบบประสาท
  • สถานะทางสังคม
  • วัฒนธรรม

 

แต่ละคนมีมากมีน้อยแตกต่างกันไป ตามปัจจัยที่กล่าวไปข้างต้น

 

นอกจากนี้ มีการทดลองหนึ่ง แจกโบรชัวร์ 2 แบบให้ผู้ป่วย 2 กลุ่ม เกี่ยวกับการตรวจหามะเร็งเต้านมด้วยตัวเอง (Breast Self-Examination หรือ BSE)

  • กลุ่มแรก ได้โบรชัวร์แบบที่ 1 เขียนว่า ผู้หญิงที่ตรวจ BSE มีโอกาสสูงขึ้นมากที่จะตรวจเจอ และจะสามารถรักษาหายได้ ตั้งแต่เนิ่น ๆ และจะไม่เป็นหนัก
  • กลุ่มที่สอง ได้โบรชัวร์แบบที่ 2 เขียนว่า ผู้หญิงที่ไม่ได้ตรวจ BSE มีโอกาสน้อยมากที่จะตรวจเจอและและมีโอกาสน้อยมากที่จะรักษาหายได้ทันท่วงที มีโอกาสป่วยหนัก

 

การติดตามสัมภาษณ์หลังจากนั้นพบว่า ผู้ป่วยกลุ่มที่สอง มีการตื่นตัวรับรู้ถึง BSE สูงกว่ากลุ่มแรก แบบมีนัยยะสำคัญ แม้ทั้ง 2 โบรชัวร์เหมือนกัน แต่การเปลี่ยนข้อความ “เน้นย้ำถึงการสูญเสีย” กลับได้ผลกระทบที่สูงกว่า

 

ผลการทดลอง Loss Aversion

มีกล่องจับฉลาก 2 กล่องให้เลือก

  • กล่องแรก: ได้เงิน 5,000 บาทชัวร์ๆ
  • กล่องที่สอง: อาจจะได้เงิน 20,000 บาท หรือ ไม่ได้อะไรเลย

คนส่วนใหญ่จะเลือกกล่องแรก เพราะเขายอมได้น้อย ดีกว่าที่ต้องมารู้สึกเสียดาย ที่จับรางวัลมาแล้ว ปรากฏว่าเขาไม่ได้อะไรเลย

 

 

กลับสู่หน้าหลัก  uhas

ไปอ่านบทความ  เข้าเทรด forex