ลงทุนอะไรดี ให้ชนะเงินเฟ้อ? ฉบับ 2022

เรื่องPatihanUhas

ลงทุนอะไรดี

ลงทุนอะไรดี ให้ชนะเงินเฟ้อ? ฉบับ 2022 การที่ข้าวของราคาแพงขึ้นหรือเงินจำนวนเท่าเดิมแต่ซื้อของได้น้อยลง เป็นผลมาจากสิ่งที่เรียกว่า “เงินเฟ้อ”

 

แสดงว่าเงินเฟ้อมีผลต่อมูลค่าของเงิน ดังนั้น วิธีต่อสู้ให้ชนะเงินเฟ้อหนีไม่พ้นการหาช่องทางการลงทุน เพื่อสร้างผลตอบแทนให้ชนะเงินเฟ้อให้ได้

 

ลงทุนอะไรดี ให้ชนะเงินเฟ้อ? ฉบับ 2022

 

 

1. การลงทุนในทองคำ

เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าในตัว ส่วนใหญ่ราคามักปรับเพิ่มขึ้นตามเงินเฟ้อ โดยจากข้อมูลในอดีต การปรับตัวของราคาทองคำมักชนะเงินเฟ้อ

 

แต่อย่าทุ่มเงินออมทั้งชีวิตไปกับทองคำ เพราะมีปัจจัยอื่นๆ ที่คุณจำเป็นต้องเข้าใจเกี่ยวกับการลงทุนในทองคำ

 

หากคุณลงทุนในทองคำแท่งที่จับต้องได้ จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการจัดเก็บและประกัน ซึ่งจะกินผลตอบแทนของคุณ

 

การลงทุนในกองทุนรวมที่เน้นทองคำและกองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยน (ETF) สามารถลดต้นทุนเหล่านี้ได้อย่างมาก แต่ก็ยังสำคัญที่ต้องจำไว้ว่าราคาทองคำมีความผันผวนสูงโดยเฉพาะในระยะสั้น

 

2. การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์

เนื่องจากราคาอสังหาริมทรัพย์ มักไม่ผันผวนตามภาวะเศรษฐกิจ จึงช่วยลดความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ รวมถึงมูลค่ามักงอกเงยขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป อย่างไรก็ตาม การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์อาจต้องใช้เงินทุนสูง

 

การวิเคราะห์โดยสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (MIT) พบว่าเป็นอสังหาริมทรัพย์เป็นการลงทุนที่สามารถเอาชนะภาวะเงินเฟ้อได้

 

ถ้าหากไม่มีเงินทุนมาก การซื้อกองทุนก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของนักลงทุน กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์หรือที่เรารู้จักกันคือ (REIT ) Real Estate Investment Trust แปลไทยคือ กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์

 

หน้าที่หลักของกองนี้คือ เข้าไปบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ที่สร้างรายได้ได้อย่างต่อเนื่อง แล้วก็นำผลกำไรที่ได้มาจ่ายเป็นเงินปันผลให้กับนักลงทุน

 

3. การลงทุนในตราสารหนี้จ่ายดอกเบี้ยแบบลอยตัว หุ้นกู้ หรือพันธบัตรต่างๆ

ตราสารหนี้จ่ายดอกเบี้ยแบบลอยตัว (Floating rate Bond) เป็นหุ้นกู้ที่อัตราดอกเบี้ยมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามอัตราอ้างอิงที่กำหนดหรือดัชนีที่กำหนดไว้เช่น อัตราดอกเบี้ยเงินฝาก

 

นักลงทุนอาจเลือกลงทุนผ่านกองทุนรวมตราสารหนี้ โดยดูจากความมั่นคงของบริษัท ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะมีกองทุนรวมตราสารหนี้ ดังกล่าวหลายประเภท

 

ดังนั้นนอกเหนือจากการป้องกันเงินเฟ้อแล้ว คุณยังได้รับการกระจายความเสี่ยงด้วย ซึ่งหมายความว่าพอร์ตโฟลิโอของคุณอาจได้รับประโยชน์จากความเสี่ยงที่ลดลง

 

4. การลงทุนใน TIPS (Treasury inflation-protected securities)

TIPS คือพันธบัตรชดเชยเงินเฟ้อหรือหลักทรัพย์ที่มีการป้องกันเงินเฟ้อของกระทรวงการคลังเป็นวิธีที่มีประโยชน์ในการปกป้องการลงทุนของนักลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ขาย TIPS และปรับมูลค่าที่ตราไว้ในแต่ละปีเพื่อให้ทันกับภาวะเงินเฟ้อ

 

โดยแต่ละประเทศอาจมีชื่อเรียกที่แตกต่างกัน เช่น สหรัฐอเมริกาเรียกพันธบัตรชดเชยเงินเฟ้อว่า Treasury Inflation Protected Securities หรือ TIPS อังกฤษเรียกว่า Index-Linked Gilts หรือ ILG และญี่ปุ่นเรียกว่า Inflation-Index Bond หรือ JGBi

 

กองทุนที่ลงทุนในพันธบัตรชดเชยเงินเฟ้อในประเทศไทยก็พอมีให้เลือกเช่น SCBS, KTILB

 

5. การลงทุนในหุ้น

หุ้นเป็นตัวกลางที่ดีแบบระยะยาวในการป้องกันความเสี่ยงต่อภาวะเงินเฟ้อ ถึงแม้ว่าบางทีหุ้นอาจผันผวนไปบ้างเพราะว่าได้รับผลกระทบจากอารมณ์ของนักลงทุน

 

ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ใช่ว่าทุกหุ้นจะมีการป้องกันความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อที่ดีเท่าเทียมกัน นักลงควรเลือกหุ้นที่มีอัตราการปันผลสูงและสม่ำเสมอ

 

โดยสามารถศึกษาอัตราปันผลย้อนหลังได้จากข้อมูลแต่ละบริษัท ควรเลือกหุ้นที่ให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงกว่าอัตราเงินเฟ้อ สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและอัตราผลตอบแทนจากพันธบัตรรัฐบาล

 

จำไว้อย่างหนึ่งว่าการลงทุนในหุ้นไม่เคยปราศจากความเสี่ยง หรือถ้าจะให้มีความเสี่ยงน้อยที่สุด และได้ผลตอบที่ดีเห็นจะเป็นกาลงทุนในหุ้นกลุ่มของ ESG (Environmental, Social, and Governance) ซึ่งเป็นหุ้นที่ให้ความสำคัญกับ 3 องค์ประกอบ ได้แก่ สิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล

 

6. ลงทุนใน Cryptocurrency

การลงทุนใน Cryptocurrency อาจจะเป็นทางเลือกหนึ่งที่อาจจะช่วยให้เงินของเราเอาชนะเงินเฟ้อได้ แต่ราคาของ Cryptocurrency มีความผันผวนสูงมากๆ

 

ในทางเดียวกัน การลงทุนใน Cryptocurrency อย่าง Bitcoin อาจจะทำให้เงินลงทุนของเราลดลงก็ได้

 

แต่การลงทุนใน Cryptocurrency ก็มีหลายรูปแบบเช่นกัน ไม่ใช่แค่การซื้อมาขายไปเท่านั้น การลงทุนในรูปแบบของ DeFi หรือ Decentralized Finance ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่เทรดเดอร์รุ่นใหม่ให้ความสนใจ

 

Source