17 เคล็ดลับ เทรดเดอร์มือใหม่ ให้ประสบความสำเร็จ

เรื่องPatihanUhas

เทรดเดอร์มือใหม่

17 เคล็ดลับ สำหรับ เทรดเดอร์มือใหม่ ก่อนเข้าสู่วงการเทรดให้ประสบความสำเร็จ เพราะการเทรดไม่ใช่เรื่องง่าย มีเทรดเดอร์เพียงแค่ 5% เท่านั้นที่สามารถทำกำไรได้อย่างยั่งยืน

 

แต่ในบทความนี้เราจะมาดู 17 เคล็ดลับ สำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ ให้ประสบความสำเร็จ มีอะไรบ้างมาเรียนรู้ไปพร้อมๆ กันเลย

 

สารบัญ

17 เคล็ดลับ เทรดเดอร์มือใหม่ ให้ประสบความสำเร็จ

 

 

1. ความลับในการเทรด คือ การไม่มีความลับ

นักการตลาดชอบที่จะสร้างจุดสนใจให้เทรดเดอร์มือใหม่ลุ่มหลงกับการเทรด

 

พวกเขามักจะพูดในทำนองที่ว่าเขานั้นสามารถสร้างรายได้10 ล้านเหรียญในเวลาเพียง 10 นาทีต่อวัน โดยอ้างว่าพวกเขานั้นมีความลับ หรือ เคล็ดลับต่างๆ นานา

 

แต่ความจริงคือไม่มีความลับในการเทรด ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าตลาดกำลังจะเดินไปในทิศทางไหน มีแต่การคาดการณ์ถึงความน่าจะเป็น แต่ไม่สามารถการันตีได้ 100%

 

2. ฉลาดแต่พอดี ไม่ต้องใช้ตรรกะมากจนเกินไป

อันที่จริง ยิ่งคุณใช้ตรรกะมากเท่าไหร่ มันยิ่งทำให้การตัดสินใจของคุณนานมากขึ้นนั้น ใช้ตรรกะได้แต่ต้องมีไหวพริบด้วย พยายามเทรดไปตามเทรนด์

 

William Eckhardt สุดยอดเซียนหุ้น กล่าวว่า “ผมแทบจะไม่เคยเห็นคนที่ใช้ตรรกะมากๆ ประสบความสำเร็จในการเทรดเลย ผมว่าการควบคุมอารมณ์และใช้ตรรกะแบบพอดีสำคัญมากกว่า”

 

3. ทัศนคติ สำคัญกว่าความถนัด

ตลาดมันไม่สนใจหรอก ว่าคุณจะมีความถนัดในด้านไหน กราฟมันยังคงดำเนินไปตามทางของมันโดยไม่คำนึงว่าคุณจะคิดหรือรู้สึกอย่างไรกับมัน ในเมื่อเราไม่สามารถควบคุมตลาดได้ ก็ต้องหันมาควบคุมตนเอง

 

ทัศนคติที่ดีในการเทรดสามารถลดเสี่ยงในการถูกกรผันผวนของตลาดเล่นงาน ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น Mindset ต้องดีไว้ก่อน แล้วคุณจะสามารถผ่านมันไปได้ทุกสถานการณ์

 

และในบางครั้งความสำเร็จก็อยู่ใกล้แค่เอื้อมมือ แต่มันอยู่ในสถาณการณ์ที่คุณต้องเลือก

 

อย่างที่ Jesse Livermore นักเก็งกำไรที่เก่งมากที่สุดคนหนึ่งที่โลกนี้เคยมีมา เคยกล่าวไว้ว่า “บางครั้งนักเก็งกำไรหุ้นที่เก่งที่สุดก็ยังทำพลาด และเขาเหล่านั้นรู้ตัวเองว่า เขาเองเป็นคนก่อมันขึ้นมา”

 

4. จับเทรนด์ให้เป็น

การเคลื่อนไหวกราฟมีแค่ 3 สิ่งนี่เท่านั้น.. ขึ้น , ลง ,หรือเป็นแนวระนาบ (Sideway)

เทรดเดอร์มือใหม่

 

อ่านบทความ แนวโน้ม Forex คืออะไร  >> คลิก <<

 

วิธีเดียวที่จะทำกำไรจากการเทรดคือการจับเทรนด์ให้เป็น รู้จังหวะเข้า – ออก เทรดไปตามเทรนด์

 

5. ข่าว คือ การสร้างกระแสเขย่าตลาด

สื่อที่ออกมา เทรดเดอร์มักจะนำมาเชื่อมโยงกับหุ้นที่เกี่ยวข้อง ถ้ากราฟมันเคลื่อนไหวไปตามข่าวที่เกิดขึ้นจริง

 

คงมีนักข่าวจำนวนมากหันตัวมาเป็นเทรดเดอร์กันหมดแล้ว แต่ในความเป็นจริงคือ กราฟมันจะวิ่งไปตามอามรณ์ของนักลงทุน

 

การพูดแบบนี้ไม่ได้หมายความว่าข่าวที่เกิดขึ้นนั้นไม่มีอิทธิพลขยับตลาด แต่บางครั้งมันก็มักจะมีข่าวลอยๆมาเขย่าขวัญเทรดเดอร์ให้วิตกกังวลเล่นอยู่บ้าง

 

6. ทุกกลยุทธ์มีความแตกต่างกันจงเรียนรู้และยอมรับกับทุกสถานการณ์

เรียนรู้และยอมรับกับทุกสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้น ในบางครั้งคุณอาจจะมีอาการหงุดหงิดสำหรับอะไรที่ไม่ได้ใจ

 

บางครั้งคุณอาจจะตกอยู่ในภาวะวิตกกังวลกับการขาดทุนครั้งใหญ่  บางครั้งคุณอาจจะรู้สึกเสียดาย และในบางครั้งคุณอาจจะต้องใช้ความอดทนรอ ปล่อยให้ตลาดให้ตามเทรนด์ บางครั้งคุณจะต้องเรียนรู้จักการรออย่างอดทน

 

Peter Mauthe กล่าวว่า “อย่าลงทุนเพิ่ม ให้อดทนรอไปก่อน”

 

เขาเปรียบเปรยประมาณว่า หากเขาต้องเลือกลูกบุญธรรมสักคน เขาจะเลือกคนที่อดทนทุกวันมากกว่า คนที่มีฉลาด

 

7. การเทรดไปตามแผนเป็นอะไรที่ค่อนข้างจะน่าเบื่อ

ไม่เอาตัวเองไปอยู่ในสถานการณ์ที่ตื่นเต้นๆ แต่คนส่วนมากชอบอะไรที่ตื่นเต้นและรอไม่เป็น

 

Jim Rogers นักลงทุนชาวอเมริกันเคยกล่าวว่า “ในระหว่างนี้ฉันไม่ทำอะไรเลย ผมแค่รอจนกว่าจะมีเงินอยู่ตรงหัวมุม และทั้งหมดที่ผมต้องทำคือไปที่นั่นแล้วหยิบมันขึ้นมา”

 

8. คุณสมควรมีกลยุทธ์เด็ดๆ เพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น

(ผู้เขียนบทความบอกว่า) ผมเคยใช้เวลามากในการเขียนโปรแกรมระบบการซื้อขาย ในทุกๆวัน ผมจะหาไอเดียในการสร้างระบบหรือกลยุทธ์ใหม่ๆ

 

เมื่อผมกลับถึงบ้าน ผมมักจะเล่าถึงการค้นพบไอเดียใหม่ๆ ให้ภรรยาของผมฟัง จนเธอทนไม่ไหวแล้วตั้งคำถามกับผมว่า

 

“คุณต้องใช้กี่กลยุทธ์กันแน่ในการเทรด? คุณต้องมีหนึ่งเดียวเพียงเท่านั้น หนึ่งเดียวที่ดีจริงๆและเหมาะสมกับคุณจริงๆ และเหนือสิ่งอื่นใด สิ่งที่คุณสามารถติดตามได้อย่างสม่ำเสมอ”

 

และคำพูดนี้มันก็ทำให้ผมตระหนักรู้ว่าผมควรมีกลยุทธ์หรือระบบที่ใช้ง่ายๆไม่ซับซ้อน ในแบบฉบับของผมเอง

 

9. วางแผนการเทรดที่ยืดหยุ่นได้

เป็นเรื่องที่ทุกคนรู้ แต่คนส่วนใหญ่ไม่ทำกัน แต่ในบางครั้งคุณจะต้องยอมรับว่าคุณอาจคิดผิดพลาด ผู้ที่วางแผนการเทรดจำนวนมากล้มเหลวในการปฏิบัติตามแผน เพราะพวกเขาคิดว่าพวกเขามีไหวพริบสามารถรับมือกับตลาดได้ โดยการใช้ตรรกะเชิงวิชาการ

 

10. คุณไม่สามารถแยกอารมณ์ออกจากการเทรดได้

คุณคงเคยได้ยินว่า ต้องกำจัดอารมณ์ไม่ให้โกรธ ไม่ให้หงุดหงิด ในขณะที่เทรด เอาเข้าจริงแล้วไม่มีใครสามารถกำจัดอารมณ์เหล่านั้นออกไปได้

 

แต่สิ่งที่เราทำได้คือการยอมรับอารมณ์เหล่านั้นแล้วหากลยุทธ์ที่จะรับมือกับตัวเอง โดยไม่ไปผลักไสมัน

 

อยากเช่นคุณรู้สึกโมโหก็ให้ยอมรับว่าตัวเองโมโหไม่ใช่พยายามกำจัดมันแล้วหลอกตัวเองว่า ฉันสบายดีไม่เป็นไรทั้งที่ในร้อนรุ่ม ใจข้างในคุณต้องผ่อนคลายจริงถึงจะเทรดได้ดี

 

11. ในบางครั้งตลาดก็กระตุ้นให้คุณลงทุน

ในบางครั้งตลาดก็กระตุ้นให้คุณลงทุน ก็คืออาการ FOMO (Fear of Missing Out) นั้นเอง กราฟขึ้นแป๊บเดียวหลอกให้คนดีใจแล้วลง

 

คนส่วนมากเลือกที่จะปรับเปลี่ยนย้ายไป ย้ายมา จนทำให้ลงเอยด้วยความสูญเสีย  หากคุณเปลี่ยนวิธีการอย่างต่อเนื่อง คุณจะไม่มีวันได้รับผลตอบแทนดีในวิธีการใด ๆ

 

12. การเทรดต้องมีการผิดพลาด

การเทรดต้องมีการผิดพลาดเป็นเรื่องธรรมดา คุณต้องชินกับมันได้แล้ว

 

ศึกษาให้มากขึ้นเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะสูญเสีย และก็ไม่ต้องเก็บความรู้สึกผิดพลาดมาตอกย้ำตัวเอง เรียนรู้จากประสบการณ์นั้นๆ

 

13. การบริหารเงินเป็นสิ่งสำคัญ

ไม่ว่าตุณจะเก่งหรือชำนาญแค่ไหน ก็มีโอกาสขาดทุนด้วยกันได้ทั้งนั้น หากคุณใช้เงินอย่างเหมาะสมในการเทรด มันจะช่วยให้คุณปฏิบัติติไปตามแผนการได้ง่ายขึ้น

 

14. การป้องกันที่ดีที่สุด คือ การรุกที่ดี

การรักษาเงินต้นเป็นสิ่งสำคัญ แต่การที่เราเป็นฝ่ายรุกก็ถือว่าเป็นการป้องกัน ก่อนจะกระโจมเข้าตลาดให้ศึกษาให้ดีก่อนว่าคุณเตรียมความพร้อมมารึยัง ถ้าพร้อมก็ลุยเลย

 

15. คุณจะต้องมีประสบการณ์

คุณไม่ได้ตัดสินใจที่จะเป็นศัลยแพทย์ในวันศุกร์ อ่านหนังสือในช่วงสุดสัปดาห์ และจากนั้นก็เริ่มผ่าตัดคนไข้ในวันจันทร์

 

ทว่าในการเทรด ผู้คนมักจะมองไปในรูปแบบนั้น ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ กว่าจะเป็นศัลยแพทย์ต้องใช้เวลาศึกษากี่ปี ต้องเรียนทั้งเชิงวิชาการและลงมือปฏิบัติจริง

 

การเทรดก็ไม่ต่างกันคุณจะต้องสั่งสมประสบการณ์ให้ได้มากๆ

 

16. ตลาดไม่เคลื่อนไหวไปตามกรอบเวลาของคุณ

ถึงแม้จะมีประสบการณ์ แต่ก็ยังต้องใช้เวลา คุณไม่สามารถกำหนดเส้นตายได้ด้วยตัวเอง บางครั้งคุณก็ต้องรอ คุณจะไม่รวยในชั่วข้ามคืน แต่ถ้าคุณมุ่งมั่นกับมันจริงๆ คุณอาจจะต้องประหลาดใจในความสำเร็จของคุณ

 

17. เตรียมพร้อมรับโอกาส

คุณไม่มีทางรู้ว่าเทรนด์ใหญ่ครั้งต่อไปจะมาเมื่อไหร่ และเมื่อไหร่จะเป็นคราวของคุณ ดังนั้นคุณต้องเตรียมพร้อมที่จะรับมือกับโอกาสอยู่ตลอดเวลา โอกาสต้องเป็นของคุณสักวันหนึ่ง

 

ผู้เขียนบทความ

President

CEO of DaveLandry.com

 

Source