แน่นอนว่าการเข้ามาลงทุนในตลาดเทรดค่าสกุลเงินอย่างตลาด Forex นั้น คุณจะต้องทำความเข้าใจกับศัพท์ทางเทคนิคมากมาย ซึ่งมีความจำเป็นสำหรับการเทรดเป็นอย่างมากเช่นกัน โดยเฉพาะเพื่อการศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม เพราะหากเรามีความเข้าใจในคำศัพท์ทางเทคนิค ก็อาจเพิ่มโอกาสในการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพได้เช่นกัน
โบรกเกอร์ Forex ไม่มีค่า Swap
ซึ่งวันนี้จะมาทำความเข้าใจกับศัพท์อีกคำหนึ่งที่มีความสำคัญในตลาดแห่งนี้เช่นเดียวกันคือ Swap ซึ่งหมายถึงอัตราดอกเบี้ยข้ามคืน ซึ่งสามารถเป็นได้สองรูปแบบคือ เป็นบวกก็ได้หรือเป็นลบก็ได้ ซึ่งหาก Swap เป็นบวกในตลาดก็จะหมายถึงว่า เราจะได้รับดอกเบี้ย แต่หาก Swap เป็นลบ นักเทรดก็จะเสียดอกเบี้ยนั่นเอง ซึ่งในการเทรดแต่ละออเดอร์จะมีการคิดค่า Swap นี้ต่อเมื่อนักเทรดได้ทำการถือออเดอร์ข้ามคืนเท่านั้น
ดังนั้นและควรหลีกเลี่ยงการถือออเดอร์เซลล์ ทิ้งไว้ในคืนวันพุธ เนื่องจากจะมีการยกเอา ยอดของ Swap ของวันเสาร์อาทิตย์ หรือวันที่ตลาดหลักทรัพย์ปิด มารวมในครั้งนี้ด้วยนั่นเองซึ่งค่า Swap นั้นมีข้อดีข้อเสีย มากมายหลากหลายประการ ตามมาดูข้อดีข้อเสียกันบ้างดีกว่า
ข้อดีหากว่าเป็นบวกเปิดข้ามคืนนักเทรดสามารถ เปิดออเดอร์ข้ามคืนเพื่อให้ได้กำไร การคิดอัตราดอกเบี้ยแต่เมื่อเปิดออเดอร์ข้ามคืน เราสามารถนำดอกเบี้ยมาทำกำไรได้ การเทรดแบบ Hedging หรือ Carry Trade เน้นคู่สกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงนั่นเอง
ส่วนข้อเสียก็คือหากถือออเดอร์ข้ามคืน จะต้องเสียค่า Swap เป็นลบ หรือค่า Swap ของแต่ละโบรกเกอร์นั้น หากเป็นบวกเราก็จะได้น้อย แต่หากเป็นลบเราก็จะต้องได้เงินเป็นจำนวนมากนั่นเอง สรุปคือ Swap ของโบรกเกอร์เป็นลักษณะ กรณีเราได้เท่ากับจ่ายน้อย แต่กรณีเราเสียเท่ากับเก็บเยอะ บางโบรกเกอร์ การคำนวณค่า Swap ไม่ชัดเจนแน่นอน จึงจะเห็นได้เลยว่าถ้า swap นั้น 3 บาท นำมาคิดในการเทรด Forex ได้เป็นอย่างดีนั่นเอง ซึ่งนักเทรดจะต้องดูค่ะ Swap ให้ดีและชัดเจนก่อนที่จะเทรดนั่นเอง
ดังนั้นเมื่อได้ศึกษาถึงการเทรด Swap อย่างดีและชัดเจนแล้ว จะพบได้เลยว่ามีโบรกเกอร์หลากหลายโบรกเกอร์ ที่คิดหรือไม่คิดค่า Swap ซึ่งในปัจจุบันจะมีตารางเปรียบเทียบอยู่แล้วว่า โบรกเกอร์ใดที่คิดค่าใช้จ่าย Swap หรือไม่ ซึ่งโบรกเกอร์ที่เราจะแนะนำ หากท่านต้องการเข้าไปใช้บริการ ในการเทรดแล้วไม่มีค่าดังกล่าว แนะนำให้ใช้บริการโบรกเกอร์ Swap และโบรกเกอร์ XM ซึ่งเมื่อได้ศึกษาถึงตารางเปรียบเทียบแล้วจะพบว่าโบรกเกอร์ XM นั้น ไม่มีการเก็บค่า Swap เพิ่มเติมอย่างแน่นอน
ตัวอย่าง การคิดค่า Swap มีตัวแปรหลักที่สำคัญคืออัตราดอกเบี้ย โดยใช้สกุลเงินตัวหน้าเป็นหลักของการเปรียบเทียบว่า ถ้าเปิดออเดอร์แล้วจะได้หรือต้องเสียค่า Swap ให้ใช้หลักการในการจำง่ายๆว่า ถ้านำเอาเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยน้อยกว่า ไปซื้อเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าเท่ากับได้ค่า Swap เสมอ (order buy) ถ้านำเอาเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่า ไปขายให้เงินที่มีอัตราดอกเบี้ยน้อยกว่าเท่ากับจ่ายค่า Swap เสมอ order sell เป็นต้น ส่วนโบรกเกอร์ FBS ก็ไม่มีค่าใช้จ่ายดังกล่าวเช่นเดียวกัน
ส่วนโบรกเกอร์อื่นๆ ก็จะมีตารางการเก็บค่า Swap ที่แตกต่างกันออกไป บางโบรกเกอร์ก็จะมีการยกเว้นค่า Swap แค่เพียง 7 วันรู้บ้างโบรกเกอร์ก็จะเรียกเก็บ ค่าธรรมเนียมเมื่อเทรดค่ำคืน และถ้าเปิดข้ามคืนวันพุธถึงวันพฤหัส จะเก็บค่าธรรมเนียมถึง 3 เท่านั่นเอง บ้านโบรกเกอร์ก็จะเก็บค่าใช้จ่ายหลังจาก 10 วันก็มีเช่นเดียวกัน ดังนั้นจะใช้บริการในการเทรด กับโบรกเกอร์ใดควรศึกษาให้ดีก่อนว่า มีการเก็บค่าใช้จ่ายเพิ่มหรือเก็บค่า Swap ค้างคืนหรือไม่
เมื่อเราศึกษาให้ดีและชัดเจน จะทำให้เราสามารถที่จะลงทุนและ ได้รับเงินตอบแทนไปเต็มๆนั่นเอง โดยในปัจจุบันนั้นเราสามารถ หาข้อมูลเกี่ยวกับการจัดเก็บค่าใช้จ่ายต่างๆ หรือข้อดีข้อเสียของแต่ละโบรกเกอร์ ก่อนที่จะใช้บริการได้ซึ่งองค์ประกอบ ที่จะต้องพิจารณาในการใช้บริการโบรกเกอร์ใดก็ตาม ก็มีมากมายหลากหลายประการ
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความน่าเชื่อถือ ความมั่นคงเรื่องของการใช้งานที่ง่ายสะดวก ช่องทางในการใช้บริการในการฝากถอน เรื่องของระบบ Support ที่ดี หรือเรื่องของการเลือกโบรกเกอร์ Forex สเปรดต่ำ หรือมีการเรียกเก็บค่า Swap หรือไม่ ทุกอย่างล้วนแล้วแต่นำมาใช้ประกอบการตัดสินใจก่อนเลือกใช้บริการโบรกเกอร์ทั้งสิ้น
Author: