พาทำความรู้จัก 9 กองทุนทองคำ ก่อนเลือกลงทุนหุ้นทองตัวไหนดี

เรื่องUhasAuthor

พาทำความรู้จัก 9 กองทุนทองคำ ก่อนเลือกลงทุนหุ้นทองตัวไหนดี

ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ได้รับความนิยมในการลงทุนมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจผันผวน หลายคนมักสงสัยว่าลงทุนทองแบบไหนดี ระหว่างซื้อทองคำแท่ง หุ้นทอง หรือกองทุนทองคำ มาดูกันว่าทำไมกองทุนทองคำถึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ

ควรลงทุนหุ้นทองตัวไหนดี

ในปัจจุบัน การลงทุนในทองคำมีหลากหลายรูปแบบให้เลือก ทั้งการซื้อทองคำแท่งหรือทองรูปพรรณจากร้านทอง การลงทุนผ่านกองทุนรวมทองคำ หรือการซื้อหุ้นของบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับทองคำ แต่ละรูปแบบมีลักษณะเฉพาะ ข้อดีและข้อจำกัดที่แตกต่างกัน

การลงทุนผ่านกองทุนทองคำเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ด้วยความสะดวกในการซื้อขาย ไม่ต้องกังวลเรื่องการเก็บรักษา และมีผู้เชี่ยวชาญบริหารจัดการให้ นอกจากนี้ยังสามารถเริ่มต้นได้ด้วยเงินลงทุนไม่มาก เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการกระจายความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุน มาดูกันว่าการลงทุนในทองคำแต่ละรูปแบบมีความแตกต่างกันอย่างไร

ทำไมลงทุนทองคำโดยตรงกับกองทุนถึงดีกว่า

การลงทุนทองผ่านกองทุนมีข้อได้เปรียบหลายประการ เมื่อเทียบกับการลงทุนทองคำโดยตรง ดังนี้ 

  • ใช้เงินลงทุนน้อยกว่า สามารถเริ่มต้นได้ด้วยเงินเพียงหลักพัน ไม่ต้องซื้อทองคำเต็มเส้น
  • มีสภาพคล่องสูง ซื้อขายได้ง่ายผ่านแอปพลิเคชัน ไม่ต้องกังวลเรื่องการเก็บรักษา
  • มีผู้เชี่ยวชาญดูแล บริหารจัดการโดยมืออาชีพ ช่วยลดความเสี่ยงจากการตัดสินใจด้วยตัวเอง

9 กองทุนทองคำน่าลงทุน ผลตอบแทนดี

9 กองทุนทองคำน่าลงทุน ผลตอบแทนดี

หลายคนสงสัยว่าลงทุนทองแบบไหนดี จึงรวบรวม 10 กองทุนทองคำที่มีผลการดำเนินงานโดดเด่นในปี 2567 มาให้เลือกลงทุน โดยแต่ละกองทุนมีนโยบายการลงทุนและผลตอบแทนที่แตกต่างกัน เหมาะกับนักลงทุนที่มีเป้าหมายและความเสี่ยงที่ยอมรับได้แตกต่างกัน

1. KKP GOLD

กองทุนเปิดเคเคพี โกลด์ เป็นกองทุนที่มีผลตอบแทนสูงสุดในกลุ่ม โดดเด่นด้วยผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปีที่ 13.78% ลงทุนในหน่วยลงทุนของ SPDR Gold MiniShares Trust เพียงกองทุนเดียว เน้นสร้างผลตอบแทนให้สอดคล้องกับราคาทองคำในตลาดโลก

2. SCBGOLDE

กองทุนเปิดไทยพาณิชย์โกลด์ ชนิดช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ สร้างผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปีได้ถึง 13.53% มีนโยบายการลงทุนผ่าน SPDR Gold Trust เพื่อสร้างผลตอบแทนที่สอดคล้องกับราคาทองคำแท่งในตลาดโลก เหมาะสำหรับการลงทุนผ่านช่องทางออนไลน์

3. BGOLD

กองทุนเปิดบัวหลวงโกลด์ฟันด์ บริหารโดยบลจ.บัวหลวง มีผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปีที่ 12.77% เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของ SPDR Gold Trust ไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV โดดเด่นด้วยทีมผู้จัดการกองทุนที่มีประสบการณ์

4. BGOLDRMF

กองทุนเปิดบัวหลวงโกลด์เพื่อการเลี้ยงชีพ มอบผลตอบแทน 12.55% พร้อมสิทธิประโยชน์ทางภาษี เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนระยะยาวและวางแผนเกษียณ มีนโยบายการลงทุนเช่นเดียวกับ BGOLD

5. TGoldRMF-UH

กองทุนเปิดธนชาตทองคำแท่งเพื่อการเลี้ยงชีพ-UH ให้ผลตอบแทน 12.43% มีความแตกต่างจากกองทุนอื่นตรงที่ลงทุนโดยตรงในทองคำแท่งต่างประเทศ และไม่มีการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน เหมาะกับผู้รับความเสี่ยงได้สูง

6. TGoldBullion-UH

TGoldBullion-UH

กองทุนเปิดธนชาตทองคำแท่ง-UH มีผลตอบแทน 12.27% ลงทุนในทองคำแท่งต่างประเทศโดยตรง มุ่งเน้นสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับดัชนีอ้างอิง เหมาะสำหรับผู้ต้องการลงทุนในทองคำแท่งแต่ไม่ต้องการถือครองทองคำจริง

7. KF-GOLD

กองทุนเปิดกรุงศรีโกลด์ มีผลตอบแทน 12.26% โดดเด่นด้วยนโยบายไม่เก็บค่าธรรมเนียมการซื้อขายและสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน ลงทุนในหน่วยลงทุนของ SPDR Gold Trust เพื่อสร้างผลตอบแทนใกล้เคียงกับราคาทองคำ

8. BCAP-GOLD

กองทุนเปิดบีแคป โกลด์ สร้างผลตอบแทน 12.10% มีกลยุทธ์การลงทุนที่แตกต่างโดยกระจายการลงทุนในกองทุนทองคำต่างประเทศหลายกองทุน ช่วยลดความเสี่ยงจากการกระจุกตัวของการลงทุน

9. UOBSG-N

กองทุนเปิด ยูโอบี สมาร์ท โกลด์ ให้ผลตอบแทน 11.56% มีการบริหารแบบเชิงรับเพื่อสร้างผลตอบแทนใกล้เคียงกับกองทุนหลัก โดดเด่นด้วยการไม่กำหนดมูลค่าขั้นต่ำในการซื้อขาย เหมาะกับนักลงทุนทุกระดับ

และทั้งหมดนี้ก็เป็นกองทุนทองคำที่น่าลงทุนในไทยสำหรับผู้เริ่มต้นลงทุน และไม่รู้ว่าจะเลือกหุ้นทองตัวไหนดี การเข้าคอร์สสอนเทรดทองจากสถาบันที่น่าเชื่อถือ จะช่วยให้เข้าใจวิธีเทรดทองและพื้นฐานที่จำเป็น แต่หากสนใจลงทุนระยะยาว กองทุนทองคำอาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม แต่ถ้าต้องการเก็งกำไรระยะสั้น ควรศึกษาว่าเทรดทองโบรกไหนดี และเลือกช่องทางที่มีค่าธรรมเนียมเหมาะสม พร้อมระบบซื้อขายที่มีประสิทธิภาพจะตอบโจทย์มากกว่า