10 เรื่องที่ เทรดเดอร์มือใหม่ ต้องระวัง ทำหลายคนพังมาแล้ว

เรื่องPatihanUhas

เทรดเดอร์มือใหม่

10 เรื่องที่ เทรดเดอร์มือใหม่ ต้องระวัง ทำหลายคนพังมาแล้ว และในบทความนี้เราได้ถอดรหัสความรู้มาจาก ช่อง The Secret Mindset และในวันนี้เราจะมาพูดถึง 10 เรื่องที่ เทรดเดอร์มือใหม่ ต้องระวัง

 

สวัสดี ฉันชื่อมาริอุส! ช่องยูทูปนี้ฉันจะมาพูดเกี่ยวกับมุมมองและการค้นพบของเขา ที่เกี่ยวข้องกับ Forex และการซื้อขายหุ้น ก่อนอื่นเขาได้แนะนำตัวว่า ฉันไม่ใช่กูรูด้านการเทรด และไม่ได้มีความลับอะไรทั้งนั้นเกี่ยวกับตลาดการเงิน ฉันก็เป็นเทรดเดอร์.. เหมือนกับคุณๆ นั้นแหละ แต่เพียงแค่ฉันได้ค้นพบ “จุดที่น่าสนใจ กลยุทธ์ที่น่าสนใจ” ในการซื้อขายในแบบของฉันแล้ว เป้าหมายของฉันก็ คือ อยากจะช่วยพวกคุณในการค้นหากลยุทธ์ในแบบฉบับของคุณ

 

ในวีดิโอนี้ ฉันจะมาแบ่งปันประสบการณ์การเทรดของฉันเอง

 

สารบัญ

10 เรื่องที่ เทรดเดอร์มือใหม่ ต้องระวัง ทำหลายคนพังมาแล้ว

 

1. Indicators คือ ค่าย้อนหลัง เราจึงไม่สามารถพึงพามันได้ทั้งหมด 100%

โดยส่วนใหญ่แล้ว 99% ของเทรดเดอร์มือใหม่ จะเริ่มต้นการเทรดด้วยอินดิคเตอร์ต่างๆ (Indicator) ในช่วงสองปีแรกของการเทรด ฉันคิดว่าการเคลื่อนไหวของราคา Price action นั้นไม่สำคัญ เพราะฉันนั้นมี Indicators ที่สามารถตัดสินใจแทนฉันได้

 

ความจริงก็คือฉันขี้เกียจและหวังลมแล้งๆเอาเองว่า สักวันหนึ่ง Indicators ที่ฉันใช้ มันจะทำให้ฉันกลายเป็นเศรษฐีร่ำรวยได้อยากรวดเร็ว ฉันซื้อขายไปตาม Indicators ดูจุดหรือเส้นที่บอกว่า ถึงเวลาต้องซื้อและถึงเวลาที่ต้องขาย

 

การพึ่งพา Indicators 100% โดยไม่เรียนรู้วิธีการอ่านการอ่าน Price action ถือว่าเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ของฉัน (อย่าเข้าใจฉันผิด ฉันไม่ได้บกว่าตัวบ่งชี้ทั้งหมดนั้นไม่ดี หรือเทรดเดอร์ที่ใช้ Indicators นั้นเป็นเรื่องที่ผิด)

 

สิ่งที่ฉันอยากจะบอกเทรดเดอร์มือใหม่ คือ ทุกคนควรให้ความสนใจกับ Price Action ก่อนที่จะมาเลือกใช้  Indicators การที่คุณเข้าใจการทำงานของ Price Action มันสามารถช่วยให้ประสบความสำเร็จในการเทรดได้ง่ายขึ้น

 

จงศึกษาและเรียนรู้ให้เข้าใจ กับการทำงานของ Price action

 

2. หากการเทรดทำให้คุณนอนไม่หลับ แสดงว่า คุณกำลังเทรดผิดวิธี

ถ้าหากคุณอยากรู้ว่าการเทรดของคุณมีคุณภาพมากแค่ไหน ให้เช็ดได้โดยการนอนหลับของคุณ การเทรดจะไม่กวนใจของคุณเลย หากคุณกำลังดำเนินการเทรดไปในแนวทางที่ถูกต้อง

 

คุณควรตั้งค่า Stop loss และ ตั้งค่ากำไรที่คาดหวัง ให้เหมาะสมกับความเสี่ยงของคุณในแพลตฟอร์ม หลังจากนั้นก็เข้านอนอย่างสงบสุข

 

ความผิดพลาดที่พบบ่อย

 

เทรดเดอร์มือใหม่ พวกเขายังใหม่ต่อการซื้อขาย มักจะกดดันตัวเองตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะเวลาที่เปิดการค้า โชคไม่ดีนัก ยิ่งแรงกดดันที่เรามีต่อตัวเองมากเท่าไหร่ ผลลัพธ์ที่ออกมาจะยิ่งแย่ไปเท่านั้น

 

วิธีแก้ปัญหาคือ ลดขนาดการซื้อขายของคุณให้เล็กลง บริหารความเสี่ยง ทำให้ตัวเองสบายใจก่อนเข้านอน การนอนที่มีคุณภาพส่งผลให้การเทรดของคุณมีคุณภาพตามไปด้วย

 

3. หมั่นตรวจดูหลายๆ Time-Frame และ Zoom out ดูในภาพรวมให้กว้างขึ้น

Day trader ถือว่าเป็นทางเลือกที่มีความเสี่ยงมากกว่า Swing trade เพราะว่าการซื้อขายจะอยู่ในกรอบเวลาที่แคบกว่า

 

เมื่อมี Time-Frame ที่แคบลง การวิเคราะห์จาก Time-Frame เดียวคงไม่เพียงพอสำหรับ day trader เพราะว่าบางครั้งมีเวลาน้อยมากในการจับจังหวะที่เหมาะสม หากคุณเข้าช้าไปเพียงเล็กน้อย คุณอาจจะเสียโอกาสทองเหล่านั้นไปได้เลย

 

หากคุณเห็นว่า Time-Frame 15 นาที นี้ดีแล้ว เป็นที่น่าพึงพอใจแล้ว ให้ดูต่อใน Time-Frame รายชั่วโมง และ Time-Frame 4 ชั่วโมงก่อนหน้านั้น Zoom out ดูภาพที่ใหญ่ขึ้น ขยายให้กว้างขึ้น พร้อมกับการวิเคราะห์อย่างละเอียด

 

มีความยืดหยุ่นในการตัดสินใจ

 

เพราะว่าบางครั้งโอกาสมาในรูปแบบ Time-Frame ที่ไม่ชัดเจน เทรดเดอร์ต้องมองในภาพใหญ่ และมองในมุมกลับกัน วิเคราะห์ให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อขาย

 

4. ตัดสัญญาณรบกวน (Noise) ในการเทรด

ในช่วงที่ตลาดผันผวนอย่างรุนแรงนั้น หากว่าคุณรู้สึกว่าเกิดความสับสนมากๆ ล่ะก็ มีความเป็นไปได้ค่อนข้างมากเลยทีเดียว ที่คุณอาจมี “จุดตัดสินใจ” ที่ไม่ชัดเจน โดยมีสัญญาณรบกวน (Noise)มารบกวนการเทรดของคุณ

 

Noise คืออะไร มันก็คือสัญญานที่ทำให้คุณตัดสินใจผิดพลาดในการซื้อขาย นั่นแหละคือ noiseทั้งหมด ดังนั้นคุณก็ต้องขจัดมันไป โดยการสังเกตตัวคุณเอง ทำให้อารมณ์ของคุณอยู่ภายใต้ควบคุมของคุณเอง

 

ฉันก็ประสบกับเหตุการณ์นี้อยู่บ่อยครั้ง อารมณ์ที่เข้ามารบกวนทำให้การตัดสินใจของฉันผิดพลาด ทำให้ไม่ได้ดำเนินการไปตามกลยุทธ์ที่วางเอาไว้

 

ไม่สนใจ (Noise) ในการตลาด

 

เทรดเดอร์ควรยืดมั่นในกลยุทธ์ของตัวเอง ถ้าหากว่าคุณติดกับดักไปมีอารมณ์ร่วมกับตลาด สิ่งนี้อาจจะทำให้คุณขาดทุนได้ หรืออย่างน้อยๆก็ทำลายความมั่นใจของคุณลงได้

 

ดังนั้นตวรวางแผนว่าคุณจะทำอะไร ,แบบไหน, อย่างไร เมื่อสัญญาณเหล่านั้นเกิดขึ้น ทั้งในส่วนของการซื้อ-ขาย, Money Management, Portfolio Management และอื่นๆที่คุณจะคิดได้

 

โดยเมื่อคุณคิดว่าคุณมั่นใจแล้วว่ามันได้ครอบคลุมสิ่งที่จำเป็นทั้งหมดแล้ว คุณก็ควรฝึกฝนที่จะเสพข้อมูลข่าวสารเฉพาะที่จำเป็น และทำตามสัญญาณที่มีนัยสำคัญเท่าที่จะทำได้ให้มากที่สุด อย่าตื่นเต้นตกใจไปกับสิ่งต่างๆที่จะวิ่งเข้ามา และถึงแม้มันอาจทำให้เราต้องรู้สึกแปลกๆหรืออึดอัดบ้างในช่วงแรกๆ แต่คุณก็ควรพยายามฝึกฝนมันเอาไว้ โดยเมื่อเวลาผ่านไปแล้ว คุณก็น่าจะค่อยๆเคยชินกับมันไปได้เอง

 

5. เรียนรู้แนวทางการเทรด จากสูตรของเคลลี่ Kelly Formula

หากว่าคุณกำลังสงสัยว่าคุณจะรู้ได้อย่างไร ว่าคุณควรที่จะกำหนดความเสี่ยงทั้งหมดในการซื้อขายแต่ล่ะครั้ง เราอาจนำสูตรของเคลลี่มาใช้เพื่อช่วยหา “ขนาดการลงทุน” ที่เหมาะสม หรือการกำหนดปริมาณที่เหมาะสมที่จะใช้ในการซื้อขายแต่ละครั้ง

 

เทรดเดอร์มือใหม่

 

สูตรของเคลลี่นั้นก็คือ : Kelly% = W-(1-W)/R

 

โดยที่

  • K % = สัดส่วนร้อยละของเงินทุนที่เหมาะสม ในการที่จะเดิมพันในแต่ละครั้ง
  • W = อัตราส่วนร้อยละของการเทรดซึ่งเกิดเป็นกำไรขึ้น (ความแม่นยำคิดเป็นเปอร์เซนต์)
  • R = อัตราส่วนระหว่างขนาดของกำไรโดยเฉลี่ย/ขนาดของการขาดทุนโดยเฉลี่ย

 

ยกตัวอย่าง

 

หากคุณมีค่า W (ความแม่นยำ) อยู่ที่ 30% โดยมีค่า R (อัตราต่อรอง) อยู่ที่ 5:1 คุณควรที่จะกำหนดความเสี่ยงหรือเงินเดิมพันที่คุณยอมจะสูญเสียได้ในแต่ละครั้งเท่ากับ

 

  • Kelly % = 0.3 – (1- 0.3)/5
  • = 0.3 – 0.14
  • = 0.16 หรือคิดเป็นร้อยละ 16 ของเงินทุน (16%) นั่นเอง

 

สูตรของเคลลี่ Kelly Formula เป็นที่รู้จักแพร่หลายในกลุ่มของนักลงทุน และยังถือว่าเป็นเครื่องมือที่จัดการการเงินได้ดีที่สุดสำหรับการตัดสินใจในการบริหารความเสี่ยง

 

6. หากตลาดเงียบๆ ไม่น่าสนใจ ก็ไม่ต้องเทรดดีกว่า

หากคุณพบว่าตัวเองกำลังกระโดดเข้าสู่ตลาดที่ดูเงียบแปลกๆ หาความน่าเชื่อถือยังไม่เจอ อาจทำให้คว้าน้ำเหลวได้ ความผิดพลาดนี้ส่วนมากจะเกิดกับเทรดเดอร์มือใหม่ ที่ยังขาดความรู้และประสบการณ์

 

สิ่งที่ควรทำคือรอไปก่อน อย่าพึ่งด่วนตัดสินใดๆ ในการลงทุน ควรทำการวิเคราะห์

 

เทรดเดอร์ควรใช้เวลาให้น้อยลงในการดูแผนภูมิ และเอาเวลาส่วนใหญ่ไปศึกษา ค้นคว้า ดูกราฟย้อนหลังเกี่ยวกับสิ่งที่ตัวเองกำลังจะลงทุน ทำการวิจัยด้วยตัวเองอย่างละเอียด

 

หากคุณทำการ Overtrade มากกว่ากลยุทธ์ที่ได้วางเอาไว้ นั้นเป็นสัญญานเตือนว่าคุณกำลังเสี่ยงมากเกินไป สาเหตุอาจมาจาก

  • การเบื่อหน่ายที่เทรดตามแผน
  • การขาดวินัยในการเทรด

 

และยิ่งเสี่ยงมากขึ้นไปอีก หากลงทุนในตลาดที่กำลังอยู่ในสภาวะนิ่งเงียบ.. “ติดดอย”

 

7. จัดโครงสร้างและวางแผนอย่าละเอียดในการเทรดของคุณ

  • สัญญาณใดที่เป็นเหมือน “ไฟเขียว” สามารถเปิดทางให้คุณเข้าสู่ตลาด
  • จะเกิดอะไรขึ้นหากตลาดเริ่มต่อต้านคุณ
  • จุด Stop Loss ของคุณ ควรวางอยู่ในตำแหน่งไหน
  • คุณจะทำอย่างไรหากตลาดไม่เคลื่อนไหวและมันทำให้คุณติดดอย
  • ถ้าคุณทำกำไรได้ คุณจะทำอย่างไรกับมันต่อไป

 

คุณต้องวางแผนและจัดโครงสร้างทุกการค้าอย่างรอบคอบ เพื่อให้คุณรู้ว่าต้องทำอะไร ในสถานการณ์ใด แผนการซื้อขายอาจจะต้องมีความซับซ้อนบ้างเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพและประสิทธิผล แต่มันก็ต้องง่ายพอที่จะตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว

 

8. การเทรดในชั่วโมงที่มากขึ้น ไม่ได้แปลว่ามันจะสามารถสร้างกำไรได้มากขึ้น

การเทรดระหว่างวันมักจะเต็มไปด้วยความวุ่นวาย และความเครียด การที่คุณเทรดเป็นระยะเวลานานๆ นั่งอยู่หน้าจอคอมเป็นเวลานาน หลายชั่วโมง

 

อาจจะส่งกระทบให้คุณเหนื่อยและหมดพลัง ขาดสมาธิ ขาดการ Focus สิ่งเหล่านี้มันส่งผลทำให้การเทรดของคุณนั้น ด้อยประสิทธิภาพ

 

ตลาดไม่สนใจว่าคุณจะซื้อขายในเวลาเท่าไหร่

 

จงเทรดให้น้อย.. อย่างมีคุณภาพ..

 

ให้ความสำคัญในการ Focus กับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ในขณะที่เทรด

 

ถ้าหากว่าคุณอยากจะมี Focus ที่ดีมากขึ้น คุณควรปล่อยให้ตัวเองได้ relax

 

มีการวิจัยออกมาว่า มนุษย์เราจะสามารถมีสมาธิในการ Focus ได้ดีที่สุด เพียงแค่ 4 ชั่วโมงแรกเท่านั้น ดังนั้นคุณควรรู้การทำงานของร่างกายและสมองคุณก่อนทำการเทรด อย่าหักโหมตัวเองมากเกินไปในการเทรด ชั่วโมงที่มากขึ้นไม่ได้แปลว่าจะสร้างกำไรได้มากขึ้น

 

9. อย่าเข้ามาเทรด เพียงเพื่อหวังรายได้ประจำ

การที่สร้างรายได้ ได้อย่างมั่นคง ต้องอาศัยความรู้และประสบการณ์หลายปี เทรดเดอร์ที่ชำนาญมากๆ ยังมีโอกาสตัดสินใจผิดพลาดได้เลย

 

ผมได้เห็นพวกที่ชอบอวดรถหรู บ้านหรู หรือไลฟ์สไตล์ไฮโซ ในโซเซียล พวกเขาทได้เงินที่มาจากการเทรด พวกเขาเหล่านั้น มักอ้างว่าการเข้ามาเทรดใน Forex นี้รวยจริงๆน่ะ ทำให้กลายเป็นแรงบันดาลของคนทั่วไป ส่งผลให้คนทั่วไปอยากจะลาออกจากงานเพื่อที่จะมาเป็น Day trader อย่างเต็มตัว โดยที่ยังขาดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับตลาดการเงินนี้

 

ฉันไม่ได้บอกว่าพวกเขานั้น เป็นพวกหลอกลวง ประเด็นของฉันคือ คุณไม่จำเป็นที่จะลาออกจากการประจำ คุณสามารถทำงานประจำไปด้วยและเทรดไปด้วย เพราะก็มีเทรดเดอร์หลายคนประสบความสำเร็จในการเทรดในขณะที่เขายังทำงานประจำอยู่

 

อย่าพึ่งตัดช่องทางรายได้ของคุณเพื่อหวังที่ร่ำรวยในการเป็น Day trader

 

10. อย่าเชื่อสิ่งที่คุณอ่าน จนกว่าคุณจะได้ทดลองด้วยตัวของคุณเอง

สิ่งที่เคยใช้ได้ผลในตลาดเมื่อ10ปีก่อน อาจจะใช้ไม่ได้ผลในวันนี้

 

กลยุทธ์ที่ใช้ได้ดีใน H4 Time-Frame ของหุ้น Tesla อาจจะใช้ไม่ได้ผลกับแผนภูมิ 5 นาทีของ Bitcoin

 

นั้นเป็นข้อผิดพลาดของเทรดเดอร์มือใหม่ ที่ไม่เข้าใจว่ากลยุทธ์ที่ต่างกัน ทำงานในตลาดที่แตกต่างกัน

 

และคุณจะรู้ได้อย่างไรว่ากลยุทธ์ไหน? ใช้ได้ดีกับตลาดไหน?  ดังนั้นคุณต้องทำการทดสอบและวิเคราะห์อย่างเข้มงวด

 

ยกตัวอย่าง

 

การทดสอบระบบกลยุทธ์เทรดย้อนหลัง (Backtesting)

เทรดเดอร์หลายคนมักจะเขี้เกียจ แต่ว่าการใช้ทดสอบ Backtesting นี้ มันสามารถช่วยคุณได้อย่างมากในการเทรดให้ประสบความสำเร็จ

  • ช่วยวัดแผนของคุณว่า ดำเนินการตามทฤษฎีที่วางไว้หรือไม่
  • ด้วยข้อมูลเหล่านี้ มันสามารถยืนยันและให้ผลได้อย่างเป็นกลาง ว่าการเทรดจะสามารทำเงินให้คุณได้หรือไม่

 

Backtesting เปรียบเสมือนดั่งกระจกสะท้อนความจริง

 

ความแม่นยำของ Backtesting

 

แน่นอนว่า “อดีต”ไม่สามารถบ่งบอกถึง “อนาคต” ได้ทั้งหมด แต่มันก็ยังพอเป็นแนวทางให้เราศึกษาที่มาที่ไปเรียนรู้จากอดีตเพื่อดูแนวทางที่สามารถเป็นไปได้ในอนาคต อย่างน้อยการรู้ที่ Backtesting ก็ยังดีกว่า.. เทรดแบบคน “ตาบอด”

 

ปล. กลยุทธ์บางอย่างอาจจะใช้ไม่ได้ผลในทันที บางอย่างต้องอาศัยเวลาและประสบการณ์ของตัวเทรดเดอร์เอง

 

Source

 

 

Website: https://thesecretmindset.com