5 เทคนิคการ Scalping ปั้นพอร์ต Forex ให้โตอย่างรวดเร็ว

เรื่องPatihanUhas

เทคนิคการ Scalping

5 เทคนิคการ Scalping ปั้นพอร์ต Forex ให้โตอย่างรวดเร็ว

 

5 เทคนิคการ Scalping ปั้นพอร์ต Forex ให้โตอย่างรวดเร็ว

5 เคล็ดลับนี้สามารถช่วยให้เจ้าของช่อง (The trading Geek) ขยายพอร์จาก 500$ ไปเป็น 9,000$ ภายในระยะเวลาเพียง 3 วันเท่านั้น โดยใช้กลยุทธ์ “Scalping”

 

Scalping: เป็นกลยุทธ์การทำกำไรโดยการเปิดและปิดการซื้อขายในช่วงสั้น ๆ ทำกำไรเพียงไม่กี่จุด

 

 เคล็ดลับที่ 1 กำจัดข้อผิดพลาด (Eliminate mistakes)

คุณต้องหาให้ได้ว่าข้อผิดผลาดในการเทรดของคุณคืออะไร เมื่อรู้แล้วก็ควรทำลายมันซะ

 

รู้ได้ไงว่าอะไรคือข้อผิดพลาด ?

 

ข้อผิดพลาด = การขาดทุน

 

ยกตัวอย่าง

  • Revenge Trading การเทรดเพื่อแก้แค้น: ยิ่งเอาคืน ยิ่งเจ็บหนัก
  • Forcing the trades การเสพติดการเทรด: เข้าเทรดเพียงเพราะว่าไม่มีอะไรทำ เทรดทั้ง ๆที่ไม่ได้มีแผนรองรับที่ดีพอ
  • Too big lot size การโอเวอร์เทรด

 

และก็มีอีกหลายๆข้อผิดพลาดที่คุณจะต้องเช็คตัวเอง และกำจัดมันออกไปให้พลาดน้อยที่สุด ท้ายที่สุดก็จะเป็นการเทรดด้วยความสม่ำเสมอ ผลลัพธ์ที่จะได้คือ เราจะประสบความสำเร็จในการเทรดอย่างยั่งยืน

 

เคล็ดลับที่ 2 มีกลยุทธ์ในการเทรด  (Use Key Levels)

เทรดเดอร์หน้าใหม่ยังเทรดแบบไม่มีกลยุทธ์ใดๆ ถ้าหากคุณอยากสร้างรายได้อย่างสม่ำเสมอคุณต้องมีกลยุทธ์ที่ดี

 

ยกตัวอย่าง Key Levels

  • Trend line
  • Support and resistance levels
  • Supply and demand zone

 

โดยส่วนตัวของเจ้าของช่อง (The trading Geek) ชอบกลยุทธ์การเทรดแบบ Supply and Demand

 

คื อการที่ตลาดมีแรงซื้อและขายอย่างรุนแรง โดยควรจะเข้าซื้อที่โซน Demand  และทำการขายที่โซน Supply แต่ควรต้องรับทราบว่าโซนที่เกิดใหม่จะมีประสิทธิภาพมากกว่าโซนที่ถูกทดสอบแล้ว พวกมันสามารถถูกใช้เป็นโซนในการเข้าเทรดสำหรับเทรนด์ต่อเนื่อง หรือโซนในการกลับตัวสำหรับเทรนด์ที่กำลังเปลี่ยน การเข้าซื้อขายสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งแบบ aggressive หรือ conservative โดยขึ้นกับกฎของการเข้าเทรดและปิดสถานะของแต่ละคน

 

 

เคล็ดลับที่ 3 ทำการเทรดที่เชิงคุณภาพ (Take the right trade)

เวลาทำการเทรดให้โฟกัสไปที่ “คุณภาพ” ไม่ใช่ “ปริมาณ” ทำการบ้านวางแผนมาให้ดี แล้วเทรดอย่างมีคุณภาพ ในไอเดียของ (The trading Geek)  เขาได้อธิบายว่า การเทรดที่คุณภาพ ก็เหมือนกับการเล่มเกมส์ สำหรับมือใหม่ก็จะอยู่ใน level ที่ 1 แต่หลังจากฝึกทักษะ เพิ่มความชำนาญ ฝีมือก็จะพัฒนาไปเรื่อย ๆ เป็น level ที่ 2 , 3 ,4

 

การเทรดเชิงคุณภาพมาจากการวางแผนการเทรดเป็นอย่างดี การเปิดคำสั่งน้อย เพราะมีการกรองสัญญาณของกราฟ เช่น วางแผนการเทรดไปตามแนวโน้ม ราคา และสัญญาณที่เกิดขึ้น หรือตามเทคนิคของแต่ละคน ซึ่งการวางแผนการเทรดที่ดี ไม่ได้อ้างอิงแค่สัญญาณอย่างใดอย่างหนึ่ง แล้วรีบเปิดคำสั่งเพราะกลัวตกรถ

 

แต่เป็นการ checklist ว่าสัญญาณที่เกิดขึ้นเข้ารูปแบบที่จะเปิดคำสั่งหรือไม่ ถ้าไม่ใช่ ก็นั่งทับมือรอกันต่อไป จนกว่าจะเกิดสัญญาณให้เทรดขึ้นอีกครั้ง

 

การเทรดเชิงคุณภาพ อาจจะแค่เพียงอาทิตย์ละไม่กี่คำสั่งเท่านั้น เป็นการเทรดที่เปิดคำสั่งตามแผนที่วางไว้ ตั้ง take profit/stop loss และไปทำอย่างอื่นต่อ ไม่ต้องเฝ้าจอตลอดเวลา เพื่อให้เวลากับกราฟที่วิ่งไปตามตลาด

 

นักเทรดต้องมีความอดทนรอคอยได้ ถือเป็นการสร้างวินัยให้กับตัวเองได้เป็นอย่างดี

 

เคล็ดลับที่ 4 ค่อยๆ เพิ่ม lot ทีละนิดๆ (Progressive overload)

(The trading Geek) ได้เปรียบเทียบการเทรดเหมือนการเทรนร่างกายในการเพิ่มกล้ามเนื้อ ในแต่ละวันก็จะเพิ่มแรงกระตุ้นให้กล้ามใหญ่ขึ้น แข็งแรงขึ้นเป็นขั้นเป็นตอน

 

การเทรดให้เร็วและเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี ควรใช้คอนเซ็ปนี้เหมือนกัน ค่อยๆเพิ่ม Lot ไปทีละนิดอย่างมั่นคง ตามแผนการเทรดที่ได้วางไว้ แผนการจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะเราอาจจะพบเจอกับสิ่งที่ไม่คาดคิด เจอเหตุการณ์ไม่ปกติเกิดขึ้นได้เสมอ ถ้าไม่มีแผน หรือปล่อยให้ทุกอย่างตัดสินใจไปตามอารมณ์ ความผิดพลาดก็จะเกิดขึ้นได้ง่าย และนำมาซึ่งการขาดทุนสูญเสียเงินหนัก

 

เคล็ดลับที่ 5 พัฒนาทักษะการเทรดในทุกๆวัน (Improve until you die…)

“ทำวันนี้ให้ดีกว่าเมื่อวาน”  การพัฒนาทักษะการเทรดในทุกๆวัน อย่างเช่น การจดบันทึกผลการเทรด งานที่เป็นกิจวัตรหลังตลาดปิดที่เทรดเดอร์ต้องทำเพื่อทบทวนการเทรดของตัวเอง สิ่งเหล่านี้คือส่วนหนึ่งของกระบวนการฝึกฝนที่ต้องทำต่อเนื่องทำทุกวันในระยะเวลายาว อาจจะไม่เห็นผลอันสั้น จึงทำให้น้อยคนที่จะสามารถมีวินัยบังคับตัวเองให้ทำต่อเนื่องจนสำเร็จได้

 

Source