CFD ในภาษาไทยแปลว่า สัญญาซื้อขายราคาส่วนต่าง ได้รับความนิยมอย่างมากในปี 2000 ซึ่งการเทรด CFD นั้น นับเป็นการลงทุนโดยอาศัยระบบมาร์จิ้นเสริมด้วย เช่น การเทรดในตลาดหุ้น ที่เปิดโอกาสให้นักลงทุนได้ทำกำไรในช่วงขาขึ้นและขาลงนั่นเอง มาทำความรู้จัก CFD คืออะไรได้จากบทความนี้
Contract for Differences (CFD) คืออะไร
CFD คือ สัญญาซื้อขายส่วนต่าง ย่อมาจาก Contract for Difference เป็นสัญญาที่ใช้ในกรณีทำการซื้อขายส่วนต่างในราคาของสินทรัพย์ ในเวลาที่ทรัพย์สินนั้นเปิดสัญญาและจุดเวลาที่ทำการปิดสัญญา และหากอยากเข้าใจการเทรดแบบ CFD นั้น ต้องเริ่มทำความเข้าใจหลักการการลงทุนแบบดั้งเดิมกันก่อน เพราะเดิมที่การลงทุนในบริษัทใดบริษัทหนึ่ง การซื้อขายหุ้นของบริษัทมูลค่าราคาหุ้น จะขึ้นกับเวลาปัจจุบัน ณ ตอนนั้น การเก็งกำไรจะเกิดขึ้นเมื่อเราปล่อยขายตอนราคาหุ้นขยับขึ้นสูง เพื่อสร้างผลตอบแทนจากส่วนต่างจากช่องว่าง CFD นั้นเอง
การเทรด CFD มีอะไรบ้าง
ใครที่สนใจอยากจะลงทุนในตลาด CFD เรามาดูกันดีกว่าการเทรด CFD มีอะไรบ้าง ดังนี้
- สินค้าโภคภัณฑ์ : CFD เปิดโอกาสให้นักลงทุนซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น ทองคำ น้ำมัน โดยไม่ต้องถือครองสินค้าจริง
- ดัชนีหุ้น : นักลงทุนสามารถเทรด CFD บนดัชนีหุ้นสำคัญทั่วโลก เช่น S&P 500, FTSE 100 โดยไม่ต้องซื้อหุ้นทุกตัวในดัชนี
- สกุลเงิน : CFD ช่วยให้นักลงทุนเข้าถึงตลาด Forex ได้ง่ายขึ้น โดยสามารถเทรดคู่สกุลเงินต่าง ๆ ได้
- หุ้นรายตัว : นักลงทุนสามารถเทรด CFD บนหุ้นของบริษัทชั้นนำทั่วโลก โดยไม่ต้องถือครองหุ้นจริง
- คริปโทเคอร์เรนซี : CFD เปิดโอกาสให้นักลงทุนเข้าถึงตลาดคริปโทเคอร์เรนซีได้ โดยไม่ต้องถือครองสกุลเงินดิจิทัลจริง
5 เหตุผลที่ควรซื้อขายด้วยสัญญา CFD
การซื้อขายด้วยสัญญา CFD นั้นเป็นการลงทุนที่ใช้เงินลงทุนต่ำและมีระดับความเสี่ยงที่ไม่สูงมากอีกด้วย ดังนั้นจึงเปิดโอกาสให้นักลงทุนมือใหม่ สามารถเข้าถึงตลาดการเงินต่าง ๆ ได้อย่างดี มาดูกันว่า 5 เหตุผลที่ควรซื้อขายด้วยสัญญา CFD มีอะไรกันบ้าง ดังนี้
1. ใช้ Leverage ในการเทรด
การใช้ Leverage จะช่วยให้นักลงทุน สามารถซื้อขายออเดอร์ขนาดใหญ่ ด้วยเงินทุนขั้นต่ำ เปิดโอกาสให้นักลงทุนเข้าถึงผลตอบแทนที่มหาศาล แม้จะเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่แลกกับได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้นตามมาด้วยเช่นกัน ดังนั้นเทรดเดอร์ที่ลงทุนด้วยสัญญา CFD สามารถใช้ระบบมาร์จิ้นและเลเวอเรจเข้ามาเสริม จะทำให้นักลงทุนต่าง ๆ เข้าถึงตลาดการลงทุนขนาดใหญ่ได้มากขึ้น
2. ทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและลง
โดยทั่วไป นักลงทุนในตลาดหุ้นต่าง ๆ จะไม่สามารถวางคำสั่งอื่นนอกจากคำสั่งซื้อได้อย่างเดียวเท่านั้น แต่สำหรับการลงทุนในรูปแบบ CFD จะเปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถวางทั้งคำสั่งซื้อและคำสั่งขายได้อีกด้วย ไม่เพียงแต่ตลาดดัชนีเท่านั้น ตลาดอื่นอย่างสกุลเงินก็ทำได้เช่นกัน ดังนั้นการลงทุนรูปแบบ CFD จึงลดความเสี่ยงได้มากกว่า
3. ซื้อขายสินทรัพย์ได้หลากหลาย
เงินของคุณจะไม่ผูกติดกับธุรกรรมเดียว เนื่องจากคุณสามารถซื้อขายสินทรัพย์ได้หลากหลายโดยไม่ต้องฝากมูลค่าเต็มของผลิตภัณฑ์ และถ้าซื้อขายโดยใช้มาร์จิ้น การขาดทุนก็จะถูกเพิ่มไปด้วย
4. กลยุทธ์ในการป้องกันความเสี่ยง
รูปแบบการลงทุน CFD ในตลาดดัชนี เหมาะกับการลงทุน เพื่อป้องกันความเสี่ยงสำหรับนักเทรดที่มีต้นทุนต่ำได้ดี โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่เกิดความผันผวนของตลาดทางการเงินสูง ด้วย CFD นักลงทุนไม่จำเป็นต้องขายสินทรัพย์ที่ตกอยู่ในความเสี่ยงทั้งหมด อาจจะใช้กลยุทธ์นี้แบ่งสินทรัพย์บางส่วนเก็งกำไรต่อไปได้
5. ค่าธรรมเนียมการเทรดถูก
เมื่อเปรียบเทียบค่าธรรมเนียมกับการลงทุนดัชนีจริงแล้ว การเทรดแบบสัญญา CFD นั้นใช้ต้นทุนที่ต่ำกว่ามาก โดยเฉพาะบางแพลตฟอร์มนั้นไม่มีการหักค่าคอมมิชชันในการเทรดแบบ CFD ด้วยซ้ำ เมื่อไม่มีค่าคอมมิชชัน ค่าใช้จ่ายการทำธุรกรรมก็จะถูกลงตามมาด้วยเช่นกัน
การเทรด CFD มีความเสี่ยงอะไรบ้าง
สำหรับความเสี่ยงของการเทรด CFD จะมีอะไรบ้างนั้น คุณสามารถดูได้ดังนี้
- ความเสี่ยงจากเลเวอเรจ : การใช้เลเวอเรจสูงอาจนำไปสู่การขาดทุนที่เกินกว่าเงินลงทุนเริ่มต้น
- ความผันผวนของตลาด : ราคาสินทรัพย์อ้างอิงอาจเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลต่อกำไรขาดทุน
- ความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง : บางครั้งอาจเกิดปัญหาในการปิดสถานะเมื่อตลาดมีความผันผวนสูง
- ความเสี่ยงด้านคู่สัญญา : ผู้ให้บริการ CFD อาจประสบปัญหาทางการเงิน ส่งผลต่อเงินลงทุนของคุณ
- ต้นทุนการถือครองระยะยาว : การถือครอง CFD ข้ามคืนอาจมีค่าธรรมเนียมที่สูง
- ความเสี่ยงจากการขาดความเข้าใจ : นักลงทุนที่ไม่เข้าใจกลไกของ CFD อย่างถ่องแท้อาจเสี่ยงต่อการขาดทุนมาก
สรุปบทความ
อย่างไรก็ตามการเทรดนั้น นักลงทุนจะต้องมีเป้าหมายเป็นตัวเลขที่ต้องการก่อนเสมอหรือเข้าคอร์สสอนเทรด forex ตัวต่อตัว จึงจะสามารถแบกรับความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นได้เสมอ เนื่องจากการเทรดแบบ CFD เป็นเครื่องมือที่มีเลเวอเรจ กำหนดเป้าหมายไว้ล่วงหน้า ทั้งกำไร และการสูญเสีย การเทรดจะหยุดทันทีเมื่อคุณถึงเป้าหมายไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่ง ดังนั้นควรมีการวางแผนและตั้งเป้าหมายอย่างรอบคอบก่อนลงทุน
Author: