ดัชนีดาวโจนส์ คืออะไร

เรื่องUhasAuthor

ดัชนีดาวโจนส์ คืออะไร

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ หรือ Dow Jones Industrial Average หรือ ดาวโจนส์ คือ สิ่งที่หลายๆคนคงได้ยินผ่านการรายงานข่าวจากสำนักข่าวการลงทุนต่างๆ รวมไปถึงสื่อ Social Media กันบ้าง แล้วคุณรู้หรือไม่? ซึ่งดาวโจนส์ก็เหมือนเสาหลักของโลกการลงทุน หากสำนักข่าวพูดชื่อขึ้นเมื่อไร ต้องสะเทือนทั้งวงการ ไม่ว่าจะข่าวดี-ข่าวร้าย ก็ส่งผลต่อตลาดหุ้นไปทั่วโลก ดังนั้นบทความนี้จะช่วยให้นักลงทุนเข้าใจเกี่ยวกับดาวโจนส์ว่ามีความสำคัญอย่างไร มาติดตามพร้อมๆกันเลย

ดาวโจนส์ คืออะไร

ดาวโจนส์ คืออะไร

ดาวโจนส์ คือ หนึ่งในดัชนีตลาดหุ้นในอเมริกาที่มีอายุมายาวนานที่สุด มีชื่ออย่างเป็นทางการ คือ ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (The Dow Jones Industrial Average) โดยมีตัวย่อ DJIA หรือ DJI หมายถึง ดัชนีตลาดหุ้นในประเทศสหรัฐอเมริกา คำนวนจากหุ้น ‘Bluechip’ ที่มีบริษัทใหญ่สุด 30 บริษัทจากตลาดซื้อขายหุ้น NYSE (ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก) และ NASDAQ (ตลาดแนสแด็ก คอมโพสิต) โดยมีการคำนวนมูลค่าบริษัทจากแหล่งรายได้ หรือการมีอิทธิพล ไม่ใช่เฉพาะคนอเมริกาเท่านั้น แต่ยังเป็นบริษัทข้ามชาติที่รับรู้รายรับจากทั่วทุกมุมโลกที่สามารถเข้าถึงได้มากที่สุด ซึ่งส่งผลให้เป็นตัวบ่งบอกสภาพเศรษฐกิจของสหรัฐฯได้เป็นอย่างดี เพราะ 30 บริษัทที่อยู่ในกลุ่มดัชนีดาวโจนส์ถูกคำนวนผ่าน Wall Street Journal และ Dow Jones & Company ทำให้ได้รับการยอมรับสูงสุดให้เป็นภาพรวมเศรษฐกิจของสหรัฐฯ โดยมีบริษัทที่หลายๆคนรู้จักกันทั่วโลกอย่าง Coca-Cola, Microsoft, Apple, Nike และอีกหลายๆบริษัท ซึ่งยอดขายหรือยอดรายรับของกลุ่มดัชนีดาวโจนส์ ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นและเศรษฐกิจของโลกนั่นเอง

ดาวโจนส์ สำคัญอย่างไรต่อการลงทุน

อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า กลุ่มดัชนีดาวโจนส์มีบริษัทใหญ่สุด 30 บริษัท ดัชนีดาวโจนส์ คือตัวบ่งบอกสภาพเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นทุกกลุ่ม รวมไปถึงเศรษฐกิจของโลก ซึ่งการลงทุนจากนักลงทุนต้องมีการคำนวนหรือคาดการณ์สถานการณ์จาก ‘ผลประกอบการของบริษัท’ ย่อมทำให้นักลงทุนเกิดความคาดหวังต่อผลประกอบการบริษัทว่าไปในทิศทางใด โดยนักลงทุนจะมองทิศทางกลุ่มบริษัทสามารถทำกำไรได้ หรือขาดทุนลง ซึ่งหากดาวโจนส์เป็นลบ เพราะนักลงทุนมองว่าบริษัททั้งหมดขาดทุน ไม่สามารถทำกำไรได้ เพราะมีปัจจัยภายนอกหรือสถานการณ์ต่างๆ เช่น โรคระบาดโควิด-19, วัสดุในการผลิตขาดแคลน, สงครามข้ามชาติ เป็นต้น จึงรวมกันเทขายหุ้น ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกเป็นลบ และเศรษฐกิจโลกเกิดการชะลอตัว แต่กลับกันหากดาวโจนส์เป็นบวก แปลว่านักลงทุนกล้าที่จะลงทุนกับบริษัท และมองว่าสามารถทำกำไรได้อย่างแน่นอน ทำให้เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวและคล่องตัวมากยิ่งขึ้น

ทำไมถึงควรเทรดดัชนีดาวโจนส์

หากพิจารณาว่า ‘เทรดดัชนีดาวโจนส์’ มีความง่ายมากที่สุด เพราะคุณสามารถใช้คำนวณทิศทางของหุ้นในทางขาบวกหรือทางขาลงได้ง่ายที่สุด โดยดูจากภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นหลัก ซึ่งมีเหตุการณ์วิกฤตที่เคยเกิดขึ้นอย่าง Subprime ที่ผ่านมา นักลงทุนแทบใช้แนวโน้มตลาดหุ้นกลุ่มดัชนีดาวโจนส์ 100% เพื่อเก็งกำไรสร้างผลตอบแทนได้ทั้งขาขึ้นและขาลง ซึ่งสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของดัชนีได้ผ่านเว็บไซต์การลงทุนต่างๆ อย่างเช่น Bloomberg, CNBC และ MarketWatch เป็นต้น ทำให้เทรดดัชนีดาวโจนส์ได้ทั้งขาขึ้นและขาลงอย่างแน่นอน

ทำความเข้าใจกับการเทรดดาวโจนส์เบื้องต้น

หลายๆ คนคงทำการเทรดดาวโจนส์อยู่กันบ้างแล้ว สำหรับมือใหม่ที่ต้องการเทรดหุ้นดาวโจนส์จำเป็นต้องทำความเข้าเกี่ยวกับการเทรดเสียก่อน ซึ่งจริงๆแล้วการเทรดไม่ได้ยุ่งยาก หรือซับซ้อนแต่อย่างใด แต่ในปัจจุบันนัก Trader มักเทรดดาวโจนส์กันผ่าน Forex เพราะให้ผลตอบแทนที่สูง และสามารถทำเงินได้รวดเร็ว นอกจากนี้ มือใหม่หัดเทรด Forex ก็สามารถทำกำไรในจากการเทรดได้ง่ายๆ ตลอดเวลา โดยต้องมีความรู้เบื้องต้นในการกำหนด Stop Loss และ Take Profit หลังจากนั้นควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Money Management เพื่อวางแผนการเงินให้รับความเสี่ยงที่ต้องการเทรด โดยที่ไม่เดือดร้อนตนเองและผู้อื่น รวมไปถึงสามารถลดความเสี่ยงจากการลงทุนได้อีกด้วย

สรุปเกี่ยวกับหุ้นดาวโจนส์ หรือ ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์

ทั้งหมดนี้ก็คือ ความสำคัญของหุ้นดาวโจนส์ หรือดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ซึ่งถือเป็นเครื่องมือใช้ในการเทรดเก็งกำไรได้ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งสามารถดูข้อมูลข่าวสารอยู่ตลอด เพื่อไม่ให้พลาดสถานการณ์ของดาวโจนส์ และที่สำคัญคุณต้องมี พื้นฐาน Forex เสียก่อน จึงทำให้ทุกการเทรดมีโอกาสทำเงินได้จริง และลดความเสี่ยงจากการลงทุนได้เป็นอย่างดี สุดท้ายแล้วบทความนี้ไม่ได้ชี้นำให้ลงทุนแต่อย่างใด เป็นการเสริมความรู้ และความเข้าใจในตัวหุ้นดาวโจนส์มากยิ่งขึ้น ดังนั้นควรศึกษาความเสี่ยงให้ดีก่อนลงทุนทุกครั้ง ขอให้ทุกคนโชคดีกับการลงทุน