Market Capitalization หรือ Market Cap หาสินทรัพย์ที่น่าลงทุน

เรื่องUhasAuthor

Market Cap คืออะไร บอกอะไรนักลงทุนได้บ้าง

การตัดสินใจลงทุนในสินทรัพย์ ที่ไม่ว่าจะเป็นประเภทใดก็ตาม นอกจากจะดูในเรื่องของข้อมูลพื้นฐานแล้ว ก็ยังต้องดูมูลค่าตามราคาตลาด หรือที่เรียกว่า Market Cap ร่วมด้วย เพราะจะช่วยทำให้มองเห็นภาพโดยรวม และโอกาสเป็นไปได้ในการลงทุนของสินทรัพย์นั้นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เรียกได้ว่า Market Cap เป็นอีกหนึ่งแนวคิดที่สำคัญสำหรับนักลงทุน ในการช่วยคิดวิเคราะห์และประเมินความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคตได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว

Market Cap คืออะไร

Market Cap คืออะไร

Market Cap คือ มูลค่าตามราคาตลาดของบริษัท ในตลาดหุ้น เป็นอีกหนึ่งตัวชี้วัดให้กับนักลงทุน ในการหาสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูง โดย Market Cap จะช่วยให้คุณสามารถเปรียบเทียบมูลค่าของบริษัทต่าง ให้เหมาะสมต่อความต้องการ และความคาดหวัง รวมไปถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต โดยใช้หลักการคำนวณจากจำนวนหุ้นของบริษัทคูณกับราคาหุ้นในปัจจุบัน 

และหากจำนวนหุ้นมีการเปลี่ยนแปลง แน่นอนว่า มูลค่าตามราคาตลาด หรือ Market Cap ก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลง ปรับตัวตามไปด้วย ทั้งนี้จำนวนหุ้นที่มากของแต่ละบริษัทไม่ได้เป็นตัวชี้วัดว่าจะเกิดความสำเร็จ หรือมีผลตอบแทนที่ดีเสมอไป เพียงแต่เป็นการช่วยทำให้นักลงทุนสามารถมองเห็นภาพโดยรวมและโอกาสในการลงทุนเท่านั้น

ประเภทของ Market Cap

Market Cap แบ่งออกเป็นหลายประเภทตามขนาดของมูลค่าตลาด ซึ่งสามารถแบ่งได้ 5 ประเภทด้วยกัน ดังนี้

  • Mega Cap : บริษัทที่มีมูลค่าตลาดสูงที่สุด มักเป็นบริษัทระดับโลกที่มีความมั่นคงสูง แต่อัตราการเติบโตอาจช้า
  • Large Cap : บริษัทขนาดใหญ่ที่มีความมั่นคง มักจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ และมีความผันผวนน้อย
  • Mid Cap : บริษัทขนาดกลาง มีโอกาสเติบโตสูงกว่า Large Cap แต่ก็มาพร้อมความเสี่ยงที่สูงขึ้น
  • Small Cap : บริษัทขนาดเล็ก มีโอกาสเติบโตสูง แต่ก็มีความเสี่ยงสูงเช่นกัน ราคาหุ้นมักผันผวนมาก
  • Micro Cap : บริษัทขนาดเล็กมาก มีความเสี่ยงสูงที่สุด แต่ก็มีโอกาสให้ผลตอบแทนสูงหากประสบความสำเร็จ

Market Cap และราคาหุ้นมีความสัมพันธ์กันอย่างไร

Market Cap และราคาหุ้นมีความสัมพันธ์โดยตรง เนื่องจาก Market Cap คำนวณจากราคาหุ้นคูณกับจำนวนหุ้นที่หมุนเวียนในตลาด เมื่อราคาหุ้นเปลี่ยนแปลง Market Cap ก็จะเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงของ Market Cap ไม่ได้มาจากการเปลี่ยนแปลงของราคาหุ้นเพียงอย่างเดียว

นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงในจำนวนหุ้นที่หมุนเวียนในตลาด เช่น การออกหุ้นใหม่หรือการซื้อคืนหุ้น ก็สามารถส่งผลต่อ Market Cap ได้เช่นกัน โดยไม่จำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงในราคาหุ้น ดังนั้น นักลงทุนควรพิจารณาทั้งราคาหุ้นและจำนวนหุ้นประกอบกันเพื่อให้เข้าใจภาพรวมของมูลค่าบริษัทได้อย่างถูกต้อง

Market Cap บอกอะไรนักลงทุนได้บ้าง

Market Cap บอกอะไรนักลงทุนได้บ้าง

Market Cap เป็นตัวชี้วัดให้กับนักลงทุนได้ทราบถึงขนาด และโอกาสในการลงทุนของบริษัทนั้น เพื่อให้การเลือกสินทรัพย์เหมาะสมกับความต้องการ และความเสี่ยงของนักลงทุนมากที่สุด ซึ่งโดยทั่วไปแล้วบริษัทที่มี Market Cap สูง จะมีความมั่นคงและมีการจ่ายเงินปันผลเป็นที่น่าพอใจ นอกจากนี้ก็ยังสามารถช่วยให้นักลงทุนสามารถวิเคราะห์ปัจจัยต่าง ได้อีกหลายเรื่องดังนี้

  • จำนวนหุ้น Market Cap ขนาดเล็ก : เป็นตัวบ่งบอกถึงความเสี่ยงที่สูง แต่ทั้งนี้ก็จะมีศักยภาพในการที่จะเติบโตสูงขึ้นด้วยเช่นกัน หากนักลงทุนเลือกบริษัทที่เหมาะสมก็จะมีโอกาสได้ผลตอบแทนในอนาคตที่คุ้มค่าเป็นอย่างมากแน่นอน
  • บริษัทที่มี Market Cap ขนาดเล็ก : จะมีมูลค่าของราคาหุ้นที่ผันผวนมาก ดังนั้นจึงไม่เหมาะกับการลงทุนในระยะยาว แม้ว่าผลตอบแทนจะสูงก็ตาม ลักษณะแบบนี้จะเหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการทำกำไรจากความผันผวนของตลาดหุ้น
  • บริษัทที่มี Market Cap ขนาดใหญ่ : จะมีความเสี่ยงที่ต่ำมากรวมไปถึงผลตอบแทนก็จะน้อยด้วยเช่นกัน เพราะบริษัทขนาดใหญ่จะมีการเติบโตช้า ซึ่งเนื่องมาจากว่าเป็นบริษัทที่เกิดความสำเร็จแล้วจึงทำให้แนวโน้มการเติบโตชะลอลง

Market cap สูงดีไหม

การเลือกลงทุนในบริษัทที่มี Market Cap สูง หรือต่ำ ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นเรื่องที่ดี หรือไม่ดี แต่ Market Cap เป็นเพียงตัวชี้วัดในเรื่องของความมั่นคง และโอกาสในการลงทุนเท่านั้น ทั้งนี้ในการเลือกซื้อหุ้นควรคำนึงถึงวัตถุประสงค์ที่ต้องการ ความเสี่ยง ความคาดหวังของนักลงทุนเป็นหลัก เพราะในบางคนอาจจะชอบการลงทุนในบริษัทที่มีความมั่นคง แต่สำหรับบางคนอาจจะชอบลงทุนในบริษัทที่มีศักยภาพและมีโอกาสในการเติบโต รวมไปถึงมีแนวโน้มที่จะให้ผลตอบแทนที่สูงในอนาคต

สรุปบทความ

สรุป Market Cap คืออะไร

Market Cap เป็นเครื่องมือชี้วัดให้กับนักลงทุน สำหรับเปรียบเทียบมูลค่าตามราคาตลาด ของบริษัทต่างๆ บริษัทที่มี มูลค่าตามราคาตลาดที่สูง มักจะมีเครือข่ายทางธุรกิจที่กว้างขวาง จ่ายผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอ และราคาหุ้นมีความผันผวนไม่มากนัก แต่จะมีข้อเสียอยู่ตรงที่การเติบโตอาจจะช้า ซึ่งจะเหมาะกับนักลงทุนที่ชอบความมั่นคงและได้รับผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอ

ในขณะที่ บริษัทที่มี Market Cap ขนาดเล็ก จะมีศักยภาพในการเติบโตที่สูงกว่า แต่ก็จะมีราคาหุ้นที่ผันผวนอยู่ตลอดเวลา ลักษณะแบบนี้จะเหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการทำกำไร แต่ไม่ว่าจะมี มูลค่าตามราคาตลาด ขนาดเล็ก หรือใหญ่ การเลือกลงทุนในสินทรัพย์ก็ควรคำนึงถึงวัตถุประสงค์ ความต้องการ ความคาดหวัง รวมไปถึงความเสี่ยงเป็นหลัก เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าตรงกับความต้องการในอนาคต ถ้าหากกำลังหาที่ สอนเทรด forex เบื้องต้น สามารถเข้าไปที่ลิงก์กันได้เลย