Stoch RSI คืออะไร พร้อมเคล็ดลับการใช้ เพื่อหาจุดซื้อ-ขายที่แม่นยำ

เรื่องUhasAuthor

Stoch RSI คืออะไร

สำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการหาจุดซื้อ-ขายที่แม่นยำ Stoch RSI คือหนึ่งในเครื่องมือทางเทคนิคที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะสามารถระบุจุดกลับตัวของราคาได้อย่างมีประสิทธิภาพ วันนี้ Uhas จะมาไขข้อข้องใจเกี่ยวกับ Stoch RSI ให้กับทุกคน พร้อมแนะนำเทคนิคการใช้งานเพื่อหาจุดซื้อและขายให้แม่นยำมากขึ้น

 

Stoch RSI คืออะไร ทำไมถึงสำคัญ

Stochastic RSI หรือ Stoch RSI เป็นอินดิเคเตอร์ที่พัฒนามาจากการผสมผสานระหว่าง Stochastic Oscillator และ Relative Strength Index (RSI) โดยนำจุดเด่นของทั้งสองตัวมารวมกัน ทำให้สามารถระบุภาวะตลาดที่ซื้อมากเกินไป (Overbought) หรือขายมากเกินไป (Oversold) ได้แม่นยำกว่าการใช้ RSI เพียงอย่างเดียว

 

Stoch RSI มีส่วนประกอบอะไรบ้าง

ส่วนประกอบของ Stoch RSI มีดังนี้

  • เส้น K (Fast Line)

เส้น K (Fast Line) เป็นเส้นหลักในการวิเคราะห์ที่คำนวณมาจากค่า RSI ในขณะนั้น โดยเส้นนี้จะแสดงการเปลี่ยนแปลงของราคาในระยะสั้น และมักจะแสดงเป็นเส้นทึบในกราฟ เพื่อให้เห็นชัดเจน

  • เส้น D (Slow Line)

เส้น D (Slow Line) เป็นเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average) ที่คำนวณมาจากเส้น K อีกที เส้นนี้มีประโยชน์ในการช่วยกรองสัญญาณหลอกออกไป และมักจะถูกแสดงด้วยเส้นประในกราฟ เพื่อให้แยกแยะง่าย

  • ระดับ Overbought/Oversold

ในการวิเคราะห์ เมื่อค่าขึ้นไปถึงระดับ 80 จะถือเป็นภาวะ Overbought หรือภาวะที่ราคาถูกซื้อมากเกินไป ในทางตรงกันข้าม พอค่าลงมาถึงระดับ 20 จะถือเป็นภาวะ Oversold หรือภาวะที่ราคาถูกขายมากเกินไป

 

ดู Stoch RSI อย่างไรให้แม่นยำ

​​การอ่าน Stoch RSI ให้แม่นยำ ต้องพิจารณาหลายองค์ประกอบร่วมกัน ทั้งระดับค่า ทิศทางของเส้น และการตัดกันของเส้น K และ D

 

รู้ได้ไงว่าถึงจุดซื้อแล้ว

สัญญาณซื้อมักเกิดขึ้นในกรณีต่อไปนี้

สถานการณ์ที่ 1 : เมื่อเส้น K (เส้นหลัก) เคลื่อนตัวตัดขึ้นไปเหนือเส้น D (เส้นประ) ในขณะที่อยู่ในพื้นที่ Oversold หรือขายมากเกินไป

สถานการณ์ที่ 2 : เมื่อค่า Stoch RSI เริ่มปรับตัวสูงขึ้นหลังจากที่เคยต่ำกว่าระดับ 20

สถานการณ์ที่ 3 : เมื่อเกิด Bullish Divergence คือภาวะที่ราคาสินทรัพย์ลดต่ำลง แต่กลับพบว่าค่า Stoch RSI กลับปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่าแรงขายอาจเริ่มอ่อนตัวลง

 

รู้ได้ไงว่าถึงจุดขายแล้ว

การระบุจุดขายที่เหมาะสม สามารถสังเกตได้จาก 3 สถานการณ์หลัก ดังนี้

สถานการณ์ที่ 1 : เมื่อเส้น K (เส้นหลัก) เคลื่อนตัวตัดลงไปใต้เส้น D (เส้นประ) ในขณะที่อยู่ในพื้นที่ Overbought หรือซื้อมากเกินไป

สถานการณ์ที่ 2 : เมื่อค่า Stoch RSI เริ่มปรับตัวลดลงหลังจากที่เคยสูงกว่าระดับ 80

สถานการณ์ที่ 3 : เมื่อเกิด Bearish Divergence คือภาวะที่ราคาสินทรัพย์ปรับตัวสูงขึ้น แต่ค่า Stoch RSI กลับปรับตัวลดลง ซึ่งเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่าแรงซื้ออาจเริ่มอ่อนตัวลง

 

เทคนิคใช้ Stoch RSI ให้ได้ผลลัพธ์

Stoch RSI ใช้ยังไง

การใช้ Stoch RSI ให้มีประสิทธิภาพนั้น จำเป็นต้องเข้าใจวิธีอ่านและตีความสัญญาณต่าง ๆ อย่างถูกต้อง เพื่อช่วยระบุจุดซื้อขายที่เหมาะสม

 

ใช้ Stoch RSI คู่กับเครื่องมืออื่น

เพื่อเพิ่มความแม่นยำ ควรใช้ Stoch RSI ร่วมกับ

  1. Moving Average ใช้ยืนยันเทรนด์หลัก
  2. Support/Resistance ใช้หาจุดเข้า-ออกที่สำคัญ
  3. Volume ใช้ยืนยันความแข็งแกร่งของสัญญาณ

 

ดูยังไงให้แน่ใจว่าเป็นสัญญาณจริง

การยืนยันความน่าเชื่อถือของสัญญาณจาก Stoch RSI นั้น เริ่มต้นจากการสำรวจเทรนด์หลักของตลาดเพื่อดูภาพรวมก่อน จากนั้นให้รอสังเกตการยืนยันจากรูปแบบแท่งเทียนว่าสอดคล้องกับสัญญาณที่ได้รับหรือไม่ นอกจากนี้ควรวิเคราะห์ข้อมูลใน Timeframe หลายระดับประกอบกันเพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจนยิ่งขึ้น และสุดท้ายอย่าลืมตรวจสอบปริมาณการซื้อขายว่าสนับสนุนทิศทางของสัญญาณนี้ด้วยหรือไม่

 

เทคนิคเทรดให้ได้กำไรด้วย Stoch RSI

เทคนิดเทรดด้วย Stch RSI ให้ได้กำไร มีดังนี้

 

1. การเทรดตามเทรนด์ (Trend Following)

เน้นการเทรดไปในทิศทางเดียวกับเทรนด์หลักของตลาด โดยใช้ Stoch RSI ช่วยระบุจุดเข้าเทรดที่เหมาะสม และตั้ง Stop Loss ไว้ใต้หรือเหนือจุดกลับตัวล่าสุดเพื่อจำกัดความเสี่ยง

2. การเทรดในกรอบราคา (Range Trading)

เหมาะสำหรับภาวะที่ราคาเคลื่อนตัวในกรอบ โดยเข้าซื้อเมื่อราคาถึงแนวรับและอยู่ในภาวะ Oversold และเข้าขายเมื่อราคาถึงแนวต้านและอยู่ในภาวะ Overbought

3. การเทรดแบบ Divergence

สังเกตการเกิด Divergence หรือความไม่สอดคล้องระหว่างราคาและค่า Stoch RSI จากนั้นรอการยืนยันทิศทางจากรูปแบบแท่งเทียน และกำหนดอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนที่เหมาะสม

 

ระวังอะไรบ้างตอนใช้ Stoch RSI

การใช้ Stoch RSI อย่างมีประสิทธิภาพนั้น ต้องระมัดระวังในการเลือกจังหวะเทรด ไม่เทรดตามทุกสัญญาณที่เห็น โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดผันผวน ควรใช้ร่วมกับเครื่องมืออื่น เลือก Timeframe ที่เหมาะสม และหลีกเลี่ยงการเทรดสวนเทรนด์หลัก

เทคนิคใช้ Stoch RSI

โดยสรุปแล้ว Stoch RSI คือ เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่รวมจุดเด่นของ Stochastic และ RSI เข้าด้วยกัน มีองค์ประกอบหลักคือเส้น K ที่แสดงการเคลื่อนไหวเร็ว เส้น D ที่เคลื่อนไหวช้า และระดับ Overbought (80) กับ Oversold (20) ที่บ่งชี้ภาวะซื้อขายมากเกินไป การใช้งานจะดูจากการตัดกันของเส้น K และ D ประกอบกับระดับ Overbought/Oversold เพื่อหาจุดเข้าซื้อขายที่เหมาะสม เพื่อเพิ่มความแม่นยำ ควรใช้ร่วมกับเครื่องมืออื่นๆ เช่น Moving Average, Support/Resistance และ Volume

ถ้าสนใจเริ่มต้นเทรด Forex ก็ขอแนะนำให้เริ่มจากการเรียนเทรด forex ก่อนเพื่อสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่ง จากนั้นศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการลงทุน forex เพื่อพัฒนากลยุทธ์การเทรด เมื่อพร้อมแล้วก็สามารถศึกษาเปรียบเทียบว่าเทรด forex โบรกเกอร์ไหนดี ที่เหมาะกับสไตล์การเทรดของคุณ และเปิดบัญชี xm เพื่อทดลองใช้เครื่องมือต่าง ๆ รวมถึง Stoch RSI ในการเทรดจริง