ก้าวเข้ามาลงทุนในตลาด ความเสี่ยงที่ไม่สามารถจะหลีกเลี่ยงได้ แต่ก็ยังมีทางออกที่สามารถควบคุมได้ เมื่อเข้ามาศึกษาเรียนรู้การใช้เครื่องมือต่าง ๆ เพื่อเป็นตัวช่วย นอกจากจะเรื่องของการบริหารจัดการพอร์ตการลงทุน สำหรับการใช้ Stop Loss คือ สิ่งที่เรียกว่า จุดตัดขาดทุน ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ช่วยป้องกันเงินลงทุนของนักลงทุนได้เป็นอย่างดี ซึ่ง Stop Loss ก็จะมีหลากหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่ว่านักลงทุนจะใช้รูปแบบไหนที่เหมาะสมกับแนวทางการลงทุน รวมไปถึงสถานการณ์ที่มีความแตกต่างกัน
Stop Loss คืออะไร
Stop loss คือ การหยุดเพื่อที่จะไม่ให้ราคาของหลักทรัพย์ในพอร์ตลดลงไปมากกว่านั้น ซึ่งขณะที่ได้มีการทำ Stop Loss นักลงทุนอาจจะต้องขาดทุน หรือได้ผลกำไรอยู่ในขณะที่ขายก็เป็นไปได้ แต่เพื่อป้องกันไม่ให้ขาดทุนมากกว่านั้น ได้กำไรที่น้อยกว่าเดิม หรือจากกำไรกลายเป็นขาดทุนจึงเป็นที่มาของคำว่า Stop Loss นั่นเอง
เหตุผลที่ทำให้เกิด Stop Loss
- เพื่อที่จะหยุดยั้งการขาดทุน เนื่องจากอนาคตของตลาดไม่มีใครคาดการณ์ได้
- การเทรด CFD ห้ามคิดแบบ ไม่ขายไม่ขาดทุน หากใช้ Leverage เกินขนาด ถ้าไม่ขายจะทำให้มีโอกาสสูญเสียเงินหมด
- สำหรับการตั้งค่า Stop Loss ทำให้เทรดเดอร์ ก็จะต้องมีการวางแผนการเทรดมาก่อน จะเป็นผลดีต่อการเทรดระยะยาว เทรดเดอร์จะต้องรู้ว่าหากโดน Stop Loss เสียเงินเท่าไหร่ และจะต้องยอมรับตั้งแต่ยังไม่เข้าเทรด
- Stop Loss ควบคุมอารมณ์ได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งการโดน Stop Loss เป็นสัญญาณบ่งบอกให้พัก หรือหยุดเทรด
- Stop Loss จะทำให้โฟกัสแต่ละการเทรด ศึกษา เรียนรู้ไปกับสิ่งเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี เป็นจุดที่สามารถเพิ่มความสามารถของนักลงทุนได้แบบสุดๆ เลยทีเดียว ยิ่งทำตรงนี้คล่อง แสดงว่าความเชี่ยวชาญก็ยิ่งมีเพิ่มขึ้นนั่นเอง
หลักการตั้งจุด Stop Loss
การตั้งจุด Stop Loss ที่มีประสิทธิภาพต้องคำนึงถึงหลายปัจจัย เช่น ความผันผวนของตลาด ระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ และกลยุทธ์การเทรดของแต่ละคน โดยทั่วไป นักลงทุนมักจะตั้ง Stop Loss ที่จุดสำคัญทางเทคนิค เช่น แนวรับแนวต้าน หรือใช้เปอร์เซ็นต์ของมูลค่าการลงทุน นอกจากนี้ ยังควรพิจารณาปรับ Stop Loss เมื่อราคาเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่เป็นประโยชน์ เพื่อรักษาผลกำไรที่มีอยู่
ทำไมนักลงทุนต้องให้ความสำคัญกับ Stop Loss
การลงทุนในตลาดการเงินมีความเสี่ยงเสมอ และไม่มีใครสามารถคาดเดาทิศทางตลาดได้อย่างแม่นยำ 100% จนมีการใช้ Stop Loss เข้าช่วย เพราะอะไรทำไมต้องให้ความสำคัญกับ Stop Loss มาดูกัน
- ป้องกันการขาดทุนอย่างหนัก : Stop Loss ช่วยจำกัดการขาดทุนให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ ป้องกันไม่ให้การขาดทุนลุกลามจนกระทบต่อเงินทุนหลัก
- รักษาสภาพจิตใจ : การกำหนด Stop Loss ช่วยลดความเครียดและอารมณ์ที่อาจส่งผลเสียต่อการตัดสินใจในการลงทุน
- สร้างวินัยในการลงทุน : การใช้ Stop Loss อย่างสม่ำเสมอช่วยสร้างวินัยและความมีเหตุผลในการจัดการพอร์ตการลงทุน
- เพิ่มโอกาสในการฟื้นตัว : การจำกัดการขาดทุนด้วย Stop Loss ช่วยให้นักลงทุนมีเงินทุนเหลือเพียงพอที่จะลงทุนใหม่และฟื้นตัวจากการขาดทุน
- ป้องกันความเสียหายจากเหตุการณ์ไม่คาดคิด : Stop Loss ช่วยปกป้องการลงทุนจากเหตุการณ์ฉุกเฉินหรือความผันผวนรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด
- ช่วยในการบริหารความเสี่ยง : Stop Loss เป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์การบริหารความเสี่ยง ช่วยให้นักลงทุนสามารถควบคุมความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สรุปบทความ
หลายคนก็คงเห็นกันไปแล้วว่า Stop Loss คือสิ่งที่มีความสำคัญกับนักลงทุนเป็นอย่างมาก ซึ่งการใช้ Stop Loss ก็ล้วนขึ้นอยู่กับความถนัดของนักลงทุนเอง และสำหรับการวาง Stop Loss มีเป้าหมายก็คือ การรักษาเงินต้น รวมไปถึงผลกำไรจากการลงทุนแต่ถ้าหากไม่มี Stop Loss ก็อาจไม่มีโอกาสแก้ตัว หรือว่าง่ายๆ หากมีการวางแผนที่ไม่ดีพอ หรือรู้ตัวว่าสายไปแล้ว การรู้จัก Stop Loss จึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก
Author: