เบื้องต้นเหล่านักลงทุนจำเป็นที่จะต้องเรียนรู้ด้านหุ้นต่างๆ มากมาย ทั้งในเรื่องของวิธีการเล่นหุ้น วิธีการเก็งกำไร วิธีการเข้าใจการตลาดหรือเศรษฐกิจโลก รวมไปถึงเรื่องอื่นๆ อีกมากมาย เพื่อที่จะเสริมสร้างการลงทุนให้ดียิ่งขึ้นไปกว่าเดิม แต่สำหรับบทความต่อไปนี้จะพาทุกท่านตามไปเจาะลึกกันที่ซื้อขายสัญญาล่วงหน้า หรือที่หลายคนเรียกกันว่า TFEX แล้ว TFEX คืออะไร สามารถตามอ่านไปด้วยกันได้เลย
TFEX คืออะไร
TFEX คือ การที่มัดเอาหุ้นของ 50 กิจการด้วยกัน โดยมีมูลค่าทางการตลาดที่สูงของตลาดหลักทรัพย์ มามัดรวมกัน ก็ล้วนเป็นหุ้นที่รู้จัก และคุ้นหูเป็นอย่างดี อาทิ หุ้น PTT หุ้น CPALL หุ้น AOT เป็นต้น แต่ก็ห้ามสับสนกับ SET50 แบบธรรมดา เพราะมีชื่อที่คล้ายคลึงกัน แต่จะมีความแตกต่างอยู่นิดนึง ซึ่งสิ่งที่มีการเกิดขึ้นจะเรียกว่าค่าเบสิส ราคาของ SET50 FUTURE มักจะไม่เท่ากันกับ SET50 สรุปก็คือ SET50 = SET50 FUTURE + ค่าเบสิส
สถานะของ TFEX ที่ควรรู้
- Long หรือที่หลายคนอาจจะเรียกกันสั้น ๆ ว่า L ก็คือสถานะที่เปิดเมื่อได้มีการมองเห็นว่า “ตลาดจะมีการปรับตัวขึ้น”
- Short หรือที่หลายคนอาจจะเรียกกันสั้น ๆ ว่า S ก็คือสถานะที่ปิดเมื่อได้มีการมองเห็นว่า “ตลาดจะมีการปรับตัวลง”
กลยุทธ์การลงทุนของ TFEX คือ
กลยุทธ์การลงทุนของ TFEX ไม่สามารถที่จะเข้ามาเล่น TFEX ได้ด้วยบัญชีหุ้นอันเดิม ซึ่งจะต้องมีการเปิดบัญชีซื้อขายอนุพันธ์ หรือที่เรียกกันว่า บัญชี TFEX เพิ่ม จะมีให้เลือกหลายแบบ ซึ่งการเปิดบัญชีจะมีการประเมินที่มีความรัดกุมกว่าการเปิดบัญชีแบบซื้อขายหุ้นธรรมดา เพราะจะเป็นบัญชีประเภท MARGIN หรือเป็นการที่เราได้เข้าไปวางเงินไว้แค่เพียงส่วนหนึ่งตามที่เขาได้มีการกำหนด แต่จะมีอำนาจในการซื้อที่มากกว่านั้นจำนวนหลายเท่า ซึ่งจะต้องมีการวางหลักประกันขั้นต่ำส่วนจำนวนมากน้อยก็จะขึ้นอยู่กับสำนักหักบัญชี ที่เปลี่ยนแปลงค่อนข้างจะบ่อย
หากช่วงไหนผันผวนมากหลักประกันขั้นต่ำก็จะเพิ่มมากขึ้น แต่หักผันผวนน้อยก็จะมีการปรับหลักประกันขั้นต่ำน้อยลงด้วยเช่นเดียวกัน และหลักประกันรักษาสภาพต้องมากกว่า 70% หลักประกันขั้นต่ำ หากต่ำกว่านี้จะขาดทุนในพอร์ต ซึ่ง Marketing ก็จะโทรเพื่อขอให้เติมเงินที่มาร์เก็ตติ้ง
ข้อดีของการลงทุนของ TFEX
- ความยืดหยุ่นสูง : นักลงทุนสามารถทำกำไรได้ทั้งในตลาดขาขึ้นและขาลง โดยเลือกเปิดสถานะ Long หรือ Short ได้ตามสถานการณ์
- เงินลงทุนต่ำ ผลตอบแทนสูง : ด้วยระบบ Margin ทำให้ใช้เงินลงทุนน้อยแต่มีโอกาสทำกำไรสูงกว่าการลงทุนในหุ้นโดยตรง
- การกระจายความเสี่ยง : TFEX ช่วยให้นักลงทุนสามารถกระจายความเสี่ยงโดยลงทุนในกลุ่มหุ้นชั้นนำหลายตัวพร้อมกัน
- สภาพคล่องสูง : ตลาด TFEX มีสภาพคล่องสูง ทำให้สามารถซื้อขายได้ง่ายและรวดเร็ว
- เครื่องมือบริหารความเสี่ยง : นักลงทุนสามารถใช้ TFEX เป็นเครื่องมือในการป้องกันความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนได้
ข้อเสียของการลงทุนของ TFEX
- เกิดความเสี่ยงสูง : การใช้ Margin ทำให้มีโอกาสขาดทุนสูงเช่นกัน หากตลาดเคลื่อนไหวตรงข้ามกับที่คาดการณ์
- มีความซับซ้อน : TFEX มีกลไกที่ซับซ้อนกว่าการลงทุนในหุ้นทั่วไป ทำให้ต้องใช้เวลาศึกษาและทำความเข้าใจมากขึ้น
- ต้นทุนการซื้อขายสูง : ค่าธรรมเนียมการซื้อขายใน TFEX อาจสูงกว่าการซื้อขายหุ้นทั่วไป ซึ่งอาจกระทบผลตอบแทนโดยรวม
- การบริหารหลักประกัน : นักลงทุนต้องคอยติดตามและบริหารระดับหลักประกันอย่างใกล้ชิด เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกบังคับปิดสถานะ
- มีความผันผวนสูง : ราคาใน TFEX มักมีความผันผวนสูง ทำให้การคาดการณ์ทิศทางตลาดทำได้ยากขึ้น
สรุปบทความ
แม้ TFEX สร้างผลกำไรได้มากแม้ลงเงินทุนน้อย แต่ถ้าหากการวางหลักประกันขั้นต่ำแต่ไม่มีวินัย ก็มีโอกาสเป็นหนี้สูงเช่นเดียวกัน ฉะนั้นจะต้องตัดสินใจให้ละเอียด ศึกษาให้ดีๆ เพื่อหลีกเลี่ยงความผิดพลาด การลงทุนทุกการลงทุน แต่ทุกท่านสามารถลดความเสี่ยงได้ด้วยการใส่ใจ
Author: