คนส่วนใหญ่ พอร์ต Forex แตก เทรด Forex ขาดทุน ยับ?

เรื่องPatihanUhas

คนส่วนใหญ่พอร์ต Forex แตก ขาดทุนยับ เพราะอะไร

เคยสงสัยกันมั้ยว่า ทำไมคนส่วนใหญ่ พอร์ต Forex แตก หรือเทรด Forex แล้วขาดทุนยับ? แบบนี้เป็นเพราะระบบเทรดไม่ดี หรือเป็นเพราะเทรดเดอร์โลภเอง หรือมีปัจจัยอื่นๆ ที่หลายคนไม่รู้ ซึ่งเรื่องราวต่อไปนี้ ผมได้รวบรวมจากหลายๆคนที่ผมพบเจอและรวบรวมจากประสบการณ์ตัวเองด้วย โดยสรุปออกมาได้ 9 สาเหตุที่ทำให้หลายคนต้องล้างพอร์ต Forex หรือ พอร์ต Forex แตกนั่นเอง มีอะไรบ้าง? มาเรียนรู้ไปพร้อมๆ กันเลยครับ

ทำไมคนส่วนใหญ่ พอร์ต Forex แตก เทรด Forex ขาดทุน ยับ? เป็นเพราะระบบบเทรอหรือไม่? หรือเป็นเพราะความโลภ เป็นเพราะอะไรกันแน่?

สรุปแบบย่อๆ สำหรับคนที่ไม่อยากอ่านยาวๆ

  • Overtrade เทรดโอเวอร์เกินเงินที่มี
  • ไม่มี Money Management
  • ไม่เข้าใจลักษณะสัญญา 1 Lot ที่เหมือนแต่ไม่เหมือนกัน
  • ความโลภ
  • ไม่กล้า Stop Loss
  • มั่นใจในตัวเองสูงเกินไป
  • ซื้อ EA หรือ Signal ของคนอื่นใช้ โดยไม่เรียนรู้เอง
  • ไม่เทรดเอง
  • ระบบเทรด นั่นแหละ

ต้องขาดทุนแบบไหนถึงเรียกว่าพอร์ต Forex แตก

คำว่าพอร์ต Forex แตกนั้น อาจจะไม่ได้มีนิยามตายตัวว่าขนาดไหนถึงเรียกว่าขาดทุนหรือต้องล้างกระดาน แต่ส่วนใหญ่หากติดลบมาถึง 20-30% ของพอร์ต Forex ทั้งหมด ก็อาจเข้าภาวะสุ่มเสี่ยงได้ บางรายอาจจะต้องเริ่มวางแผงหรือปรับกลยุทธ์ตั้งแต่ติดลบประมาณ 15% ตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อควบคุมไม่ให้สถานการณ์บานปลายมากเดิม ตัวอย่างเช่นลงทุน Forex ไป 5 คู่เงิน ขาดทุนไป 3 คู่ ได้กำไรแค่ 2 คู่ แบบนี้ก็ควรปรับวิธีการบริหารพอร์ตอย่างเร่งด่วนเลยครับ

รวม 9 สาเหตุที่ทำให้พอร์ต Forex แตกจนขาดทุนยับ?

มาถึงสาเหตุต่างๆ ที่ทำให้คนส่วนใหญ่พอร์ต Forex แตกกันเลยดีกว่าครับ ว่ามีปัจจัยอะไรบ้าง ซึ่งทั้ง 9 ข้อมีรายละเอียดดังนี้

1. Overtrade เทรดโอเวอร์เกินเงินที่มี

Overtrade สิ่งที่ทำให้เทรดเดอร์ในตลาด Forex ส่วนใหญ่ล้มไม่เป็นท่า โดยสาเหตุหลักๆ มาจาก 2 ปัจจัยด้วยกันคือ ไม่รู้ว่าตัวเองโอเวอร์เทรด เพราะไม่รู้ว่า มูล 1Lot มันมีค่าเท่ากับเท่าไหร่ และ รู้ว่าตัวเองโอเวอร์เทรด แต่คนจะรวยช่วยไม่ได้ จึงจัดเต็ม และแล้วก็เอาชนะความผันผวนไม่ได้ จึงล้มละลายในที่สุด ซึ่ง Overtrade นี้คือสาเหตุหลักที่ทำให้หลายคนน้ำตาตกมากที่สุดในบรรดาสาเหตุที่หลายคน เทรด Forex ขาดทุน ยับ
หากคุณอยากรู้วิธีการบริหารเงินลงทุนว่า 1 Lot มีมูลค่าเท่ากับเท่าไหร่ สามารถชมคลิปวีดีโอข้างล่างนี้ได้เลย

2. ไม่มี Money Management

เทรดเดอร์มือใหม่หลายๆ คน อาจจะละเลยคำว่า การบริหารเงินลงทุน หรือ Money Management เพราะแค่ชื่อมันก็น่าเบื่อใช่ไหมละครับ แต่เอาใหม่ เปลี่ยนเป็นคำว่า “เคล็ดลับการเทรดให้ได้ล้าน” แบบนี้อาจจะน่าสนใจกว่า และถ้าเป็นวีดีโอใน Youtube หลายคนจะเลือกคลิก “เคล็ดลับการเทรดให้ได้ล้าน” มากกว่า และนำไปทำตาม เพราะเราทุกคนเข้ามาในตลาด Forex หรือตลาดอื่นๆ เพื่อเข้ามาแสวงหากำไร การหากลยุทธ์ในการทำกำไร มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
แต่นั้นแหละครับ การบริหารเงินลงทุน หรือ Money Management คำๆ นี้จึงไม่ค่อยมีเสน่ห์น่ายั่วยวนชวนหลงไหลสักเท่าไหร่ แต่นี่มันคือ ความมั่นคงทางการเงิน ของพอร์ตเรา การหาวิธีการและกลยุทธ์การทำกำไรไม่ใช่เรื่องที่ผิด แต่มันอาจจะไม่ยั่งยืน ถ้าขาด การบริหารเงินลงทุน หรือ Money Management ดังนั้นอย่าทำให้กำไรที่เราหามาละลายหายไปหมด ลองหาวิธีบริหารเงินลงทุนที่ช่วยให้พอร์ตของเราแข็งแรงนะครับ

3. ไม่เข้าใจลักษณะสัญญา 1 Lot ที่เหมือนแต่ไม่เหมือนกัน

อย่างที่ได้อธิบายไปในข้อ 1 ว่าการเทรด Forex เราเทรดกันในหน่วยของ Lot Size และแต่ละหน่วย Lot Size มันมีขนาดสัญญาที่แตกต่างกัน แม้จะเป็นหน่วย 1 Lot Standard เหมือนกัน ทำให้ตรงนี้ หลายคนเทรดผิดไป อาจจะทำให้เผลอ Overtrade โดยไม่รู้ตัว หากเพื่อนๆ อยากทำความเข้าใจว่า 1 Lot แต่ละตัวมีมูลค่าเท่าไหร่ สามารถดูได้จากวีดีโอในหัวข้อที่ 1.

4. ความโลภ

ความโลภ โกรธ หลง หรือรวมกันว่า อารมณ์ ขึ้นชื่อว่ามนุษย์ เราทุกคนล้วนมีอารมณ์แบบนี้กันทั้งนั้น นั่นไม่ใช่เรื่องที่ผิด และไม่ใช่เรื่องที่แปลก แต่การเทรดเราจะให้อารมณ์เหล่านี้มาอยู่เหนือเราไม่ได้ เพราะไม่อย่างนั้น ทุกอย่างที่เราวางแผนมาเละไม่เป็นท่าจนพอร์ต Forex แตกได้อย่างแน่นอน
สมมุติว่า เราเทรด EURUSD ขาดทุน 1 Lot เป็นเงิน -100$ ซึ่ง เราก็ทำตาม Money Management ทุกอย่าง แต่เมื่อเราขาดทุน มันเริ่มจะมีความรู้สึกว่า อาจจะเอา 100$ ที่เสียไปคืน แน่นอนทุกคนจะรู้สึกแบบนี้กับการสูญเสียกันทั้งนั้น แต่สิ่งที่จะทำให้คุณพอร์ตแตกคือ คุณไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ และเทรดโดยไม่สนใจอะไรละ จะเอาแต่เงิน 100$ คืนให้ได้ สุดท้ายแล้วถ้าเป็นแบบนี้ เทรดเดอร์ส่วนใหญ่จะไม่ใช่แค่ได้เงิน 100$ กลับคืนมานะ แต่ส่วนใหญ่จะเสียเงินที่เหลือไปด้วย

5. ไม่กล้า Stop Loss

พูดถึง Stop Loss หากยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัดมากยิ่งขึ้น คงจะต้องนึกถึง หมูสามชั้นทอดน้ำปลา ไก่ทอด บิงซู ชานมไข่มุกบราวชูก้า หลายคนรู้ดีว่าสิ่งเหล่านี้ เลี่ยงได้ก็จะดีต่อสุขภาพ แต่ก็นะ

เมนูเหล่านี้คือ เมนูยอดนิยมในประเทศไทย ที่เรารู้ว่ามันมีโทษในการทำลายสุขภาพสูงกว่า เมนูต้ม เมนูคลีนที่ไม่ใช้น้ำมัน สลัดที่ใช้ครีมสลัดแบบคลีน น้ำผลไม้ที่ไม่ผสมน้ำเชื่อม แต่สิ่งเหล่านี้มันไม่ค่อยน่าสนใจเอาเสียเลย

มันก็เหมือนกับ Stop Loss ที่เราทุกคนรู้ว่าดีต่อพอร์ตการลงทุน แต่มันก็เต็มไปด้วยความคิดที่ว่า เห้ย ถ้ามันไปติด Stop Loss แล้วมันไปทางที่เราได้กำไร เราก็พลาดโอกาสได้กำไรสิ ไม่มีดีกว่า ลุ้นๆ ไปเลย เป็นต้น

ยิ่งความคิดเข้ามาสนับสนุนความโลภของเรามากเท่าไหร่ ยิ่งมีโอกาสสูงที่เราจะไม่อยาก Stop Loss เพราะทุกครั้งที่เรากด Stop Loss มันคือ ต้องขาดทุนแน่ๆ แต่ผมอยากให้เปลี่ยนความเชื่อใหม่ ให้คิดว่าการขาดทุนครั้งนี้ เราไม่ได้พลาดนะ เราแค่ต้องการทำให้เงินลงทุนที่เหลือของเรานั้นปลอดภัยขึ้นต่างหาก เป็นการตัดไฟแต่ต้นลมก่อนที่พอร์ต Forex แตกจนแก้อะไรไม่ได้เลย

ก่อนที่มันจะกลายเป็น “Butterfly Effect” หากมีผีเสื้อตัวหนึ่งกระพือปีกอยู่ที่ประเทศบราซิล จะสามารถทำให้เกิดพายุทอร์นาโดที่รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา หากเราไม่รีบ Stop Loss ออเดอร์ไม่กี่ออเดอร์ในตอนนี้ มันอาจจะเป็นการขาดทุนครั้งใหญ่ที่อาจจะกำลังมาถึง

6. มั่นใจในตัวเองสูงเกินไป

ก่อนอื่น ผมต้องอธิบายก่อนว่า ความมั่นใจในตัวเอง มีผลต่อการเทรดสูงมาก โดยประสบการณ์ผมเอง ผมเคยซื้อหุ้นตอนที่วิกฤตโควิดเข้ามาแรกๆ ซึ่งตอนนั้น ราคาหุ้นส่วนใหญ่ ลงมากว่าครึ่งหนึ่ง ซึ่งผมเชื่อว่า มูลค่าที่แท้จริงมันน่าจะสูงกว่านี้ และโควิดก็คงจะมีวันเลิกลา
เพราะอย่างไรก็ตามคนก็ต้องใช้ชีวิต แต่นั้นคือความเชื่อของผม หลังจากนั้น 2-3 วัน มีข่าวประโคมออกมา ว่าฝั่งธนาคารจะแย่ เพราะต้องเจอวิกฤติ NPL หรือ หนี้เสีย ฝั่งธุรกิจแย่แน่ เพราะนี้แค่เริ่มต้นเท่านั้น
ฟังแบบนี้คุณรู้สึกอย่างไรบ้างครับ? ส่วนตัวผมเองนั้นรู้สึกกังวลและเริ่มไม่มั่นใจในตัวเองแล้ว ทำให้กลับมาทบทวนใหม่อีกครั้งหนึ่ง สุดท้ายคิดว่าขายหุ้นทิ้งดีกว่า เวลาผ่านมาถึงตอนนี้ปลายปี 2021 หุ้นที่ผมเคยซื้อไว้ ราคาโตมากว่า 100% ณ ปัจจุุบัน รู้สึกเจ็บใจนิดๆ ที่ไม่เชื่อในความมั่นใจของตัวเองตั้งแต่แรก ฟังดูแบบนี้มันก็ดีใช่ไหมครับ ความมั่นใจเป็นสิ่งที่ดี
แต่ขอย้อนกลับไปที่วิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ในตอนนั้นเศรษฐกิจเป็นไปได้ด้วยดี เรียกได้ว่าดีมากๆ การปล่อยกู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ในตอนนั้นง่ายดายถึงขนาดมีคนเอาชื่อหมาไปทำสัญญาขอกู้ ถ้าซื้อหุ้นเมกาและเชื่อมั่นในตัวเองมากเกินไป ผมก็เชื่อในตัวเลขว่าตอนนี้ตลาดหุ้น ธนาคาร อสังหาริมทรัพย์ ก็กำลังไปได้สวย
เลยไม่เอะใจเลยว่า จะมีอะไรตามมา แต่หลังจากนั้นไม่นานตลาดหุ้นก็ได้พังลง เราก็อาจจะสูญเสียเงินได้เช่นเดียวกัน อยากหาความรู้เพิ่มเติม แนะนำหนังเรื่อง “The Big Short”
เห็นไหมครับว่า ถ้าเรามั่นใจในตัวเองมากเกินไป เราอาจจะไม่ได้ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม และไม่พยายามหาสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้น ตัดสินใจกระทำหลายอย่างลงไปโดยไม่มีแผนสำรอง เพราะมั่นใจว่า กำลังจะทำในสิ่งที่ถูกต้อง แม่นยำ 100% นั่นก็อาจจะทำให้เราล้างพอร์ตได้

7. ซื้อ EA หรือ Signal ของคนอื่นใช้ โดยไม่เรียนรู้เอง

การซื้อ EA หรือ Signal ของคนอื่นใช้ ซึ่งจริงๆแล้ว ไม่ใช่เรื่องที่ผิดหรอกนะ แต่มันจะผิดถ้าหากเราใช้โดยไม่เรียนรู้เอง ไม่รู้ว่าทำไม EA ทำแบบนั้น ไม่รู้ว่าเพราะอะไร Signal ที่เราซื้อมาให้เข้าออเดอร์ Buy Sell ตรงนั้น เพราะบางทีบริการที่เราซื้อมา EA หรือ Signal ที่เราซื้อ อาจจะไม่แม่นยำเท่ากับเราซื้อขายเองก็ได้นะ
ซื้อ EA หรือ Signal ของคนอื่นใช้ จริงๆแล้ว สามารถใช้ได้ตามปกติ บางทีเราก็อาจจะได้กำไรก็ได้ แต่อย่าลืมศึกษาด้วยตัวเองด้วยนะ เพราะมันอาจจะมีบางมุมที่เราเห็นแย้งกับบริการเหล่านี้ เช่น Signal บอกว่า ให้ Sell  Bitcoin ที่ราคา 60 000$ แต่เราเรียนมาและชื่อว่ามันน่าจะไปถึงแนวต้านเก่าที่ 65 000$
เราจึงมีโอกาสที่จะเปิดออเดอร์ Buy มากกว่าออเดอร์ Sell นั่นเองเพราะต่อให้มันขาดทุน อย่างน้อย มันก็เป็นการขาดทุนจากการตัดสินใจของเราและเราก็ได้เรียนรู้ในความผิดพลาดที่เกิดขึ้น เพื่อที่จะนำไปพัฒนาตัวเองในครั้งต่อไปอีกด้วย

8. ไม่เทรดเอง

การไม่เทรดเองสามารถทำได้หลายวิธีในตลาด Forex เช่น การใช้ Social Trading หรือ Copy Trade, การเช่า EA Forex มาใช้, การฝากเทรด เป็นต้น ซึ่งสิ่งที่ผมพบเจอบ่อยมากที่สุดในการไม่เทรดเองคือการฝากคนอื่นเทรด
แน่นอนว่าการฝากคนอื่นเทรดนี่เต็มไปด้วยปัญหา ไม่ว่าจะเป็นปัญหาการเทรดขาดทุน ปัญหาการโกงหอบเงินหนี และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งความเสี่ยงอาจจะพอๆ กับการเทรดเอง และบางทีการเทรดเองอาจจะได้กำไรมากกว่าด้วยซ้ำ
การไม่เทรดเองจากประสบการณ์ของผมเองนั้น เจอปัญหาหลักๆคน การขาดทุน เราไม่ได้เรียนรู้อะไรจากการขาดทุน ทำให้การเทรดของเราไม่พัฒนาขึ้น ซึ่งนี้เป็นค่าเสียโอกาสเป็นอย่างมาก

9. ระบบเทรด นั่นแหละ

พูดกันมา 8 ข้อส่วนใหญ่นั้นจะเป็นเรื่องของความผิดพลาด ที่เราไม่ได้ตั้งใจให้เกิดขึ้น แต่ในข้อ 9. นี้ คือ เป็นสิ่งที่เราไม่ได้หวังให้เกิดขึ้น แต่เราตั้งใจให้เกิดขึ้น ฟังดูอาจจะแปลกๆ ใช่ไหมครับ ว่าใครกันที่อยากจะเทรด Forex ให้ล้างพอร์ต ใครกันที่จะมาวางแผนการเทรดให้ตัวเองเจ๊ง ไม่มีหรอก ใช่ครับ เราทุกคนคงไม่มีใครหวังให้มันเกิดขึ้น

 

แต่เราอาจจะตั้งใจให้มันเกิดขึ้นด้วยการเอาระบบเทรดที่มันไม่ได้กำไร มาเทรดอยู่อย่างต่อเนื่อง คำถามคือ ถ้าเราเอาระบบเทรดที่ไม่ได้กำไรมาเทรด ผลที่ออกมาจะเป็นยังไง คำตอบมันก็แน่นอนอยู่แล้วใช่ไหมครับว่ามันต้องเป็นขาดทุนแน่นอน เหมือนเราอยากได้ผลสตอเบอร์รี่ แต่เราปลูกต้นขนุน ผลที่ออกมายังไงมันก็ต้องเป็นขนุนอย่างแน่นอน

 

ดังนั้น ก่อนที่เราจะทำการเทรด ให้เราทดสอบระบบของเราก่อนว่ามันมีความสามารถในการทำกำไรได้จริงหรือไม่? หรือจริงๆแล้ว ถ้าเราใช้ระบบเทรดนี้ มันจะพาเราไปสู่ขั้นตอนการล้างพอร์ตในอนาคต

รวมเทคนิคป้องกันพอร์ต Forex แตก เทรดได้อย่างมีสติ

เมื่อรู้ถึงเคสที่ทำให้พอร์ต Forex แตกกันไปแล้ว ผมจะมาแนะนำกับเทคนิคที่จะช่วยให้คุณสามารถเทรดได้อย่างปลอดภัย และช่วยดึงสติกลับมาในช่วงที่คุณอาจหน้ามืดตามัวกับตัวเลขกำไรไปหน่อย โดยผมจะสรุปทั้งหมด 4 ประเด็นหลักๆ ดังนี้

1. เรียนรู้ให้มากก่อนลงสนามจริง

สำหรับมือใหม่ที่อยากลองลงสนามจริง อยากแนะนำว่าควรเรียนรู้ผ่านบัญชี Demo ให้คล่องก่อน เพราะเป็นทางเดียวที่จะทำให้คุณลองผิดลองถูกพอร์ต Forex แตกแบบนับไม่ถ้วนได้โดยไม่เจ็บตัว พร้อมกับเรียนรู้เทคนิคหรือกลยุทธ์ต่างๆ ให้หลากหลาย ถึงแม้ว่าจะมีประสบการณ์แล้วก็ตาม แต่การเรียนยังคงสำคัญต่อการเทรด Forex อยู่เสมอ 

2. รู้จักประมาณตนไม่ Over Trade

การ Over Trade เป็นการเทรดเกินตัว อันนี้อยากเน้นย้ำหลายๆ คนเลยว่า ถ้าเงินทุนไม่แน่นพออย่างเสี่ยงเด็ดขนาด โดยเฉพาะการเปิด Lot สูงแต่ไม่สอดคล้องกับเงินในพอร์ต จริงอยู่ว่ามันมีความหวังที่จะได้เงินเร็วในเวลาสั้นๆ แต่นั่นกลับทำให้คุณมีโอกาสพอร์ต Forex แตกมากกว่ากำไร ดังนั้นควรวิเคราะห์ตลาดให้ดี ดูเทรนด์ให้แน่ใจ อย่าให้ความโลภมาครอบงำคุณ

3. ต้องมี Money Management ที่ดี

การบริหารจัดการเงินทุนหรือ Money Management เป็นสิ่งที่ทุกคนควรจัดการให้ดี เพราะจะทำให้คุณรู้ประมาณตนเองได้ว่า คุณมีศักยภาพในการเทรดมากน้อยแค่ไหน เพื่อป้องกันการ Over Trade แบบไม่รู้ตัว

4. รู้จัก Stop Loss ตั้งแต่เนิ่นๆ ไม่ควรฝืน

ไม่ว่าจะเล่นน้อยหรือมาก การกำหนด Stop Loss ก็จะช่วยให้คุณรอดพ้นจากเหตุการณ์พอร์ต Forex แตกได้ บางคนเห็นติดลบน้อยก็ชะล่าใจ คิดว่ายังไปต่อได้ จนไปถึงช่วงที่ติดลบหนักๆ ก็อาจจะกลับตัวไม่ทันเสียแล้ว กว่าจะกลับไปบวกก็คงใช้เวลานาน ดังนั้นควรปักหมุด Stop Loss ไปเลย เสียน้อยตั้งแน่นเนิ่นๆ ดีกว่าให้บานปลายจนกู่ไม่กลับครับ

สรุปเกี่ยวกับปัจจัยที่ทำให้พอร์ต Forex แตก

แม้บางครั้งเราอาจจะตั้งใจให้พอร์ต Forex แตก ด้วยการเอาระบบเทรดที่มันไม่ได้กำไร มาเทรดอยู่อย่างต่อเนื่อง คำถามคือ ถ้าเราเอาระบบเทรดที่ไม่ได้กำไรมาเทรด ผลที่ออกมาจะเป็นยังไง คำตอบมันก็แน่นอนอยู่แล้วใช่ไหมครับว่ามันต้องเป็นขาดทุนแน่นอน เหมือนเราอยากได้ผลสตรอว์เบอร์รี แต่เราปลูกต้นขนุน ผลที่ออกมายังไงมันก็ต้องเป็นขนุนอย่างแน่นอน

ดังนั้น ก่อนที่เราจะทำการเทรด ให้เราทดสอบระบบของเราก่อนว่ามันมีความสามารถในการทำกำไรได้จริงหรือไม่? หรือจริงๆ แล้ว ถ้าเราใช้ระบบเทรดนี้ มันจะพาเราไปสู่ขั้นตอนการล้างพอร์ตในอนาคต