ทำไมเทรดเดอร์ Forex ส่วนใหญ่ ล้วนเทรด ขาดทุน Forex เพราะตามที่เราเข้าใจว่าตลาด Forex มีแค่ขึ้นกับลง โอกาสในการทำกำไรมันต้อง 50/50 แต่ทำไมอัตราการทำกำไรมันต่ำกว่า 50/50 ตามทฤษฎี สาเหตุเป็นเพราะอะไร
ทำไมเทรด ขาดทุน Forex
ทำไมเทรด ขาดทุน Forex คงเป็นคำถามในใจที่เทรดเดอร์ Forex หลายคนตั้งข้อสงสัยกับตัวเอง ว่าทำไมการเทรด Forex ถึงมีโอกาสในการขาดทุนสูง หรือมีผู้คนไม่กี่ % ที่สามารถทำกำไรในตลาด Forex ในระยะยาวได้ สาเหตุเป็นเพราะอะไร ในเมื่อโอกาสในการทำกำไรมันมีแค่ขึ้นกับลง โอกาสทำกำไรมันต้อง 50/50 ไม่ใช่หรอ
แต่ทำไมมีเทรดเดอร์ไม่ถึง 5% ที่เทรด Forex แล้วได้กำไรในระยะยาว สาเหตุอะไรที่ทำให้เทรดเดอร์กว่า 95% ผิดพลาดในการเทรด Forex และไม่สามารถทำกำไรจาก Forex ในระยาวได้
1. กำไรกี่ออเดอร์ไม่สำคัญ
เทรดเดอร์มือใหม่ Forex หลายคนอาจจะให้ความสนใจไปที่ความสามารถในการทำกำไรในทุกๆ ออเดอร์ แต่ในความจริงแล้วมันไม่สามารถเป็นแบบนั้นได้เลย เราไม่มีทางวิเคราะห์ได้แม่นยำได้ 100% ว่าราคาจะเคลื่อนที่ไปในทิศทางใด เทรดเดอร์ระดับโลกหรือนักลงทุนระดับโลกหลายๆ คนล้วนเคยวิเคราะห์กราฟราคาผิดพลาดกันทั้งนั้น แต่เมื่อเกิดความผิดพลาดเกิดขึ้น เราจะจัดการความผิดพลาดนั้นอย่างไร นี่คือสิ่งที่สำคัญ
กำไรกี่ออเดอร์ไม่สำคัญ ภาพรวมกำไรสำคัญกว่า เป็นสิ่งที่เราควรให้ความสำคัญ
- ตัวอย่างที่ 1 ได้กำไร 10 ออเดอร์ ออเดอร์ละ 10 บาท ขาดทุน 1 ออเดอร์ เป็นจำนวนเงิน 150 บาท ภาพรวมพอร์ตลงทุนนี้จะเป็น ขาดทุน 50 บาท
- ตัวอย่างที่ 1 ได้กำไร 10 ออเดอร์ ออเดอร์ละ 10 บาท ขาดทุน 10 ออเดอร์ ออเดอร์ละ 7 บาท เป็นจำนวนเงิน 70 บาท ภาพรวมพอร์ตลงทุนนี้จะเป็น กำไร 30 บาท
จากตัวอย่างเห็นได้ว่า กำไรกี่ออเดอร์ไม่สำคัญ แต่สิ่งที่สำคัญคือ ภาพรวมพอร์ตลงทุนเป็นยังไง
2. จิตวิทยา ยอมขาดทุน ไม่ยอมถือกำไร
เรื่องจิตวิทยาในการเทรด Forex เป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะจิตวิทยาในการเทรด เป็นกรอบที่ครอบงำเราอยู่โดยที่เราไม่รู้ตัวก็เป็นได้ และสิ่งหนึ่งที่เทรดเดอร์ส่วนใหญ่ในตลาด Forex มักจะเป็นกันบ่อยก็คือ ยอมทนถือออเดอร์ที่ขาดทุนอยู่เพราะหวังว่าออเดอร์ที่ขาดทุนจะกลับมาเป็นกำไร และเช่นเดียวกัน คือ เทรดเดอร์เหล่านี้ไม่ยอมถือกำไร เพราะกลัวว่าออเดอร์ที่เป็นกำไร จะกลายมาเป็นขาดทุน โดยคิดว่าเอากำไรดีกว่าขาดทุน
3. อัตราชนะ ไม่ใช่ 50/50
เทรดเดอร์หลายคนอาจจะเข้าใจว่า ในตลาด Forex การซื้อขายมีแค่ขึ้นและลง การทำกำไรในตลาด Forex มันมีแค่ Buy และ Sell หากเราเปิดออเดอร์ Buy โอกาสที่เราจะได้กำไรต้อง 50/50 นั่นก็อาจจะใช่ แต่ทำไมคนส่วนใหญ่เกินกว่า 50% ถึงขาดทุน
เพราะว่าการชนะในระยะยาวโอกาสในการทำกำไรของเรามันลดลง มันไม่ได้เป็นอัตราชนะ 50/50 แล้ว แต่อัตราชนะมันจะลดลงเรื่อยๆ ตามจำนวนการเทรดของเรา หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ผมจึงเอาทฤษฎีความน่าจะเป็นมาให้เราได้ลองดูว่า กฎความน่าจะเป็นมีค่าเท่าไหร่ หากเราเทรด Forex 10 ครั้ง
มีโอกาสสูงแค่ไหนที่เราจะสามารถวิเคราะห์กราฟราคาได้แม่นยำถึง 10 ครั้ง โดยเฉพาะเทรดเดอร์ที่ไม่มีการวิเคราะห์ซื้อขายแบบการพนัน เดาว่าราคาจะขึ้นหรือลงตามความรู้สึก
เหตุผลที่เราไม่ควรเทรด Forex แบบการพนัน เพราะว่าโอกาสที่เราจะทำนาย หรือเดาทิศทางราคาได้ถูกต้องมันมีโอกาสน้อยมากที่เราจะเดาทิศทางของราคาได้
ตัวอย่าง การโยนเหรียญ 1 ครั้ง
- โยนเหรียญ 1 ครั้ง รูปแบบที่จะเกิดขึ้นเท่ากับ 2 ยกกำลัง 1 = 2 หมายถึง โอกาสที่เราจะทายถูก คือ 1 รูปแบบ จากทั้งหมด 2 รูปแบบ โอกาสเราทายถูกอยู่ที่ 50%
- การเทรดมั่วๆ 1 ครั้ง ก็จะทำให้ออเดอร์นั้นได้กำไร หรือ ขาดทุนที่ 50%
ตัวอย่าง การโยนเหรียญ 2 ครั้ง
- โยนเหรียญ 1 ครั้ง รูปแบบที่จะเกิดขึ้นเท่ากับ 2 ยกกำลัง 2 = 4 เท่ากับว่า โอกาสที่เราจะทายถูก คือ 1 รูปแบบ จากทั้งหมด 4 รูปแบบ โอกาสเราทายถูกทั้ง 2 ครั้งอยู่ที่ 25%
- การเทรดมั่วๆ 2 ครั้ง ก็จะทำให้ออเดอร์นั้นได้กำไร ทั้งหมดอยู่ที่ 25%
ตัวอย่าง การโยนเหรียญ 10 ครั้ง
- โยนเหรียญ 1 ครั้ง รูปแบบที่จะเกิดขึ้นเท่ากับ 2 ยกกำลัง 10 = 1,024 เท่ากับว่า โอกาสที่เราจะทายถูก คือ 1 รูปแบบ จากทั้งหมด 1,024 รูปแบบ โอกาสเราทายถูกทั้ง 10 ครั้งอยู่ที่ 0.098%
- การเทรดมั่วๆ 10 ครั้ง ก็จะทำให้ออเดอร์นั้นได้กำไร ทั้งหมดอยู่ที่ 0.098%
จากตัวอย่างเห็นได้ว่า เราไม่สามารถเอาชนะความน่าจะเป็นได้ ยิ่งเทรดมากเท่าไหร่ ความน่าจะเป็นที่เราจะชนะตลาด Forex ได้เหลือไม่ถึง 1% ที่เราจะทำนายได้แม่นยำจากการเดาแค่ว่าออกหัวหรือก้อย หากคุณคิดว่าตัวเลขนี้เวอร์ไปหรือไม่? ให้คุณลองโยนหัวก้อย 10 ครั้งแล้วเดาว่า 10 ครั้งนี้ คุณจะสามารถเดาได้ถูกต้องทั้งหมดเลยหรือไม่
หากคุณเดาถูกต้องทั้งหมด แสดงว่าคุณยอดเยี่ยมมาก เพราะโอกาสที่คุณจะเดาถูกได้ทั้งหมดอยู่ที่ 0.09765625% เท่านั้นเอง นี่จึงเป็นสาเหตุที่เราไม่ควรเทรด Forex แบบการพนัน
แต่ความรู้และเทคนิคในการวิเคราะห์กราฟราค าจะช่วยให้เราวิเคราะห์กราฟราคาได้แม่นยำมากยิ่งขึ้น และตรงจุดนี้จะเป็นการเพิ่มโอกาส % ในการชนะตลาด Forex
4. Money Management
การบริหารจัดการเงินลงทุน Money Management เป็นสิ่งสำคัญอย่างมากในการเทรด Forex เพราะ Money Management คือตัวชี้วัดว่าพอร์ตลงทุนของเรามีความแข็งแรงหรือไม่? หากไม่มี Money Management รับรองเลยว่า โอกาสที่เราจะเทรด Forex ให้ได้กำไรในระยะยาวแทบจะเป็น 0
เทรดเดอร์ Forex มือใหม่ หลายคนมองว่า การบริหารเงินลงทุน Money Management เป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญอันดับสุดท้าย เนื่องจากเขามองว่า สิ่งเหล่านี้ไม่ได้ทำให้พอร์ตลงทุนของเขาเติบโต ไม่ได้ทำให้เขารวยขึ้นจากการบริหารเงินลงทุน ทำให้เทรดเดอร์หลายคนคิดว่าถ้าใช้เวลาไปกับการศึกษาการทำกำไร Forex น่าจะมีประโยชน์กว่า
แต่อย่าลืมว่าต่อให้ได้กำไร 100 เท่า แต่ถ้าไม่มีการบริหารเงินลงทุน กำไรที่ได้มา ก็จะโดนตลอด Forex ทวงคืนอย่างแน่นอน
อ่านบทความ Money Management เพิ่มเติม
5. ไม่ปรับปรุงระบบเทรด
เทรดเดอร์ในตลาด Forex หลายคนมีระบบการเทรดของตัวเอง แต่เทรดเดอร์หลายคนไม่มีการปรับปรุงระบบเทรดให้ตามทันในแต่ละสภาวะตลาด เนื่องจากว่าตลาด Forex มีการเปลี่ยนแนวโน้มรูปแบบการเคลื่อนที่ของราคาอยู่สม่ำเสมอ อัตราการแกว่งตัวของราคาก็ไม่เท่ากันในแต่ละช่วงเวลา ถ้าเราจะใช้ระบบเทรดเดิมๆ สู้กับทุกสภาวะตลาด โอกาสที่เราจะขาดทุนจาดการเทรด Forex ก็มีสูงมากเท่านั้น
ระบบเทรด ต้องยืดหยุ่น
ระบบเทรด Forex ไม่ใช่แค่เงื่อนไขที่ทำให้เราซื้อขายซ้ำๆ เพียงเท่านั้น แต่ระบบเทรด คือ กลยุธท์ในการต่อสู้กับตลาด Forex ให้เราสามารถอยู่รอดในตลาด Forex ได้ในระยะยาว ต้องปรับให้ยืดหยุดเหมาะสมกับแต่ละสภาวะของตลาด
- ถ้าตลาดแกว่งตัวแรง เราจะต้องปรับระบบการเทรดใหม่ หากต้องการเทรดสภาวะตลาดที่นิ่ง เพราะเราจะใช้ระบบเทรดบนกราฟแกว่งตัวแรง ร่วมกับระบบการเทรดกราฟไม่แกว่งตัวที่นิ่งไม่ได้ เพราะราคามันเคลื่อนที่คนละรูปแบบกัน
- ถ้าตลาดเป็นแนวโน้ม Sideway เราจะต้องปรับระบบการเทรดใหม่ หากเราต้องการเทรดบนตลาดอยู่ในสภาวะแนวโน้มขาขึ้นหรือขาลง เพราะเราจะใช้ระบบเทรดกราฟราคาอยู่ในสภาวะตลาด Sideway ร่วมกับระบบการเทรดที่เทรดบนสภาวะตลาดแนวโน้มขาขึ้นหรือขาลงไม่ได้ เพราะราคามันเคลื่อนที่คนละรูปแบบกัน
อ่านบทความเพิ่มเติม เกี่ยวกับระบบเทรด
Author: