10 อันดับค่าเงินที่แพงที่สุดในโลก อัปเดตล่าสุด 2024

คุณรู้จักสกุลค่าเงินที่แพงที่สุดในโลกไหม? เราเชื่อว่าถ้าถามคำถามนี้น่าจะมีหลายคนหรือเกือบทุกคนเลยล่ะที่ตอบไม่ได้ เพราะเราเชื่อว่าหลายคนมีคำตอบของสกุลเงินที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลกอยู่ในใจ บ้างก็เป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ บ้างก็ว่าสกุลเงินยูโร ซึ่งคำตอบเหล่านี้ก็ไม่ได้ผิดไปซะทั้งหมด เนื่องจากทั้ง 2 สกุลเงินนี้ก็ติดอันดับใน 10 ค่าเงินที่แพงที่สุดในโลกที่เราได้รวบรวมมา มาถึงตรงนี้หลายคนก็คงจะอยากรู้กันแล้วว่ามีสกุลเงินใดบ้าง แล้วแต่ละสกุลเงินมีความพิเศษหรือความน่าสนใจอย่างไร Uhas รวบรวมข้อมูลที่น่าสนใจกับ 10 อันดับค่าเงินที่แพงที่สุดในโลก 2024 มาให้คุณแล้ว

แนะนำ 10 อันดับค่าเงินที่แพงที่สุดในโลก อัปเดต 2024

1. ดีนาร์คูเวต 1 KWD = 3.29 USD

ดีนาร์คูเวตถือเป็นสกุลเงินต่างประเทศที่มีราคาพุ่งสูงจนกลายเป็นสกุลค่าเงินที่แพงที่สุดในโลก ซึ่งสาเหตุก็มาจากการที่คูเวตมีการผลิตน้ำมันที่รุ่งเรือง รวมถึงมีการสร้างกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติที่มีขนาดใหญ่ออกมา ซึ่งบริหารจัดการโดย Kuwait Investment Authority (KIA) ที่มีส่วนทำให้ดีนาร์คูเวตมีมูลค่าสูงในระยะยาว ทั้งนี้แม้ว่าการลดลงของราคาน้ำมันดิบจะทำให้เกิดการขาดดุลในเศรษฐกิจของคูเวต แต่ด้วยแผนรับมือที่ KIA เตรียมไว้ ทำให้สามารถมั่นใจได้ว่า มูลค่าของดีนาร์คูเวต (KWD) จะยังแข็งแกร่งอยู่

2. ดีนาร์บาห์เรน 1 BHD = 2.65 USD

เมื่อดีนาร์บาห์เรนถูกตรึงค่ากับดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ดีนาร์บาห์เรนมีมูลค่าที่ค่อนข้างเหนือกว่าเรียลโอมานเล็กน้อย ซึ่งค่าเฉลี่ยของดีนาร์บาห์เรนถือว่าค่อนข้างเสถียรนับตั้งแต่ปี 2554 รวมถึงอัตราเงินเฟ้อของบาห์เรนที่ยังอยู่ในระดับปานกลางและค่อนข้างคงที่เช่นเดียวกัน แม้ว่าเศรษฐกิจของบาห์เรนจะได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ตกต่ำไปบ้าง 

3. เรียลโอมาน 1 OMR = 2.60 USD

โอมานเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ตรึงค่าเงินไว้กับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐในอัตราแลกเปลี่ยนคงที่อยู่ที่ 2.6008 USD ซึ่งเรียลโอมาน (OMR) ยังคงมูลค่าเดิมเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ เนื่องจากข้อจำกัดและนโยบายทางการเงินที่เข้มงวด เพื่อปกป้องประเทศจากสงครามและความขัดแย้งในตะวันออกกลาง ทำให้อัตราแลกเปลี่ยนของสกุลเงินเรียลโอมานมีค่าสูงขึ้น นอกจากนี้ ข้อจำกัดด้านการยืมก็มีแนวโน้มที่จะเอื้อประโยชน์กับองค์กรธุรกิจนอกประเทศ และการเทรด Forex ที่มีระดับความเสี่ยงสูงอีกด้วย 

4. ดีนาร์จอร์แดน 1 JOD = 1.41 USD

ดีนาร์จอร์แดน ถูกตรึงค่าเงินไว้กับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐด้วยมูลค่าที่สูงกว่า เพื่อทำให้สกุลเงินของจอร์แดนมีความมั่นคง และช่วยดึงดูดการลงทุนจากสหรัฐฯ มายังจอร์แดนได้ ซึ่งการตรึงค่าเงินของของดีนาร์จอร์แดนกับดอลลาร์สหรัฐถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก เพราะดีนาร์จอร์แดนสามารถรักษามูลค่าของตัวเองให้สัมพันธ์กับดอลลาร์สหรัฐได้เป็นอย่างดี 

5. ปอนด์สเตอร์ลิง 1 GBP = 1.25 USD

ธนาคารกลางของอังกฤษ (BoE) มักจะก้าวทันการพัฒนาของประเทศอื่น ๆ ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา ซึ่งสิ่งนี้ทำให้พวกเขาสามารถรักษาค่าเงินปอนด์ให้มีค่ามากกว่าดอลลาร์สหรัฐได้ในช่วงศตวรรษที่ 20 อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการกำหนดมูลค่าของปอนด์สเตอร์ลิง แต่ก็มีปัจจัยอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อการกำหนดมูลค่า เช่น เงินเฟ้อและการเติบโตของเศรษฐกิจ เหตุการณ์ทางเศรษฐกิจและการเมือง เป็นต้น

6. ดอลลาร์หมู่เกาะเคย์แมน 1 KYD = 1.22 USD

อัตราแลกเปลี่ยนของดอลลาร์หมู่เกาะเคย์แมน เคยถูกกำหนดตายตัวอยู่ที่ 1.20 ดอลลาร์สหรัฐในช่วงปี 1970 ซึ่งอาจจะดูเป็นเรื่องง่ายในการสร้างสกุลเงินที่มีค่าเงินมากกว่าดอลลาร์สหรัฐ แต่ในความเป็นจริงแล้ว มันกลับมีความซับซ้อนมากกว่าที่คิด เพราะการจะตรึงค่าเงินนั้นกลายเป็นเรื่องยากเมื่อสภาพเศรษฐกิจในท้องถิ่นไม่ดี และสหรัฐฯ ก็กำลังจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งสถานะของประเทศหมู่เกาะเคย์แมนในฐานแหล่งหลบภาษีคนรวย กำลังช่วยค้ำจุนมูลค่าของดอลลาร์หมู่เกาะเคย์แมนเอาไว้อยู่

7. ฟรังก์สวิส 1 CHF = 1.11 USD

ฟรังก์สวิส เป็นหนึ่งในสกุลเงินที่มีความสำคัญในตลาดโลกอยู่เสมอ ด้วยภาพลักษณ์ที่นักลงทุนมองว่า เป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยจากสภาพเศรษฐกิจของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ที่มีความแข็งแกร่ง เป็นหนึ่งในเงินสำรองระหว่างประเทศที่สำคัญต่อธนาคารกลางหลายแห่งทั่วโลก นักลงทุนส่วนใหญ่ซื้อสกุลเงินฟรังก์สวิสเก็บไว้ในช่วงที่สภาพการเงินทั่วโลกมีความผันผวนสูงเหมาะสำหรับการเกร็งกำไร ถึงแม้ว่าจะมีความสำคัญต่อตลาดโลก แต่ก็ยังมีบทบาทน้อยกว่าค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่เปรียบเสมือนสกุลเงินหลักของโลก

8. ยูโร 1 EUR = 1.08 USD

ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบนโยบายการเงินของทั้งทวีป ได้มีการกำหนดนโยบายการเงินสำหรับเขตเศรษฐกิจยุโรปให้มีความเป็นอิสระจากรัฐบาลของชาติมากกว่าธนาคารกลางส่วนใหญ่ ซึ่งความเป็นอิสระนี้เองที่ช่วยคงค่าเงินยูโรให้แกร่งขึ้น แต่ทั้งนี้ก็มีปัจจัยบางประการที่ทำให้เกิดวิกฤตหนี้สาธารณะในยุโรป และเพิ่มอัตราการว่างงานจากการดำเนินการบางอย่างเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ 

ซึ่งเมื่อพูดถึงการเทรดในตลาดโลกแล้ว ยูโรถือเป็นคู่เงินสามัญของดอลลาร์สหรัฐ เพราะยูโรคือสกุลเงินของ 19 ประเทศ และมูลค่าของยูโรกำหนดจากสภาวะทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองของทุกประเทศในทวีป

9. ดอลลาร์สหรัฐ USD

ดอลลาร์สหรัฐ (USD) ถือเป็นสกุลเงินที่มีการใช้มากที่สุดในโลก และถือว่าเป็นเกณฑ์มาตรฐานในตลาดระหว่างประเทศ เมื่อต้องมีการแลกเปลี่ยนสกุลเงิน นอกจากนี้ อัตราแลกเปลี่ยนดอลลาร์สหรัฐยังสามารถใช้เป็นเงินตราเพื่อชำระหนี้ตามกฎหมายได้ในหลายประเทศนอกสหรัฐอเมริกา และมีประเทศอื่นที่ใช้ดอลลาร์สหรัฐเป็นสกุลเงินอย่างไม่เป็นทางการร่วมกับสกุลเงินของตนเองอีกด้วย เนื่องจากดอลลาร์สหรัฐถูกมองว่าเป็นรากฐานสำคัญของเศรษฐกิจโลกและเป็นสกุลเงินสำรองสำหรับการเงินและการค้าระหว่างประเทศ

10. ดอลลาร์แคนาดา 1 CAD = 0.79 USD

อันดับสุดท้ายคือค่าเงินดอลลาร์แคนาดา เป็นหนึ่งในสกุลเงินที่ได้รับความนิยมจากนักลงทุนทั่วโลกเช่นเดียวกับสกุลเงินดอลลาร์อื่น ๆ โดยดอลลาร์แคนาดาถูกจัดเป็นสกุลเงินสำรองระหว่างประเทศอันดับที่ 6 ของโลก จึงทำให้มีบทบาทสำคัญต่อตลาดการเงินระดับโลกอยู่เสมอ อีกทั้งยังมีปัจจัยต่าง ๆ ของประเทศแคนาดาที่ช่วยเกื้อหนุนให้ค่าเงินดอลลาร์แคนาดามีความแข็งแกร่ง เช่น เสถียรภาพทางการเมืองภายในประเทศ มีแหล่งทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ และนโยบายของธนาคารกลางแคนาดาที่มีความเข้มงวดสูง

ทำไมดีนาร์คูเวต (KWD) ถึงเป็นสกุลค่าเงินที่แพงที่สุดในโลก

ดีนาร์คูเวต (KWD) ถือเป็นสกุลค่าเงินที่แพงที่สุดในโลก ซึ่งมีปัจจัยหลากหลายประการที่ส่งผลให้มูลค่าของสกุลเงินพุ่งสูงจนน้อยสกุลเงินจะสามารถเลียนแบบได้ โดยมีปัจจัยดังนี้

• การไม่ผูกค่าเงินกับดอลลาร์สหรัฐ (USD)
• Kuwait Investment Authority (KIA) ได้มีการจัดตั้งกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติเพื่อวางแผนเตรียมรับมือกับวิกฤตเศรษฐกิจต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น 
• การผลิตน้ำมันในประเทศที่รุ่งเรือง

แม้ว่า ดอลลาร์สหรัฐจะไม่ใช่ค่าเงินที่แพงที่สุดในโลก แต่จากการที่สหรัฐถูกมองว่าเป็นรากฐานสำคัญของเศรษฐกิจโลกจึงไม่แปลกเลยที่ใครหลาย ๆ คนจะคิดว่าดอลลาร์สหรัฐเป็นสกุลเงินที่มีมูลค่าสูงและแพงที่สุดในโลก และแม้ว่าดีนาร์คูเวตจะไม่ได้เป็นสกุลเงินที่หลายคนรู้จัก แต่ความมั่นคงของค่าเงิน และการเตรียมความพร้อมในการรับมือกับวิกฤตเศรษฐกิจต่าง ๆ ที่ประเทศคูเวตเตรียมไว้ ก็คงจะทำให้ใครหลาย ๆ คนอุ่นใจได้อยู่ไม่น้อย

ค่าเงินที่แพงที่สุดในอาเซียนล่าสุด 2567

สำหรับค่าเงินที่แพงที่สุดในอาเซียนตอนนี้คือ “ดอลลาร์บรูไน” โดยมีอัตราแลกเปลี่ยนล่าสุดอยู่ที่ 1 BND = 1.41 USD โดยปัจจัยที่ทำให้ค่าเงินดอลลาร์บรูไนมีมูลค่าสูงมาจากหลายปัจจัยด้วยกัน เช่น ฐานเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ประชากรมีรายได้ต่อคนค่อนข้างสูง รัฐบาลมีนโยบายควบคุมเงินเฟ้ออย่างรัดกุม มีการผูกค่าเงินดอลลาร์บรูไนกับดอลลาร์สิงคโปร์ (SGD) ช่วยให้ดอลลาร์บรูไนมีเสถียรภาพและน่าเชื่อถือ เป็นหนึ่งในประเทศที่ส่งออกน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติมากกว่าการนำเข้าสินค้าและบริการ และที่สำคัญ บรูไนนับเป็นศูนย์กลางการเงินของประเทศอิสลามหลายแห่งอีกด้วย

สรุปเกี่ยวกับ 10 อันดับค่าเงินที่แพงที่สุดในโลก 2024

เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 10 อันดับค่าเงินที่แพงที่สุดในโลก 2024 ที่แนะนำไปในบทความนี้ หากคุณเป็นคนที่สนใจเกี่ยวกับการเทรด Forex ก็อย่าลืมให้ความสำคัญกับการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับค่าเงิน และข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Forex เพื่อให้คุณมีความรู้ที่ครอบคลุมและสามารถเทรด Forex ได้อย่างเชี่ยวชาญ หากสนใจข้อมูลดี ๆ ที่เกี่ยวกับการเทรด Forex หรืออยากศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคู่เงินที่นิยมเทรด สามารถติดตามข้อมูลดี ๆ จาก Uhas ที่เกี่ยวกับการเทรด Forex มีให้คุณได้ติดตามอีกเพียบ!