กฎ 7 ข้อที่จะทำให้คุณกลายเป็น Full Time Trader อย่างอิสระ

เรื่องPatihanUhas

Full Time Trader

กฎ 7 ข้อที่จะทำให้คุณกลายเป็น Full Time Trader อย่างอิสระ ที่สามารถทำให้คุณไม่ต้องกลับไปทำงานประจำอีกครั้ง

 

กฎ 7 ข้อที่จะทำให้คุณกลายเป็น Full Time Trader อย่างอิสระ

เบนคือเทรดเดอร์ผู้มีประสบการณ์ในตลาดมานานกว่า 13 ปี และก็ถือว่าเขาได้ประสบความสำเร็จแล้วในระดับหนึ่ง เบนได้บอกว่า ถ้าคุณเทรดแบบมืออาชีพได้.. คุณก็ไม่จำเป็นที่ต้องทำงานประจำอีกต่อไป เพราะว่าคุณสามารถสร้างรายได้ ได้จากการเป็น Full-Time trader  ในวีดิโอนี้เราจะมาพูดถึง กฎ 7 ข้อที่จะทำให้คุณกลายเป็น THE MASTER

 

1. Backtest more: ทำแบบทดสอบย้อนกลับ

การเทรดเหมือนกับการเล่นกีฬา เราจะต้องทำมัน ภายใต้ความกดดัน ถ้าคุณดูนักกีฬามืออาชีพ จะเห็นได้ว่าพวกเขาใช้เวลาฝึกซ้อม มากกว่าการลงสนามจริง คุณต้องทำความเข้าใจว่า เมื่อคุณฝึกซ้อมเป็นประจำ มันสามารถช่วยให้คุณเตรียมใจสำหรับการลงสนามจริง และพวกเขารู้ด้วยว่า ถ้าคุณฝึกซ้อมมากขึ้นเท่าไหร่ ก็มีโอกาสที่จะรับมือในสนามจริงได้มากขึ้นเท่านั้น

 

ดังนั้นกับการเทรดก็เช่นเดียวกัน คุณต้องฝึกซ้อมมากขึ้น Backtest มากขึ้น เพื่อที่คุณจะได้เตรียมจิตใจและทักษะในการเทรดให้ดียิ่งขึ้น การทำ Backtest สามารถสร้างความมั่นใจได้จริงๆ ถ้าหากว่าคุณทำได้กำไรบ่อยครั้งในการฝึกซ้อม สมองของคุณก็จะจดจำว่ากลยุทธ์นี้แหละได้ผลดี และความมั่นใจของคุณก็จะเพิ่มขึ้น

 

2. Become a good loser: เป็นผู้แพ้ที่ดี

คนเราไม่ชอบการเป็นผู้แพ้หรือการสูญเสียอะไรบางอย่าง แต่สำหรับการเป็นเทรดเดอร์แล้ว เราจะต้องยอมรับความพ่ายแพ้ให้ได้ เพราะว่าความพ่ายแพ้นั้นเป็นส่วนหนึ่งของเกมส์ มันคือ “การแพ้เพื่อที่จะชนะ”  เราต้องฝึกจิตใจตัวเองให้คุ้นเคยกับการขาดทุน ไม่ปล่อยให้การขาดทุนมาส่งผลกระทบต่อจิตใจให้ย่ำแย่

 

คุณจะต้อง

  • สามารถดำเนินการเทรด ภายใต้ความกดดันได้
  • สามารถรับมือ กับการขาดทุนได้
  • สามารถวางแผน ทำการเทรดต่อไปได้

เทรดเดอร์มืออาชีพนั้นมักจะสามารถควบคุม สุขภาพจิตของตัวเขาเองได้ ถึงแม้ว่าจะเทรดขาดทุนเท่าไหร่ก็ตาม

 

3. Create a trading system: สร้างระบบเทรด ในแบบของคุณ

การสร้างระบบในการเทรดคืออะไร คือการผสมผสานของปัจจัยต่างๆ เข้าร่วมด้วยกันเพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายเดียวกัน ดังนั้นคุณจึงจำเป็นต้องมีรายการที่จะต้องทำ เป็นขั้นเป็นตอน ฝึกฝน พัฒนาและทำมันซ้ำเล่าหลายๆครั้ง

 

แต่ก่อนที่จะทำตามระบบการเทรด คุณต้องแน่ใจให้ได้ก่อนว่า กลยุทธ์ของคุณนั้นใช้ได้ผลจริงๆ ถ้ากลยุทธ์ของคุณไม่ดี คุณก็จะเสียทั้งเงิน ทั้งเสียเวลา และเสียทั้งสุขภาพจิต จากการทำผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่าหลายๆครั้ง ท้ายที่สุดอยากจะบอกว่า คุณต้องมีกลยุทธ์ที่ดี ตรวจสอบสถิติสำรองและศึกษาข้อมูลต่างๆที่เกี่ยวข้อง วางแผนทุกอย่างให้ละเอียด

  • รู้ว่าเมื่อไหร่ควรเข้าเทรด
  • รู้ว่าเมื่อไหร่ควร Stop Loss
  • สามารถรับความเสี่ยงได้มากที่สุดเท่าไหร่
  • ตลาดไหนที่คุณกำลังจะเข้าเทรด
  • เวลาไหนที่จะต้องเข้าเทรด

 

วางระบบได้ละเอียด (กลยุทธ์ที่ดี) +ทำซ้ำแล้วซ้ำเล่า = ประสบความสำเร็จในการเทรดเป็น THE MASTER

 

4. Don’t fall in love: อย่าตกหลุมรักในตลาด

อย่าตกหลุมรักในการเทรด: Don’t fall in love with your trade

ยกตัวอย่าง สมมุติว่ากราฟมันเคลื่อนตัวลงเป็นแนวโน้มขาลง คุณก็ยังย้ายจุด Stop loss ลงต่ำตาม เพราะว่าคุณกำลังตกหลุมรักการเทรดและไม่อยากขาย

 

อย่าตกหลุมรักในอคติของคุณ: Don’t fall in love with your bias

ยกตัวอย่าง การยึดติดจากประสบการณ์ที่เคยเกิดขึ้นหรือเคยพบเห็นแบบนี้มาแล้ว ในกรณีตลาดมีแนวโน้มขาลง จากประสบการณ์ของคุณทำให้มีอคติว่ามันจะลงอีกแน่นอน แต่ปรากฏว่าคุณคาดการณ์ผิด กราฟได้พุ่งทยานขึ้น ดังนั้นคุณไม่ควรยืดมั่นในอคติของคุณ ควรปรับตัวให้ไวได้ในทุกสถานการณ์

 

อย่าตกหลุมรักในตลาด: Don’t fall in love with your market

ยกตัวอย่าง สมมุติว่าคุณชอบเทรดค่าเงิน Euro: USD แล้วก็เทรดมาเป็นเวลานานหลายปีแล้ว แต่จู่ ๆ ตลาดมันก็เริ่มซบเซา ไม่เคลื่อนไหวเหมือนเมื่อก่อนหรือติดดอยนั้นเอง แต่คุณก็ยังคงจงรักพักดีไม่ย้ายไปเทรดกับตลาดอื่น เทรดเดอร์หน้าใหม่มักจะคิดว่าการเทรดในแต่ละตลาด มันแตกต่างกัน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่กล้าที่จะไปลงในตลาดที่ตัวเองไม่ชิน แต่เบนได้บอกว่าทุกตลาดมีโครงสร้างเหมือนกันหมด ดังนั้นอย่ากลัวการเปลี่ยนตลาด และอย่าตกหลุมรักเพียงตลาดเดียว

 

เบน ยกตัวอย่างว่าเขาเคยปักหลักกับการเทรดในหุ้นน้ำมันเพียงอย่างเดียว พอน้ำมันเริ่มซบเซาเบนก็หันไปเทรดใน Nasdaq เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยง

 

5. Find a mentor: หาที่ปรึกษา

ในความคิดเห็นของเบน ว่าด้วยการเรียนรู้ด้วยตัวเอง เบนมองว่ามันได้ประสิทธิภาพที่ต่ำมาก เพราะว่าการเรียนด้วยตัวเอง “คุณไม่สามารถรู้ได้ว่า อะไรที่คุณไม่รู้” ด้วยประสบการณ์ของเบนที่เทรดมาแล้วกว่า 13 ปี และในปัจจุบันนี้เขาก็ยังเข้าคอร์สเรียนอยุ่เรื่อย ๆ

 

เบนบอกว่ามันช่วยประหยัดเวลาได้มากกว่าการมาทำความเข้าใจด้วยตนเอง และอีกทั้งมันก็สอนเบนให้ได้รู้อะไร ในสิ่งที่เขาไม่เคยรู้มาก่อน สำหรับเบนแล้วมันยากมากที่จะต้องเรียนรู้ด้วยตัวเองเพราะเขาไม่รู้ว่าจะต้องมองหาอะไรในตลาด ดังนั้นคุณไม่ควรมี EGO มากเกินไป เพราะว่าถ้าหากคุณมีอีโก้มากเกินไป คุณจะไม่ยอมเปิดใจเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ

 

6. Don’t break your rules: อย่าแหกกฎที่คุณสร้างไว้

คุณต้องมีวินัย ถึงแม้ว่าคุณจะได้ยินมาแล้วหลายพันครั้งแล้วก็ตามแต่ แต่สิ่งนี้สำคัญมากและเป็นความจริง เบนกล่าว่า “ฉันไม่ได้อยากเป็นเทรดเดอร์ที่เก่งที่สุดในห้อง แต่ฉันอยากเป็นเทรดเดอร์ที่มีวินัยมากที่สุดในห้อง” มองในภาพรวมจากอุตสาหกรรมต่างๆ คุณจะเห็นได้ว่า บริษัทที่ประสบความสำเร็จและอยู่ยงคงกระพันได้นานๆนั้น ล้วนแล้วแต่มีวินัยและกฎระเบียบที่ชัดเจนภายในองค์กร การมีวินัยสามารถทำให้คุณรวยได้ ดังนั้นทำตามแผนการที่คุณได้วางไว้และสร้างนิสัยที่ดีให้กับตัวเอง

 

7. Always improve: ฝึกฝนทักษะอย่างสม่ำเสมอ

คนที่ปรับปรุงตัวเองอย่างสม่ำเสมอไม่ว่าจะด้านใดก็แล้วแต่ เขาเหล่านั้นย่อมประสบความสำเร็จได้ง่ายกว่าคนทั่วไป สำหรับการเทรดแล้ว คุณต้องจดข้อผิดพลาดของคุณลงในสมุดทุกครั้ง คุณจะพึ่งแต่ให้สมองจดจำเพียงอย่างเดียวไม่ได้  เพราะว่าเดี๋ยวคุณก็ลืม ดังนั้น จงเรียนรู้ข้อผิดพลาด และปรับปรุง อย่ายอมแพ้ ทำต่อไป พัฒนาตัวเองต่อไป แล้วคุณจะกลายเป็นเทรดเดอร์ที่เก่งขึ้นตามลำดับ ตามประสบการณ์ที่คุณได้จากการเรียนรู้

 

Source