Nassim Nicholas Taleb ตำนานเทรดเดอร์ ทฤษฎีหงส์ดำ Black Swan

เรื่องPatihanUhas

Black Swan

Nassim Nicholas Taleb ตำนานเทรดเดอร์ ทฤษฎีหงส์ดำ Black Swan โดย Nassim Nicholas Taleb (นัสซิม นิโคลัส ทาเล็บ) เป็นนักคณิตศาสตร์ นักเศรษฐศาสตร์ นักวิชาการ นักเขียน และนักวิเคราะห์ความเสี่ยงชาวอเมริกันที่เกิดในเลบานอน  อีกทั้งยังเป็นผู้ก่อตั้ง ผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์พันล้าน “Empirica Capital LLC”

 

สารบัญ

Nassim Nicholas Taleb (นัสซิม นิโคลัส ทาเล็บ)

Nassim Nicholas Taleb

ภาพจาก Nassim Nicholas Taleb 

 

นัสซิม ทาเล็บ ลงทุนในตราสารอนุพันธ์ (Derivative) เขามีความเชี่ยวชำนาญในหุ้น Option มากกว่าประเภทอื่นๆ โดยตราสารอนุพันธ์แบ่งออกได้ เป็น 4 ประเภท คือ Forward, Futures, Swap ที่เป็นสัญญา และ Option ที่เป็นสิทธิ์ และ Option ก็ได้สร้างชื่อเสียงให้เขาได้กลายเป็นที่รู้จักและเป็นที่นับถือในกลุ่มนักลงทุน

 

ปัจจุบัน (อายุ 62 ปี) เขาใช้ชีวิตวัยหลังวัยเกษียณด้วยการเป็นนักเขียนและนักวิชาการอย่างเต็มตัว  “นัสซิม นิโคลัส ทาเล็บ” ทาเล็บ หรือเรียกสั้นๆว่า “นัสซิม ทาเล็บ” เขาคือผู้คนพบ ทฤษฎี “Black Swan” หรือ “หงส์ดำ”

 

เรื่อง ทฤษฎีหงส์ดำ

ยุคสมัยก่อน มนุษย์รู้จักแต่หงส์สีขาว และเชื่อมาตลอดว่า “หงส์มีแต่สีขาวเท่านั้น” แต่สุดท้ายมาค้นพบ “หงส์ดำ” ที่ประเทศออสเตรเลีย ในปี 1697 โดย Willem de Vlamingh หงส์ดำจึงกลายเป็นคำแทนของ “สิ่งที่เหมือนจะเป็นไปไม่ได้” (แต่เป็นไปแล้ว)

 

ปัจจุบันเราใช้คำว่า Black Swan หรือ หงส์ดำ เปรียบเปรยถึงเรื่องที่ไม่คาดฝันว่าจะเกิด… แต่ดันเกิดขึ้นและสร้างผลกระทบใหญ่หลวง ซึ่งเป็นได้ทุกเรื่องทั้งเศรษฐกิจ สังคม การเงิน การเมือง ฯลฯ อย่างไรก็ตาม Black Swan มีทั้งด้านบวก และ ด้านลบ

 

นัสซิม นิโคลัส ทาเล็บ คือใคร

นัสซิม นิโคลัส ทาเล็บ (Nassim Nicholas Taleb) ชื่อนี้คนไทยอาจไม่คุ้นหูเสียเท่าไหร่ แต่ชื่อเสียงเขาโด่งดังมากในต่างประเทศ ทั้งในฐานะที่ปรึกษาของกองทุน Hedge Fund และยังเป็นผู้ที่ชอบทำกำไรจากเหตุการณ์พิเศษต่างๆ

 

ในปี 2021 มูลค่าสุทธิของนาซิม ทาเล็บ โดยเฉลี่ยแล้วประมาณ 100 ล้านดอลลาร์ (รายได้ส่วนใหญ่มาจากการขายหนังสือ การเป็นที่ปรึกษาและลงทุนในตราสารอนุพันธ์)

 

ในปี 2015 กองทุน Universa Investment ที่เขาเป็นที่ปรึกษา ก็ทำเงินได้กว่า 1 พันล้านเหรียญในวันเดียวจากเหตุการณ์ที่ดาวโจนส์ลดลงกว่า 1000 จุด

 

นัสซิม ทาเล็บ เป็นหนึ่งในนักการเงินที่ได้รับเชิญให้เข้าร่วม Economic Forum ในเมืองดาวอส (2010) ในฐานะที่ปรึกษา เขายังจัดสัมมนาการบริหารความเสี่ยงเป็นการส่วนตัวสำหรับนักเศรษฐศาสตร์ นักการเงิน และที่ปรึกษาทางการเงินแก่หน่วยงานของรัฐ มุมมองของเขาไม่เพียงมีอิทธิพลต่อผู้อ่านทั่วไปเท่านั้น แต่ยังรวมถึงพนักงานของ US Federal Reserve Service ด้วย

 

นัสซิม ทาเล็บเป็นนักเขียน หนังสือที่โด่งดังของเขาคือเรื่อง The Black Swan: The Impact of the Highly Improbable ที่อธิบายทฤษฎี Black Swan และถูกจัดอันดับโดย The Sunday Times ให้เป็น 1 ใน 12 หนังสือขายดีที่มีอิทธิพลมากที่สุดในโลกนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง โดยหนังสือนี้จะเปรียบเทียบว่า โลกก่อนหน้านี้เชื่อว่า หงส์ทุกตัวเป็นสีขาว หรือ All Swans Are White แต่ความเชื่อนี้ก็มาถูกทำลายทีหลัง เพราะหงส์ดำมีจริงในทวีปออสเตรเลีย

 

สิ่งที่จะเข้าข่ายทฤษฎี Black Swan

Nassim Nicholas Taleb บอกว่า สิ่งที่จะเข้าข่ายทฤษฎี Black Swan หมายถึง

  1. เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน
  2. เหตุการณ์นั้นมีผลกระทบมหาศาลเมื่อเกิดขึ้น
  3. หลังเหตุการณ์นั้น จะมีเหตุผลมาอธิบายได้ว่าเกิดอะไรขึ้น

amazon.co.uk/Black-Swan-Impact-Highly-Improbable

black swan

 

นัสซิม ทาเล็บ ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นหนึ่งในนักเขียนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งศตวรรษที่ 20 โดย The Guardian เขาเผยแพร่หนังสือออกมาเป็นจำนวนมาก

 

นัสซิม ทาเล็บ ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในนักคิดที่ดีที่สุดในยุคปัจจุบัน เขาได้ทำเงินเป็นจำนวนมากโดยการทำในสิ่งที่คนอื่นไม่ได้ทำหรือไม่กล้าที่จะทำมาก่อน

 

ประวัติของ นัสซิม นิโคลัส ทาเล็บ

 

ชีวิตในวัยเด็ก

นาซิม ทาเล็บเกิดวันที่12 กันยายนปี1960 ในเมือง Amioun ประเทศเลบานอน (ปัจจุบันอายุ 62 ปี) เขาเติบโตมาในครัวที่มีฐานะดี  พ่อแม่ของเขามีเชื้อสายคริสเตียนแอนทิโอเชียนกรีก ศรัทธาในนิกายกรีกออร์โธดอกซ์ที่มีอิทธิพลซึ่งเป็นศาสนาที่เป็นชนกลุ่มน้อย

  • พ่อของเขาคือ ดร. Najib Taleb ผู้ศึกษาและรักษาด้านเนื้องอกของร่างกายและนักโลหิตวิทยา
  • แม่ของเขาคือ Minerva Ghosn นักวิจัยด้านมานุษยวิทยา
  • ปู่ของเขาFouad Nicolas Ghosnและปู่ทวดNicolas Ghosnเป็นรองนายกรัฐมนตรีในทศวรรษที่ 1940 ถึง 1970

ในบรรดาบรรพบุรุษของเขาคือนักการเมืองและผู้พิพากษาสูงสุด ถือว่าเป็นเชื้อสายผู้มีอิทธิพลในเลบานอน

 

การศึกษา

นัสซิม ทาเล็บเข้าเรียนมัธยมใน Grand Lycée Franco-Libanais ซึ่งโรงเรียนสอนภาษาฝรั่งเศสชั้นนำในเลบานอน เขาสอบผ่านเสมอโดยไม่ต้องใช้ความพยายามมากนัก ในปี 1975 สงครามกลางเมืองเลบานอนได้ปะทุขึ้น ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาร้ายแรงสำหรับ Grand Lycée Franco-Libanais ที่อยู่ใกล้กับเส้นแบ่งแยกฝั่งมุสลิมของเบรุตออกจากฝั่งคริสเตียน

 

สงครามกลางเมืองได้ส่องผลกระทบ สร้างความเสียหายอย่างหนักต่อพื้นที่ต่างๆร่วมถึงอาคารเรียน ทำให้ต้องขาดเรียน สงครามยังผลกระทบอย่างมาก ต่อครอบครัวของนัสซิม พวกเขาต้องเผชิญกับการสูญเสียความมั่งคั่งและอิทธิพลทางการเมือง จนเป็นเหตุทำให้ต้องอพยพครอบครัวไปอยู่ต่างประเทศ

 

เขาได้เรียนต่อมหาวิทยาลัยปารีส จบการศึกษาปริญญาตรี และปริญญาโทด้านวิทยาศาสตร์ และปริญญาเอกด้านวิทยาการจัดการจากมหาวิทยาลัยปารีส(วิทยานิพนธ์ของเขามีหัวข้อเกี่ยวกับคณิตศาสตร์ราคาอนุพันธ์)  พร้อมทั้งปริญญาโทอีกใบสาขาบริหารธุรกิจจาก Wharton School ที่มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย

 

ตอนอายุ 19 ปี เขาไปสหรัฐอเมริกาและศึกษาที่โรงเรียนวอร์ตันที่มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย คณะวิชาธุรกิจแห่งนี้ก่อตั้งโดยโจเซฟ วอร์ตันในปี 1881และตั้งแต่ปี 1921 ได้เปิดสอนหลักสูตร MBA (ปริญญาโทบริหารธุรกิจ)

 

นอกจากเขาจะเก่งในด้านคณิตศาสตร์แล้ว เขายังเก่งในด้านภาษาศาสตร์อีกด้วย นัสซิมสามารพูดได้มากกว่า 7ภาษา สามารถใช้ภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส และวรรณกรรมอาหรับได้อย่างคล่องแคล่ว พูดภาษาอิตาลีและสเปน อ่านภาษากรีกโบราณ ละติน และอราเมอิก และคานาอัน

 

ช่วงเวลาแห่ง “การเงิน”

ในปี 1984  เดือนธันวาคม เขาได้เริ่มอาชีพของเขาในฐานะเทรดเดอร์ตราสารอนุพันธ์

 

ในปี 1987 ช่วงนั้นเขาเป็นที่ปรึกษาให้กับธนาคารเพื่อการลงทุน “The First Boston Corporation” และภายในปีนั้นก็เกิดเหตุการณ์ “Black Monday” เขาสามารถสร้างผลกำไรอย่างมหาศาล

 

นัสซิม ทาเล็บเป็นศาสตราจารย์สอนวิชาคณิตศาสตร์ อยู่ที่มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก และได้พบกับลูกศิษย์ชื่อ Mark Spitznagel ….Mark นั้นเคยทำงานอยู่ธนาคาร ซึ่งต้องเผชิญกับเหตุการณ์ที่น่ากลัว ไม่ว่าจะเป็น วิกฤติการเงินในเอเชียปี 1997 และวิกฤติการผิดนัดชำระหนี้พันธบัตรของรัสเซียปี 1998 ด้วยเหตุนี้ ตอนเรียนต่อปริญญาโทในคลาสของ Nassim Nicholas Taleb เขาจึงมีความสนใจเรื่องของ Black Swan เป็นอย่างมาก

 

ในปี 1999 ทั้งคู่ร่วมก่อตั้งบริษัทกองทุนชื่อ Empirica Capital โดยมีหลักบริหารจัดการทรัพย์สินคือ การเตรียมตัวเพื่อรับมือวิกฤติที่ไม่คาดฝันโดยเฉพาะ (ซึ่งบางครั้งเรียกว่า”black swan protection” “การป้องกันหงส์ดำ”) ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อบรรเทาความเสี่ยงของนักลงทุนต่อการเคลื่อนไหวของตลาดที่รุนแรง รูปแบบธุรกิจของเขาคือการปกป้องนักลงทุนจากวิกฤตในขณะที่เก็บเกี่ยวผลตอบแทนจากเหตุการณ์ที่หายาก

 

ในปี 2000 ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เกิดฟองสบู่ดอตคอม จากการเก็งกำไรในบริษัทอินเทอร์เน็ตและเทคโนโลยี ที่ร้อนแรงเกินกว่าพื้นฐานการดำเนินงาน ส่งผลให้กราฟ NASDAQ พุ่งขึ้น เขาได้โชคลาภอีกครั้ง หนึ่งในกองทุนของบริษัทของเขาคือ “Empirica Kurtosis LLC” ซึ่งสร้างผลตอบแทนมหาศาลถึง 60% ภายสิ้นในปี 2000 แต่อย่างไรก็ตาม ในช่วง 2 ปีต่อมา ปี 2003 – 2004 บริษัทขาดทุนจำนวนมาก กองทุนมีกำไรน้อยกว่า 10%

 

ในปี 2005 นัสซิม ทาเล็บ ปิดตัวบริษัทลงเนื่องด้วยปัญหาทางสุขภาพ และได้กลายเป็นนักเขียนและนักวิชาการอย่างเต็มตัว

 

ในปี 2007 เขากลายเป็นที่ปรึกษาทางวิทยาศาสตร์ให้กับบริษัทกองทุนเฮดจ์ฟันด์ ‘Universa Investments’ ก่อตั้งและเป็นเจ้าของโดย Spitznagel อดีตหุ้นส่วนธุรกิจของนัสซิม ทาเล็บ และได้ใช้หลักการกลยุทธ์การลงทุนที่คล้ายกับ “Empirica”

 

เนื่องจากอาชีพของเขาครอบคลุมตลาดการเงินมากว่า 2 ทศวรรษ เขาจึงเริ่มมีอิสระทางการเงินได้ค่อนข้างเร็ว ตลอดระยะเวลานี้ เขาทำงานร่วมกับธนาคารเพื่อการลงทุนหลายแห่ง เช่น ‘Credit Suisse First Boston’, ‘United Bank of Switzerland,’ ‘BNP-Paribas,’ the ‘Bankers Trust’ (ปัจจุบันคือ ‘Deutsche Bank’), ‘Banque Indosuez ‘

 

(ปัจจุบันคือ ‘Crédit Agricole Corporate and Investment Bank’), ‘CIBC Wood Gundy’ และ ‘Chicago Mercantile Exchange’ ในขณะที่อยู่ในองค์กรเหล่านี้ เขาดำรงหน้าที่อยู่หลายตำแหน่ง ไม่ว่าจะเป็นผู้ค้าสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ผู้จัดการกองทุน กรรมการผู้จัดการ และหัวหน้าระดับโลก เขาเชี่ยวชาญในการป้องกันความเสี่ยงและจัดการผลตอบแทนภายใต้การกระจายความน่าจะเป็นที่ซับซ้อน

 

เคล็ดลับป้องกันความเสี่ยง ของนัสซิม นิโคลัส ทาเล็บ

 

1. รู้ว่าคุณไม่รู้อะไร?

รู้ว่าคุณไม่รู้อะไร เพราะว่าความรู้อยู่กับสิ่งที่เราไม่รู้ มันก็คือการที่เราได้ค้นพบว่าเราไม่รู้อะไร

  • มนุษย์ถูกฝึกให้ใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่อยู่ต่อหน้าต่อตาเราโดยไม่สนใจข้อมูลที่เรามองไม่เห็น

 

2. บทเรียนของฉันจากโซรอส “นักเก็งกำไรตัวจริงอย่างโซรอสเป็นอย่างไร”

สิ่งที่ทำให้นักเก็งกำไรตัวจริงอย่างโซรอสแตกต่างจากคนอื่นๆ คือ เขาปราศจากอคติ เมื่อวานผ่านมาแล้วก็ผ่านไปไม่เก็บมาคิดมาก โซรอสไม่เพียงแต่มีความรู้ในด้านเศรษฐศาสตร์เท่านั้น แต่ยังมีความรู้ลึกในทางวิทยาศาสตร์เรื่องระบบความคิด (Thinking System) ของมนุษย์อีกด้วย

 

โซรอสกับทฤษฎีสะท้อนกลับ

  • ขั้นแรก โซรอสใช้องค์ประกอบ “การทำนาย” ว่าลักษณะทางเศรษฐกิจ ตลาดหุ้นและค่าเงิน จะเป็นอย่างไรผ่านสื่อต่าง ๆ
  • ขั้นที่สอง โซรอสใช้องค์ประกอบ “การอธิบาย” จนคนอื่น ๆ ในตลาดเริ่มเกิดความคาดหวังหรือคาดการณ์ทิศทางราคาขึ้น และการคาดการณ์ที่เกิดจากการทำนายในขั้นแรกของโซรอส ส่งผลต่อการกระทำและการตัดสินใจในการลงทุนของพวกเขา
  • ขั้นสุดท้าย โซรอสใช้องค์ประกอบ “การทดสอบ” เพื่อให้คำนายที่บอกไว้ตั้งแต่แรกเป็นจริง โดยการทุ่มเงินเก็งกำไรอย่างมหาศาลลงมาในตลาด พร้อม ๆ กับสภาวที่เกือบทุกคนคาดการณ์ไปในทิศทางเดียวกัน

 

3. เมื่อไหร่

มันไม่ได้เกี่ยวกับแนวโน้มที่เหตุการณ์จะเกิดขึ้น แต่มันเกี่ยวกับว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่

 

4. รู้จุดอ่อนของคุณ

ข้อได้เปรียบเพียงอย่างเดียวในชีวิตของฉัน คือการที่ฉันรู้จุดอ่อนของตัวเอง

 

5. เก็บความผิดพลาดของคุณให้เล็กพอที่จะเอาตัวรอดได้

สิ่งที่พวกเขาต้องทำคือรักษาความผิดพลาดให้เล็กพอที่จะเอาตัวรอดได้

 

6. คำถามที่ถูกต้องไม่ได้มีไว้เพื่อแสดงความคิดเห็น

อย่าถามความคิดเห็น การพยากรณ์ หรือคำแนะนำจากใครเลย แค่ถามพวกเขาว่ มีเงินหรือไม่มีเงิน ในพอร์ตโฟลิโอของพวกเขา หากคุณไปพบแพทย์อย่าถามแพทย์ว่าควรทำอย่างไร ถามเขาว่าเขาจะทำอย่างไร ถ้าหากเขาตกอยู่ในสถานการณ์ที่คุณเผชิญอยู่

 

7. ระบบทุนนิยม

ปัญหาของระบบทุนนิยมและระบบการทำงานของธนาคารที่ไม่ได้เรื่อง อยู่เบื้องหลังวิกฤตการเงิน

 

8.  ฉันไม่อ่านหนังสือพิมพ์

 

9. ไม่มีอะไรที่แน่นอน

ปรากฏการณ์ทางเศรษฐกิจเป็นสิ่งที่ไมสามารถคาดเดาได้

 

10. ลงทุนในความพร้อม

ลงทุนในความพร้อม ไม่ใช่การทำนาย หรือการคาดเดาโดยปราศจากข้อมูล

 

11. ความสามารถในการยอมรับความล้มเหลว

สิ่งที่อเมริกาทำได้ดีที่สุดคือสร้างความสามารถในการยอมรับความล้มเหลว

 

12. สนุกกับการเรียนนอกมหาวิทยาลัย

Steve Jobs, Bill Gates และ Mark Zuckerberg เรียนไม่จบ แต่พวกเขาสนุกกับการเรียนรู้นอกมหาวิทยาลัย ดังนั้นฉันจึงบอกกับลูกๆ ว่าอย่ากังวลเรื่องเกรด แต่ให้สนุกกับการเรียน

 

13. การพลาดรถไฟ จะเจ็บปวด ก็ต่อเมื่อคุณวิ่งตามมัน

การพลาดรถไฟ อาจจะไม่เลวร้ายนัก และอาจจะไม่เจ็บปวดสักเท่าไหร่ แต่เราจะเจ็บปวด ก็ต่อเมื่อคุณวิ่งตามมัน

 

14. ความแตกต่างระหว่างเทคโนโลยีกับการเป็นทาส

ความแตกต่างระหว่างเทคโนโลยีกับการเป็นทาส คือทาสตระหนักดีว่าพวกเขาไม่เป็นอิสระ

 

15. ปัญญาประกอบด้วย การไม่ใส่ใจสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้อง

พวกเขาคิดว่าความฉลาดเป็นเรื่องของการสังเกตสิ่งต่าง ๆ รอบตัวที่เกี่ยวข้อง แต่ในโลกที่ซับซ้อน ปัญญาประกอบด้วยการละเลยสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้อง

 

16. ใช้ประโยชน์จากโชคชะตา

ใช้ประโยชน์จากโชคชะตาได้เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม และป้องกันตัวเองในวันที่โชคชะตาไม่เป็นใจ นัสซิม ทาเล็บ เชื่อว่า โชคชะตา มีอิทธิพลมากกว่าที่ใครหลายคนคิด ในสังคมที่คนสำเร็จพูดอะไรก็ได้แต่คนพ่ายแพ้ไม่มีโอกาสได้พูด เราจะรู้ได้อย่างไรว่าคนๆ นั้นสำเร็จได้เพราะฝีมือ หรือแค่เพราะโชคดี และที่สำคัญที่สุด เราต้องทำอย่างไรถึงจะใช้ประโยชน์จากโชคชะตาได้เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม และจะป้องกันตัวเองอย่างไรในวันที่โชคชะตาไม่เป็นใจกับสักเรื่องในชีวิต

 

Source

 

Contact