รูปแบบการเทรด Butterfly Pattern คืออะไร มีข้อดีอย่างไรบ้าง

เรื่องUhasAuthor

รูปแบบการเทรด Butterfly Pattern คืออะไร มีข้อดีอย่างไรบ้าง

แม้ว่ารูปแบบการวิเคราะห์กราฟจะมีอยู่มากมาย แต่มีหนึ่งรูปแบบที่น่าสนใจและได้รับความนิยมจากนักเทรดทั่วโลก นั่นคือ Butterfly Pattern หรือรูปแบบผีเสื้อ ที่ไม่ได้มีดีแค่ชื่อที่น่าจดจำ แต่ยังมีความแม่นยำสูงถึง 77% ในการคาดการณ์จุดกลับตัวของราคา วันนี้ Uhas เราจะพาคุณไปรู้จักกับเครื่องมือทรงพลังตัวนี้ว่าทำไมถึงกลายเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ที่นักเทรดมืออาชีพเลือกใช้

Butterfly Pattern คืออะไร

Butterfly Pattern คือ รูปแบบกราฟที่เป็นส่วนหนึ่งของทฤษฎี Harmonic Pattern ที่ใช้อัตราส่วน Fibonacci ในการวิเคราะห์จุดกลับตัวของราคา มีลักษณะพิเศษคือจุด D จะยืดออกไปไกลกว่าระยะ XA ทำให้เกิดรูปร่างคล้ายผีเสื้อ และมีการพักตัวที่เป็นสัดส่วนเฉพาะตามทฤษฎี ทำให้สามารถคาดการณ์ทิศทางราคาในอนาคตได้แม่นยำมากขึ้น

รูปแบบของ Butterfly Pattern ในการเทรด

สำหรับผู้เริ่มต้น Butterfly Pattern คือรูปแบบที่แบ่งได้เป็น 2 ประเภทหลัก ดังนี้ 

Bullish Butterfly Pattern

  • จุด B พักตัวที่ระดับ 78.6% ของระยะ XA
  • จุด C พักตัวในช่วง 38.2-88.6% ของระยะ AB
  • จุด D เป็นจุดสำคัญที่ยืดออกไป 161.8-261.8% ของระยะ AB

Bearish Butterfly Pattern

  • จุด B พักตัวที่ระดับ 78.6% ของระยะ XA
  • จุด C พักตัวในช่วง 38.2-88.6% ของระยะ AB
  • จุด D เป็นจุดสำคัญที่ยืดออกไป 161.8-261.8% ของระยะ AB

วิธีหารูปแบบ Butterfly Pattern เพื่อใช้เทรด

วิธีหารูปแบบ Butterfly Pattern เพื่อใช้เทรด

การระบุ Butterfly Pattern ที่ถูกต้องต้องพิจารณาองค์ประกอบสำคัญ ดังนี้

  1. ตรวจสอบจุดกลับตัวหลัก (X, A, B, C, D) : เริ่มจากการระบุจุด X และ A ที่เป็นจุดเริ่มต้น จากนั้นดูการพักตัวที่จุด B ประมาณ 78.6% ของ XA และการพักตัวที่จุด C ในช่วง 38.2-88.6% ของ AB ก่อนจะไปถึงจุด D ที่เป็นจุดสำคัญซึ่งต้องยืดออกไป 161.8-261.8% ของ AB
  2. วัดระยะและอัตราส่วนระหว่างจุดต่างๆ ด้วย Fibonacci : ใช้เครื่องมือ Fibonacci Retracement เพื่อวัดระยะห่างระหว่างจุดต่าง ๆ โดยต้องตรงตามอัตราส่วนที่กำหนด เพื่อยืนยันความถูกต้องของแพทเทิร์น
  3. ยืนยันแนวโน้มด้วยเครื่องมือทางเทคนิคอื่นๆ : นำ Indicator อื่น ๆ มาประกอบการวิเคราะห์ เช่น RSI เพื่อดูภาวะ Overbought/Oversold, MACD เพื่อดูโมเมนตัมของราคา และ Volume เพื่อยืนยันความน่าเชื่อถือของการเคลื่อนไหว
  4. รอสัญญาณยืนยันจากแท่งเทียน: สังเกตรูปแบบแท่งเทียนที่บ่งบอกการกลับตัว เช่น Hammer, Shooting Star หรือ Engulfing Pattern ร่วมกับการดูปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น

การเทรดด้วย Butterfly Pattern มีข้อดีอย่างไร

Butterfly Pattern ได้รับความนิยมอย่างมากจากนัดเทรดส่วนใหญ่ ซึ่งข้อดีหลัก ๆ มีดังนี้ 

  1. มีจุดเข้า-ออกที่ชัดเจนตามทฤษฎี
  • มีความแม่นยำสูงถึง 77% ตามทฤษฎี
  • เสี่ยงต่ำแต่คาดหวังกำไรสูงด้วย Risk Reward Ratio ที่ดี
  • ลดการตัดสินใจโดยใช้อารมณ์เพราะมีระบบชัดเจน
  1. เหมาะกับตลาดที่ไร้ทิศทาง
  • ทำงานได้ดีในช่วงตลาดพักตัว
  • ใช้ได้กับทุกคู่เงินในตลาด Forex
  • สะท้อนพฤติกรรมของเทรดเดอร์รายใหญ่
  1. สามารถใช้ร่วมกับเครื่องมืออื่นได้
  • เสริมประสิทธิภาพด้วย Indicators อื่นๆ
  • ยืนยันสัญญาณด้วยรูปแบบแท่งเทียน
  • วิเคราะห์ร่วมกับ Fibonacci Retracement
  1. มีระบบการเทรดที่ชัดเจน
  • มีจุด Stop Loss และ Take Profit ที่แน่นอน
  • สามารถวางแผนการเทรดล่วงหน้าได้
  • เหมาะกับการทำกำไรระยะกลางถึงยาว

สิ่งที่ต้องระวังเมื่อใช้ Butterfly Pattern

สิ่งที่ต้องระวังเมื่อใช้ Butterfly Pattern

การเทรดด้วย Butterfly Pattern แม้จะมีความแม่นยำสูง แต่ก็มีข้อควรระวังที่สำคัญที่นักเทรดต้องใส่ใจ เพื่อให้การเทรดเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง

ต้องรอให้รูปแบบสมบูรณ์

ไม่ควรรีบเข้าเทรดก่อนที่แพทเทิร์นจะสมบูรณ์ ต้องแน่ใจว่าทุกจุดตรงตามอัตราส่วน Fibonacci ที่กำหนด โดยเฉพาะจุด D ที่ต้องยืดออกไป 161.8-261.8% ของ AB

จัดการความเสี่ยงอย่างเป็นระบบ

ถึงแม้จะมีความแม่นยำสูง แต่ต้องมีการจำกัดความเสี่ยงที่เหมาะสม ควรใช้ขนาดการเทรดไม่เกิน 1-2% ของพอร์ต และวางแผน Risk-Reward Ratio อย่างน้อย 1:2

ระวังในช่วงข่าวสำคัญ

หลีกเลี่ยงการเทรดในช่วงประกาศข่าวเศรษฐกิจสำคัญ เพราะอาจทำให้ราคาเคลื่อนไหวผิดไปจากรูปแบบปกติ และเพิ่มความเสี่ยงในการเทรด

และทั้งหมดนี้ก็คือ Butterfly Pattern ที่มืออาชีพเลือกใช้ในการลงทุน Forex แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับนักเทรดมือใหม่ควรลองฝึกกับบัญชีทดลองก่อน เพื่อทำความเข้าใจกับรูปแบบ และการคำนวณอัตราส่วนต่าง ๆ ให้ชำนาญ และเมื่อมั่นใจแล้วจึงค่อยเริ่มเทรดจริงด้วยการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม เพียงเท่านี้คุณก็จะสามารถใช้ Butterfly Pattern เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือในการสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืนได้