หลายคนคงเคยสงสัยว่า ราคาทองจะลงช่วงไหน เพื่อจะได้วางแผนซื้อทองในจังหวะที่เหมาะสม เพราะการลงทุนในทองคำถือเป็นทางเลือกยอดนิยมที่นักลงทุนใช้เป็นเครื่องมือรักษามูลค่าเงินและสร้างผลตอบแทนในระยะยาว แต่การจะซื้อทองให้ได้กำไรนั้น ต้องรู้จักจับจังหวะและอ่านสัญญาณตลาดให้ออก วันนี้ Uhas มีเคล็ดลับดี ๆ มาแนะนำกัน
รู้ก่อนซื้อ! ทำไมราคาทองจะลงช่วงไหน ถึงสำคัญ
การรู้จังหวะขาลงของราคาทองเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักลงทุน เพราะจะช่วยให้สามารถวางแผนการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเพิ่มโอกาสในการทำกำไรจากส่วนต่างราคา แต่ก่อนจะไปดูสัญญาณต่าง ๆ มาทำความเข้าใจกันก่อนว่าอะไรบ้างที่ส่งผลต่อการขึ้น-ลงของราคาทอง
- ปัจจัยอะไรบ้าง ที่ทำให้ราคาทองขึ้น-ลง
ปัจจัยที่ทำให้ราคาทองขึ้นและลง ได้แก่
- อุปสงค์และอุปทานในตลาด
ปัจจัยแรกที่ส่งผลโดยตรงต่อราคาทองคำคือความต้องการซื้อทองจากทั้งนักลงทุนและผู้บริโภค รวมถึงปริมาณการผลิตและการขายทองคำของเหมืองทองต่าง ๆ ทั่วโลก นอกจากนี้การซื้อ-ขายทองคำของธนาคารกลางประเทศต่าง ๆ ก็มีผลต่อราคาทองอย่างมีนัยสำคัญ เพราะเป็นผู้เล่นรายใหญ่ในตลาด
- สภาวะเศรษฐกิจโลก
อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจเป็นตัวชี้วัดสำคัญที่ส่งผลต่อราคาทอง โดยเฉพาะอัตราเงินเฟ้อที่มักทำให้นักลงทุนหันมาถือครองทองคำเพื่อรักษามูลค่าเงิน รวมถึงนโยบายการเงินของธนาคารกลางประเทศสำคัญ ๆ ที่มีผลต่อทิศทางการลงทุนในทองคำของนักลงทุนทั่วโลก
- ปัจจัยทางการเมืองและความมั่นคง
สถานการณ์ความไม่แน่นอนทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นสงครามและความขัดแย้งระหว่างประเทศ การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่สำคัญ รวมถึงวิกฤตการณ์ต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจโลก ล้วนทำให้นักลงทุนหันมาถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ส่งผลให้ราคาทองปรับตัวตามสถานการณ์เหล่านี้
7 สัญญาณเตือนก่อนราคาทองจะลงช่วงไหน ดูยังไง
การจะรู้ว่าราคาทองกำลังจะปรับตัวลงนั้น เราสามารถสังเกตได้จากสัญญาณต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในตลาด มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง
1. ดูจากค่าเงินดอลลาร์
เมื่อดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า ราคาทองคำมักจะปรับตัวลง เนื่องจากทองคำซื้อขายในสกุลเงินดอลลาร์เป็นหลัก ทำให้ทองมีราคาแพงขึ้นในสกุลเงินอื่น นักลงทุนจึงมักเลือกถือครองดอลลาร์แทน เพราะนอกจากจะได้ประโยชน์จากค่าเงินที่แข็งขึ้นแล้ว ยังมีโอกาสได้รับผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ยอีกด้วย
2. ดูจากดอกเบี้ย
ดอกเบี้ยขึ้น ทองมักลง เพราะทองเสียเปรียบตราสารหนี้ เนื่องจากไม่มีดอกเบี้ย นักลงทุนจึงมักขายทองไปลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ดอกเบี้ยแทน อีกทั้งการถือครองทองในช่วงดอกเบี้ยสูงยังมีต้นทุนค่าเสียโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนจากดอกเบี้ยในสินทรัพย์อื่นด้วย
3. ดูจากเงินเฟ้อ
เงินเฟ้อชะลอ ทองมักลง เพราะนักลงทุนไม่จำเป็นต้องถือทองมากเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ และเมื่อธนาคารกลางขึ้นดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ นักลงทุนมักเลือกลงทุนในสินทรัพย์อื่นที่ให้ผลตอบแทนดีกว่าแทน
4. ดูจากคนแห่ซื้อ-ขายทอง
เมื่อมีการขายทองออกมามาก อาจเป็นสัญญาณว่าราคาจะลง และถ้าปริมาณการซื้อขายสูงผิดปกติ มักบ่งชี้ว่าราคากำลังจะเปลี่ยนทิศทาง นอกจากนี้ควรติดตามการเคลื่อนไหวของกองทุน ETF ทองคำด้วย เพราะมีการซื้อขายปริมาณมากและมีผลต่อราคาทองในตลาดโลก
5. ดูจากกราฟราคาทอง
การวิเคราะห์กราฟเทคนิคช่วยคาดการณ์ทิศทางราคาทองได้ โดยมีจุดสำคัญที่ควรดูคือ รูปแบบราคาที่อยู่ในทิศทางขาลง พร้อมกับการหลุดเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่สำคัญ ซึ่งยืนยันแนวโน้มขาลง รวมถึงปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวกับราคาที่ลง และรูปแบบแท่งเทียนที่บ่งชี้แนวโน้มขาลง การวิเคราะห์ปัจจัยเหล่านี้ร่วมกันจะช่วยเพิ่มโอกาสในการจับจังหวะลงทุนได้ดียิ่งขึ้น
6. ดูจากนโยบายแบงก์ชาติ
การปรับขึ้นดอกเบี้ยและการลดขนาดงบดุลมักทำให้ราคาทองลง และนักลงทุนต้องติดตามท่าทีของธนาคารกลางเกี่ยวกับนโยบายการเงินในอนาคตอย่างใกล้ชิด รวมถึงการเปลี่ยนแปลงในปริมาณการถือครองทองคำของธนาคารกลางเอง เพราะสิ่งเหล่านี้ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและราคาทองในตลาดโลก
7. ดูจากเหตุการณ์โลก
เมื่อความขัดแย้งระหว่างประเทศคลี่คลาย หรือเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว นักลงทุนมักลดการถือครองทองเพื่อไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า เช่นเดียวกับเมื่อความเชื่อมั่นในตลาดการเงินเพิ่มขึ้น ความนิยมลงทุนทองก็มักลดลง นอกจากนี้ นวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ ก็อาจส่งผลต่อการใช้งานและความต้องการทองคำในอนาคตด้วย
จังหวะทองลง ซื้อตอนไหนถึงจะดี
การเลือกจังหวะซื้อทองในช่วงราคาลงควรพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้
- ซื้อตามจังหวะแนวรับสำคัญ เมื่อราคาทองปรับตัวลงมาทดสอบแนวรับที่สำคัญ ให้สังเกตระดับราคาที่เคยเป็นแนวรับมาก่อน พร้อมดูปริมาณการซื้อขายบริเวณนั้นว่ามีการฟื้นตัวของแรงซื้อหรือไม่ และรอสัญญาณการฟื้นตัวของราคาก่อนตัดสินใจลงทุน
- ใช้กลยุทธ์ทยอยซื้อ การทยอยซื้อเป็นวิธีที่ช่วยลดความเสี่ยง โดยแบ่งเงินลงทุนออกเป็นส่วนๆ แล้วทยอยซื้อเป็นระยะเพื่อเฉลี่ยต้นทุน และอาจพิจารณาเพิ่มปริมาณการลงทุนในช่วงที่ราคาปรับตัวลงแรง เพื่อให้ได้ต้นทุนเฉลี่ยที่ดี
- วิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน ก่อนตัดสินใจลงทุน ควรพิจารณาปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญ เช่น ทิศทางของค่าเงินดอลลาร์ แนวโน้มการปรับขึ้นลงของอัตราดอกเบี้ย และภาพรวมของสภาวะเศรษฐกิจโลก เพื่อประเมินแนวโน้มราคาทองในระยะต่อไป
ข้อควรระวังตอนซื้อทองช่วงราคาลง
เมื่อทองคำราคาลง อย่าเพิ่งรีบซื้อ ควรรอดูจังหวะฟื้นตัวและเข้าใจสาเหตุของการปรับราคาให้ชัดเจนก่อน การลงทุนควรทยอยซื้อ ไม่ทุ่มเงินก้อนเดียว และต้องสำรองเงินสดไว้บางส่วน ที่สำคัญต้องระวังราคาที่อาจลงต่อเนื่อง พร้อมตั้งจุดตัดขาดทุนที่รับได้ เพื่อจำกัดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น
การรู้ว่าราคาทองจะลงช่วงไหนเป็นทักษะสำคัญสำหรับนักลงทุน โดยต้องพิจารณาจากหลายปัจจัยประกอบกัน ทั้งปัจจัยพื้นฐานและเทคนิค ถ้าคุณสนใจการลงทุนในทองคำ สามารถศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเทรดทองออนไลน์ หรือเรียนรู้การวิเคราะห์แนวรับแนวต้านทอง เพื่อประกอบการตัดสินใจ นอกจากนี้ยังสามารถศึกษาการลงทุนใน forex ทองคำ ซึ่งเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนในทองคำยุคดิจิทัล
สิ่งสำคัญคือต้องมีวินัยในการลงทุน ไม่ใช้อารมณ์ตัดสินใจ และพร้อมปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง เพราะการลงทุนในทองคำไม่ได้มีสูตรสำเร็จตายตัว แต่ต้องอาศัยประสบการณ์และการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง
Author: