ความจริงเกี่ยวกับ ความสำเร็จ เหมาะสำหรับ เทรดเดอร์ หากคุณเป็นคนที่มีความสนใจในการพัฒนาตัวเอง บทความนี้ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง โดยบทความนี้ได้มาจากช่องยูทูปของ จูเลียน บลังค์ และ โอเว่น คุก และบทความบางส่วนจากการวิจัยของมหาวิทยาลัย Stanford
ความจริงเกี่ยวกับ ความสำเร็จ
จูเลียน และ โอเว่น สองคนนี้ถือว่าเป็นยูทูปเบอร์ที่ประสบความสำเร็จและโด่งดังเป็นที่รู้จักในอเมริกา
คอนเทนต์ของพวกเขาจะเกี่ยวกับการพัฒนาตัวเอง พัฒนาความคิด พัฒนาศักยภาพชีวิตให้ดีขึ้น หรือการใช้ชีวิตอยู่ในสังคมที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย
แต่ละหัวข้อที่เขาหยิบยกมาสอนมันสามารถนำมาปรับใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน คุณไม่จำเป็นต้องเชื่อทุกอย่างที่เขาพูด แต่ให้คุณลองไปไตร่ตรอง พิจารณาด้วยตัวของคุณเอง
ประวัติโดยสังเขปของจูเลียน และ โอเว่น
Julien Blanc (จูเลียน บล็องก์)
- เขาสามารถสร้างรายได้ถึง 1 ล้านดอลลาร์ต่อเดือน
- ล่าสุดในเดือนเมษาปี 2022 รายได้สุทธิของเขาอยู่ที่ $5 Million
- จากผู้ชายขายกางเกงยีนกลายมาเป็นวิทยากรที่มีชื่อเสียงระดับโลก
- เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านการพูดที่สามารถดึงศักยภาพของผู้ที่ฟังออกมา ให้ประสบความสำเร็จในชีวิต ไม่ว่าจะในด้านการงาน ด้านความรักหรือความสัมพันธ์กับครอบครัว ถ้าจะพูดให้ฟังง่ายๆก็คือ ไลฟ์โค้ชนั้นเอง
- ช่องของ Julien https://www.youtube.com/channel/UCaN4Pe5JEsWzAByY2WfxxjQ มีผู้ติดตาม 211K
- ตั้งแต่ปี 2010 Julien Blanc (หรือที่รู้จักว่า JulienHimself) ได้เดินทางไปทั่วโลก เพื่อให้คำปรึกษาแก่ลูกค้าแบบตัวต่อตัวหลายหมื่นรายใน 40 กว่าประเทศ
Owen Cook (โอเว่น คุก)
- Owen Cook หรือที่รู้จักในชื่อ Tyler Durden ชาวแคนนาดาเขาเป็นวิทยากรและโค้ชสำหรับการออกเดท
- ซึ่งเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีในการร่วมก่อตั้งบริษัท Real Social Dynamics(RSD เขายังแชร์เคล็ดลับการออกเดทในช่อง YouTube ของเขาด้วย
(RSD) เป็นบริษัทสอนการออกเดทที่สอนผู้ชายถึงวิธีการจีบผู้หญิง พวกเขามีการจัดสัมมนา และขายคอร์สออนไลน์ให้กับลูกค้าทั่วโลก RSD ทำรายได้นับล้านจากการขายหลักสูตรที่มีราคาแพง
- ล่าสุดในเดือนเมษาปี 2022 รายได้สุทธิของเขาอยู่ที่ $2 million
เนื้อหาในวันนี้คือ “ความจริงเกี่ยวกับความสำเร็จ”
ผู้คนส่วนมากกลัวการล้มเหลว และอยากประสบความสำเร็จเพียงอย่างเดียว อยากให้ทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่เราได้วางไว้ …ความจริงก็คือ “ไม่มีความสำเร็จใดๆ ที่ปราศจากความล้มเหลว” เพราะว่าความล้มเหลวคือหนทางแห่งความสำเร็จ
1. ประสบความสำเร็จเริ่มต้นที่ชุดความคิด
มนุษย์ส่วนใหญ่มีอตคิกับเงินโดยไม่รู้ตัว
“คนเราจะมีเงินเท่าที่ตัวเองคิดว่ามันสมควรกับตัวเอง” คุณเป็นคนตั้งค่าและสร้างมันขึ้นมาเอง
บางคนอาจจะคิดว่าตัวฉัน ความรู้เท่านี้ ประสบการณ์เท่านี้ เงินเดือนแค่นี้พอล่ะ เวลาคุณได้เงินมาเกินจำนวนปกติที่คุณหาได้ คุณก็จะหาวิธีจ่ายมันออกไป
สมมุติว่าคุณเป็นมนุษย์เงินเดือนที่มีเงินเข้าทุกเดือนอยู่ 30,000 บาท แต่เดือนนี้คุณบังเอิญขายของได้เยอะทำให้ได้โบนัสมาแสนหนึ่ง คุณจะรู้สึกไม่สบายใจ ถ้าไม่ได้ใช้เงินโบนัสที่ได้มานั้น
ดั้งนั้นคุณจึงนำเงินไปซื้อความ ความสบายในบางครั้งก็ซื้ออะไรที่มันไม่จำเป็น จนฐานเงินเก็บคุณเหลือเท่าเดิม
ยกตัวอย่างง่ายๆ ให้เปรียบเทียบระหว่างคนที่สร้างฐานะขึ้นมาด้วยตัวเอง กับคนที่โชคดีถูกรางวัลลอตเตอรี่
คุณอาจจะเห็นข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์อยู่บ้างว่าคนที่ถูกรางวัลลอตเตอรี่วภายในไม่กี่ปีพวกเขากลับมาจนเหมือนเดิม มีน้อยคนที่โชคดีถูกลอตเตอรี่และสามารถคงความมั่งคั่งอย่างยั่งยืน
ทำไมพวกเขาถึงมีจุดจบแบบนี้ล่ะ ? ก็เพราะว่าเขาไม่รู้ที่จะจัดการกับเงินที่ได้มานั้นอย่างไร และลึกๆแล้วพวกเขาเหล่านั้นมีอคติกับเงิน
เชื่อว่ามนุษย์ทุกคนล้วนแล้วแต่อย่ามีเงินและประสบความสำสำเร็จในชีวิต แต่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถมีชีวิตแบบนั้นได้ บางคนโชคช่วยรวยแป๊บเดียวเพราะว่าจัดการกับการเงินของตัวเองไม่ได้
สาเหตุมันเกิดมาจากความเชื่อที่มีอคติกับเงิน
ยกตัวอย่าง ในส่วนของเงิน
- คนรวยคือคนไม่ดี คนขี้โกง
- คนรวยชอบเอาเปรียบ
- เงินคือบ่อของความโลภ
- เงินทำให้ครอบครัวต้องแตกแยก พี่น้องทะเลาะกันเพราะแย่งสมบัติ
- ฉันไม่เหมาะกับสังคมผู้ดีหรือคนรวย เพราะฉันชอบอยู่อย่างสมาถะแบบนี้แหละ
- เงินทำให้คนเห็นแก่ตัว และขาดสติ
ในส่วนของความสำเร็จ
- ความสำเร็จมาพร้อมกับความรับผิดชอบที่ใหญ่หลวง
- ความสำเร็จมันน่ากลัวสำหรับฉัน
- ความสำเร็จต้องใช้ความพยายามอย่างมาก
- ความสำเร็จต้องมีลูกน้องเยอะๆ และเป็นที่นับหน้าถือตา
- ควาวมสำเร็จต้องมีเงินในบัญชีแสนล้านขึ้นไป
คราวนี้ให้คุณลองเช็คตัวเองว่า คุณมีความคิดอย่างไรกับเงิน/ความสำเร็จ ? (จะดีมากถ้าคุณเขียนมันลงไปในสมุด เพราะมันจะทำให้คุณรู้จักตัวเองมากขึ้น ว่าคุณมีรากฐานความคิดยังไงกับเงินและความสำเร็จ)
2. โฟกัสให้เป็น เลือกเพียงทีละอย่าง
บางคนทำงานเหมือนแป็นคน Productive ที่วุ่นวายกับการทำงานทั้งวัน แต่ผลงานที่ออกมานั้นยังไม่เต็มประสิทธิภาพ จูเลียนยังพูดอีกว่า คุณควรโฟกัสสิ่งเดียวและขยายมันให้ใหญ่ขึ้น และผลตอบรับมันก็จะดีขึ้นตามไปด้วย
เขาบอกว่าสิ่งหนึ่งที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จคือการที่เขาจินตนาการถึงความสำเร็จและความสุขที่เขากำลังจะได้รับ เอามาเป็นแรงขับเคลื่อนให้ลงมือทำ และมีความสุขขณะที่ทำไปด้วย
3. เอาตัวเองออกจากคนที่ชอบนินทาว่าร้ายคนอื่น
เอาตัวเองออกห่างคนที่มองโลกในแง่ร้าย หรือชอบพูดเรื่องไร้สาระ ชอบพูดดูถูกคนอื่น อะไรทำนองนี้
บางคนมีความรู้สึกดีที่ได้นินทาเรื่องคนอื่น วันไหนไม่ได้พูดถึงกับนอนไม่หลับ
ถ้าให้คนที่ชอบนินทานี้ไปอยู่กับพวกสังคมดีๆ หรือที่พูดจากันเพราะๆ สังคมที่คนประสบความสำเร็จเขาคุยกัน คนเหล่านี้มักจะคุยแต่เรื่องสร้างสรรค์และการพัฒนาทักษะต่างๆของตัวเอง คนที่ชอบนินนาหรือคิดลบเมื่อเข้าไปอยู่แดนสวรรค์จะรู้สึกอึดอัดเลยในทันที
เช็คตัวเองด้วยเพราะว่าบางทีอาจเป็นคุณอาจจะเป็นคนประเภทที่ชอบมองโลกในแง่ร้าย
คนเรามักจะดึงดูดคนที่นิสัยเหมือนกันเข้าหากัน ถ้าคุณอยากประสบความสำเร็จก็หาสังคมดีๆให้ตัวเองเข้าไปอยู่
4. หยุดดูถูกตัวเอง แล้วพัฒนาตัวเองซะ
ยกตัวอย่าง ให้คุณลองไปหาขอทานที่อยู่ในละแวกบ้านคุณ และเสนองานเกี่ยวกับบัญชีให้เขาทำ พร้อมกับผลตอบแทนอย่างงาม ร้อยทั้งร้อยจะปฎิเสธเพียงเพราะว่าพวกเขาเหล่านั้นดูถูกตัวเองว่าไม่สามารถทำงานนั้นได้ และยังไม่พอพวกเขาเหล่านั้นยังไม่ขวนขวายหาวิธิเพิ่มทักษะให้ตัวเองได้มีชีวิตที่ดีกว่าเดิม
เพราะเขาชอบที่อยู่ในวงสังคมขอทานของพวกเขา วันๆไม่ทำอะไร นั่งกินลมชมวิว และมันก็คือความสุขที่เขาเลือก พวกเขาเลือกที่จะใช้ชีวิตอยู่ใน Comfort zone (ไม่เชื่อคุณก็ลองไปถามขอทานแถวบ้านคุณดู คุณจะได้ได้รู้แนวความคิดใหม่ๆจากพวกเขา)
ทีนี้หันกลับมามองตัวเอง “การที่เราพูดว่าเราทำไม่ได้ ทั้งที่ยังไม่ได้ลองทำ” ก็เหมือนกับขอทางที่กล่าวไปข้างต้น
คุณอยากจะใช้ชีวิตเหมือนขอทานหรือ Billionaire คุณคือคนกำหนดเอง
บทสรุปจากบทความนี้
งานวิจัยของ Dweck พบว่าการทำงานของความคิดมีอยู่ 2 รูปแบบ
- ความคิดที่อยู่ในกรอบ : Fixed Mindsets
- ความคิดที่พัฒนาขึ้นไปเรื่อยๆ อย่างสร้างสรรค์ : Growth Mindsets
ซึ่งแน่นอนอยู่แล้วว่า Growth Mindsets มีอยู่ในกลุ่มคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต ที่มีเพียบพร้อมทั้งความมั่งคั่งร่ำรวย สุขภาพที่ดีและความสุข
เพราะคนเหล่านี้เชื่อว่าเขาสามารถมีหรือเป็นในสิ่งที่เขาปารถนาได้ เขาเหล่านั้นมีความคิดที่เชื่อมั่นว่าตนเองสามารถสำเร็จได้และในณะเดียวกันก็พัฒนาตัวเอง พัฒนาทักษะไปด้วย
สาเหตุที่เราแต่ละคนมีชุดความคิดที่ต่างกันคืออะไร ?
สภาพแวดล้อม , สังคม , ชีวิตการเป็นอยู่ , ประสบการณ์ ,ครอบครัว และอื่นๆอีกมากมายที่สามารถเป็นปัจจัยให้คนแต่ละคนมีความคิดและความเชื่อที่แตกต่างกันออกไป
บางคนอาจจะถูกพ่อแม่ปลูกฝังมาจากวัยเด็ก กับอคติที่มีกับเงิน ประมานว่า “เงินหายากนะลูก ใช้จ่ายประหยัดๆหน่อย” (เคยเห็นคนรวยแล้วประหยัดเกินจนไม่มีความสุขไหม นั้นก็ไม่ใช่คุณภาพชีวิตที่ดีเช่นกัน)
บางคนก็ถูกปลูกฝังมาว่า “คนรวยมันเป็นคนขี้โกง นิสัยไม่ดี คบไม่ได้ ไว้ใจไม่ได้” (เวลาคุณหาเงินได้เยอะกว่าปกติที่คุณหาได้ คุณมักจะรู้สึกผิดกับตัวเองอยู่ลึกๆ ว่าเราเป็นไม่ดี จึงหาวิธีที่จะใช้จ่ายมันออกไป มันมีงานวิจัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่ แต่ยังหาไม่เจอ)
ใดๆก็แล้วแต่ พฤติกรรมที่กล่าวมาข้างต้น ไม่ได้ทำให้คุณภาพชีวิตของคุณดีขึ้น
เราจะสร้างให้ตัวเองมี Growth Mindsets ได้อย่างไร?
ง่ายที่สุดเลยคือการพูดในเชิงสร้างสรรค์ให้กับตัวเองบ่อยๆ ในทุกๆวัน จนตัวคุณเองเชื่ออย่างสนิทใจว่าคุณเป็นคนแบบนั้นแล้วจริงๆ ยกตัวอย่าง
1. ฉันเป็นคนโชคดี ชีวิตฉันเจอแต่เรื่องดีๆ
มองหาแต่สิ่งดีๆ ในทุกสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ยิ่งคุณโฟกัสไปในสิ่งดีๆ สิ่งดีๆก็จะถาโถมเข้ามาในชีวิตของคุณ
2. ฉันเชื่อว่าฉันสามารถประสบความสำเร็จได้ ฉันเป็นคนมีความสามารถ ศักยภาพของฉันนั้นไร้ขีดจำกัด
ที่สำคัญคือคือคุณต้องพัฒนาด้านนั้นๆของคุณไปด้วย ถ้าหากคุณผ่านมันไปได้สเตปแรก มันจะทำให้คุณรู้สึกภูมิใจและสเตปที่สอง สาม จะตามมาเป็นขั้นบันไดให้คุณไต่ไปถึงฝัน
3. ฉันสามารถทำเรื่องที่ยิ่งใหญ่ให้สำเร็จได้
หนึ่งในการพูดกับตัวเองที่มีพลังมากที่สุดคือ การบอกตัวเองในแต่ละวันว่า คุณสามารถทำทุกเรื่องที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตให้สำเร็จได้ โฟกัสไปที่จินตนาการและความฝันของคุณแล้วเชื่อมอารมณ์ความรู้สึกนี้ให้ติดกับจินตนาการของคุณ
โดยการบอกกับตัวเองด้วยคำพูดในแง่ดี และความเชื่อที่ว่าคุณสามารถยิ่งใหญ่ได้ จะเป็นการมอบพลังให้คุณเองในการสร้างชีวิตที่คุณปรารถนา
4. วันนี้ฉันเปี่ยมไปด้วยความกระตือรือร้นและความสุข
ความสุขต้องเริ่มจากภายใน ไม่ใช่ภายนอก อีกทั้งยังเริ่มต้นทันทีที่คุณตื่นนอนขึ้นมาอีกด้วย ดังนั้นควรหัดพูดประโยคในแง่บวกกับตัวเองซ้ำ ๆ จนเป็นนิสัย ให้เป็นสิ่งที่ต้องทำเป็นอันดับแรกในทุกเช้า
5. วันนี้ ฉันได้ทิ้งนิสัยที่ไม่ดีไป และรับนิสัยใหม่ที่ดีเข้ามา
ให้นึกไว้ว่า ช่วงเวลาที่ยากลำบากเป็นเพียงช่วงสั้น ๆ ของชีวิตเท่านั้น สิ่งเหล่านี้จะผ่านพ้นไปพร้อมกับนิสัยเก่าของคุณ เมื่อคุณเปลี่ยนรับเอานิสัยใหม่ที่ดีขึ้นเข้ามา
พยายามปรับตัวไปกับความมีชีวิตชีวาและความกระตือรือร้นอย่างรวดเร็ว เพื่อนำเราไปสู่แนวคิดหรือไอเดียใหม่ๆ ที่ยอดเยี่ยม ซึ่งกระบวนการทางความคิดนี้จะช่วยให้ชีวิตของคุณดำเนินไปอย่างราบรื่น
6. ฉันรักและยอมรับในสิ่งที่ฉันเป็น
การรักตัวเองเป็นความรักที่บริสุทธิ์ที่สุดและเป็นรูปแบบของความรักที่สูงที่สุด เมื่อคุณรักตัวเอง คุณจะเริ่มเห็นคุณค่าและเคารพตัวเองโดยอัตโนมัติ หากคุณมีความมั่นใจและภูมิใจในสิ่งที่ตัวเองทำ
คุณก็จะเริ่มเห็นตัวเองในมุมมองใหม่ๆ และได้รับแรงกระตุ้นและแรงบันดาลใจให้ทำในสิ่งที่ใหญ่ขึ้นและดีขึ้นด้วยคำพูดที่บอกกับตัวเองเพื่อความสำเร็จ
เมื่อคุณพูดประโยคเหล่านี้ หรือพูดกับตัวเองในแง่บวกด้วยประโยคอื่น ๆ จิตใต้สำนึกจะทำงานและเริ่มดึงดูดโอกาสที่จะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในสิ่งที่คุณเริ่มต้นที่จะทำต่อไป
7. พยามเป็นเพื่อนที่ดีให้กับตัวเอง ให้กำลังใจตัวเองในวันที่เหนื่อยล้า ไม่ใช่ตอกย้ำตัวเอง
ถ้าคุณสามารถเปลี่ยนความคิดไปในทางสร้างสรรค์ได้พร้อมกับความเชื่อมั่นในตัวเองที่มีมากขึ้น ไม่ว่าคุณจะเจอกับปัญหาอุปสรรคอะไร คุณก็สามารถผ่านมันไปได้
ถึงแม้ว่าคุณไม่ได้ประสบความสำเร็จในเพียงชั่วข้ามคืน แต่สิ่งที่คุณได้แน่ๆ คือความสุขและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นจากการที่มี Growth Mindsets
Source
- https://www.wealthypersons.com/julien-blanc-net-worth/
- https://www.youtube.com/c/JulienHimself/about
- https://www.youtube.com/watch?v=yHYa_XE7Fe4
- https://gender.stanford.edu/news-publications/gender-news/understanding-mindset-success
- https://www.lifehack.org/489003/10-positive-affirmations-for-success-that-will-change-your-life
- https://www.wealthypersons.com/owen-cook-net-worth-2020-2021/
Author: