7 กลยุทธ์เทรดทอง ที่ใช้แค่แนวรับ-แนวต้าน บทความนี้ได้มาจาก YouTube ช่อง Tradeciety.com และในวีดิโอนี้เขาก็ได้มาพูดถึง 7 กลยุทธ์การเทรด Forex ยังไงให้ได้กำไรและความเสี่ยงขาดทุนน้อยที่สุด โดยหลักๆแล้วใช้เพียงแค่เส้นแนวรับ – แนวต้าน ประกอบกับการดูพฤติกรรมการเคลื่อไหวของราคา
7 กลยุทธ์เทรดทอง ที่ใช้แค่แนวรับ-แนวต้าน
1. กลยุทธ์ 3 Drives
รูปแบบ 3 Drives สามารถเป็นได้ทั้งขาขึ้นหรือขาลง 3 drives ประกอบด้วยชุดที่ต่อเนื่องกันของยอดสูงขึ้นและฐานสูงขึ้น
จากภาพเราจะเห็นได้ว่า แรงผลัก 3 ครั้ง (3 drives) เพื่อที่จะทะลุแนวต้าน
- เส้นแนวต้านที่มาจากระดับ HH เส้นก่อนหน้า
- เราจะเห็นแรงผลัก 3 ครั้ง ที่เกิดจากราคาพยายามก่อโครงสร้างเป็นแนวโน้มขาขึ้นจาก HH,HL,HH,HL,HH,..LL เพื่อที่จะทะลุแนวต้าน
จุดทำกำไร สามารถเปิดออเดอร์ได้ 2 จุด
- เปิดออเดอร์ SELL ตรงจุด Drive รอบที่ 3 (HH)
- เปิดออเดอร์ SELL ตรงจุด (LL)
เมื่อใดก็ตามที่คุณเห็นราคาวิ่งอยู่ในบริเวณแนวต้านก่อนหน้า ให้โฟกัสช่วงนี้เป็นพิเศษว่าจะมีการBreakout หรือไม่ คุณต้องรอดูสัญญาคอนเฟิร์มก่อนเข้าเทรดอย่างอดทนและใจเย็น
2. กลยุทธ์ใช้ 50 SMA/EMA กับแนวรับแนวต้าน
ใช้อินดิเคเตอร์ 50 SMA หรือ EMA ร่วมกับแนวรับแนวต้าน
- จากภาพเราจะเห็น เส้น Key level ที่จากแนวต้านกลายมาเป็นแนวรับ
- ราคาได้วิ่งผ่านเส้น 50 SMA ขึ้นมา แล้วทำการ retest ที่ key level
จุดทำกำไร
- เข้าเปิดออเดอร์BUY ตรงจุดที่ราคาลงมา Retestที่ Key levels
ตัวอย่าง
3. กลยุทธ์รูปแบบ Shooting star
Shooting star คือแท่งเทียนที่มีเป็นรูปแบบแท่งเทียนที่บ่งบอกถึงการกลับตัว มันจะสำคัญมากเมื่อเราพบแท่งเทียนนี้ในบริเวณจุดทดสอบหรือแนวต้านที่สำคัญ ให้เราโฟกัสตรงจุดนั้นเพราะว่าถือว่าเป็นสัญญาณการอ่อนแรงของแรงซื้อ
- เราจะเห็นได้ว่าราคาชนกับแนวต้านแล้วไม่สามารถขึ้นไปต่อได้
จุดทำกำไร
- เราเจอรูปแบบ Shooting star บวกกับแท่งเทียน Doji ที่แตะกับแนวต้านพอดี
- สัญญานเข้าคือแท่งเทียนถัดไปเป็นแท่งเทียนขาลงอย่างแข็งแกร่ง แสดงว่าเกิดการปฎิเสธของราคาไม่ให้ขึ้นต่อไป
- จุดเข้าเปิดออเดอร์ SELLจะมีอยู่ 2 จุดคือ 1) หลังจากเจอแท่งเทียนขาลง 2) จุดที่ราคาทำ LH
4. กลยุทธ์แท่งเทียน Doji
Doji เป็นรูปแบบของกราฟแท่งเทียนรูปแบบหนึ่งที่บ่งบอกถึงความลังเลในตลาด รูปแบบของ Doji ไม่ได้เป็นตัวบ่งบอกว่าจะเป็นตลาดขาขึ้นหรือขาลง แต่ขึ้นอยู่กับสภาวะของตลาดในช่วงนั้นๆ โดยแบ่งเป็น 2 รูปแบบ
- Bullish Doji
- Bearish Doji
จุดทำกำไร
- เราเจอแท่งเทียน Doji ที่แตะกับแนวต้านพอดี
- สัญญานเข้าคือแท่งเทียนถัดไปเป็นแท่งเทียนขาลงอย่างแข็งแกร่ง แสดงว่าเกิดการปฎิเสธของราคาไม่ให้ขึ้นต่อไป
- จุดเข้าเปิดออเดอร์ SELLจะมีอยู่ 2 จุดคือ 1) หลังจากเจอแท่งเทียนขาลง 2) จุดที่ราคาทำ LH
5. กลยุทธ์ Breakouts
กลยุทธ์ Breakout เป็นการเข้าซื้อ-ขายในช่วงที่ราคาวิ่งหลุดกรอบ ในกรณีจะมีทั้ง Breakouts จริงและ Breakouts หลอก วิธีสังเกตุBreakouts จริง คือเราจะแท่งเทียนยาว ๆ ปิดทางที่ราคา Breakouts และมีไส้เทียนเล็กน้อยหรือไม่มีเลยยิ่งดี
- จากภาพเราจะเห็นได้ว่า ราคาวิ่งมาแตะที่แนวรับอยู่หลายครั้ง
- และรูปแบบการเคลื่อนไหวของกราฟก่อนที่จะมีการ Breakouts เป็น LH ซึ่งแสดงให้เห็นถึงว่ากำลังซื้อได้อ่อนตัวลง
ตัวอย่าง จุดเข้าทำไร
- กราฟเคลื่อนไหวเป็นเทรนด์ขาขึ้น
- แท่งเทียนมีขนาดเล็กลงในช่วงก่อนที่ Breakout การที่ท่งเทียนเล็กนั้นแสดงให้เห็นว่าคนซื้อและคนขายกำลังดึงราคากันอยู่ ยิ่งใกล้แนวต้านมากเท่าไหร่ยิ่งมีแนวโน้มที่จะทะลุมากขึ้นนั้น
- ดูสัญญานคอนเฟิร์มเข้าเปิดออเดอร์ BUY เมื่อราคาทะลุนวต้านขึ้นไป
6. กลยุทธ์ Trap Pattern
Trap Pattern เป็นกับดักที่ส่งสัญญาณหลอกและทำให้เทรดเดอร์เข้าใจผิดว่าราคาจะมีการปรับตัวขึ้นหรือลงอย่างต่อเนื่อง แต่ในความเป็นคือมีการเคลื่อนที่สวนทิศทางที่คาดเอาไว้ ทำให้เทรดเดอร์โดนมาร์จิ้นคอลและขาดทุน
Trap Pattern หรือกับดักมีอยู่ 2 รูปแบบด้วยกัน
- Bear Trap
- Bull Trap
จากภาพตัวอย่างเป็น Bear Trap ที่ราคาย่อลงไปแตะระดับ Low หรือแนวรับสำคัญ (ซึ่งอาจเป็นสัญญาณว่าราคาจะกลับตัวลงต่อเนื่อง) แต่จู่ ๆ ราคากลับปรับตัวขึ้น
จุดเข้าทำกำไร Bear Trap
- โฟกัสตรงแนวรับ รอดูว่าราคาจะมีปฎิกริยายังไงต่อแนวรับ
- ดูแท่งเทียนเป็นสัญญาณคอนเฟิร์มในการเปิดออเดอร์ BUY
7. กลยุทธ์Break and Retest
คือการที่ราคา Breakout แนวรับ-แนวต้านและกลับมา Retest ที่แนวต้านเดิม ซึ่งเปลี่ยนเป็นแนวรับหรือจะเรียกว่า key level ก็ได้ และถ้าหากแนวต้านเดิมนั้นรับอยู่ ราคาก็จะมีแนวโน้มที่จะวิ่งไปในทิศทางเดิม
จุดเข้าทำกำไร
- จากภาพจะเห็นได้ว่าราคาวิ่งลง Retest ที่ Key level
- จุดนี้เราสามารถเปิดออเดอร์ BUY ได้
Source
Author: