ในอดีตทองคำเคยผูกติดกับมูลค่าของสกุลเงิน แต่ต่อมาในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เหล่าบรรดาประเทศมหาอำนาจ เช่น อังกฤษ และประเทศในแถบทวีปยุโรป ได้รับผลกระทบเกิดความเสียหายจากภาวะสงคราม แต่ว่าสหรัฐอเมริกาได้รับผลกระทบที่น้อยกว่า ส่งผลให้อเมริกาได้ก้าวขึ้นมาเป็นประเทศมหาอำนาจแทนที่อังกฤษทันที และได้กลายมาเป็นผู้จัดระเบียบการเงินของโลกคนใหม่ ซึ่งสาเหตุนี้เองที่ทำให้ระบบมาตรฐานทองคำได้ถูกยกเลิกจากการเป็นสื่อกลาง ในบทความนี้เราจะพาไปทำความรู้จักว่า Gold Standard คืออะไร และสาเหตุว่าทำไมทองคำจึงถูกยกเลิก
Gold Standard คืออะไร
มาตรฐานทองคำ (Gold Standard) คือระบบการเงินที่ผูกมูลค่าของสกุลเงินแต่ละประเทศเข้ากับปริมาณทองคำที่แน่นอน กล่าวคือ เงินกระดาษทุกใบจะมีทองคำค้ำประกันอยู่เบื้องหลัง ทำให้เงินกระดาษมีความน่าเชื่อถือสูง เพราะสามารถแลกเปลี่ยนเป็นทองคำได้เสมอ
ซึ่งระบบ Gold Standard นี้ จึงเป็นเหมือนตัวช่วยรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ โดยควบคุมอัตราเงินเฟ้อและป้องกันภาวะเงินฝืดได้ในระดับหนึ่ง อีกทั้งยังทำให้การค้าระหว่างประเทศมั่นคงขึ้น เนื่องจากอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างสกุลเงินต่าง ๆ มีความผันผวนน้อยลง
ทำไมมาตรฐานทองคำถูกยกเลิกเป็นสื่อกลาง
มาตรฐานทองคำ หรือ Gold Standard เคยเป็นระบบการเงินที่นิยมใช้ในอดีต โดยมูลค่าของเงินแต่ละสกุลจะถูกผูกติดกับปริมาณทองคำที่แน่นอน เปรียบเสมือนทองคำเป็นหลักประกันมูลค่าของเงินกระดาษทุกใบที่ออกใช้ อย่างไรก็ตาม ระบบนี้ก็ถูกยกเลิกไปในที่สุด โดยสาเหตุหลัก ๆ มีดังนี้
ข้อจำกัดในการขยายตัวของเศรษฐกิจ
- ปริมาณทองคำจำกัด : ทองคำเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่มีปริมาณจำกัด เมื่อเศรษฐกิจเติบโตและต้องการเงินทุนหมุนเวียนมากขึ้น การที่ต้องผูกติดกับทองคำจะทำให้การขยายตัวของปริมาณเงินทำได้ยาก
- ไม่สามารถรับมือกับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ : ในช่วงภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ รัฐบาลมักจะใช้นโยบายการเงินแบบขยายตัวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ภายใต้ระบบมาตรฐานทองคำ การทำเช่นนี้จะทำได้ยากเนื่องจากปริมาณเงินที่สามารถเพิ่มได้นั้นจะถูกจำกัดด้วยปริมาณทองคำที่มีอยู่
ความผันผวนของปริมาณทองคำ
- การค้นพบแหล่งทองคำใหม่ : การค้นพบแหล่งทองคำใหม่ ๆ ทำให้ปริมาณทองคำในตลาดโลกผันผวน ซึ่งส่งผลกระทบต่อมูลค่าของสกุลเงินที่ผูกติดกับทองคำ
- การสะสมทองคำของประเทศต่าง ๆ : ประเทศที่มีอำนาจทางเศรษฐกิจมักจะแข่งขันกันด้วยการสะสมทองคำ ทำให้การกระจายตัวเกิดความไม่เท่าเทียมกัน และส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของระบบ
ความต้องการเงินทุนที่เพิ่มขึ้น
- สงครามและการฟื้นฟู : สงครามโลกครั้งที่สองทำให้ประเทศต่าง ๆ ต้องใช้เงินทุนจำนวนมากในการทำสงครามและฟื้นฟูเศรษฐกิจ การยึดติดกับมาตรฐานทองคำทำให้การระดมทุนเพื่อการเหล่านั้นทำได้ยาก
- การลงทุนและพัฒนาเศรษฐกิจ : ความต้องการเงินทุนเพื่อการลงทุนและพัฒนาเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ระบบมาตรฐานทองคำไม่สามารถรองรับได้
การแข่งขันลดค่าเงิน
- การแข่งขันทางการค้า : ประเทศต่าง ๆ มักจะพยายามลดค่าเงินของตนเองเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางการค้า ซึ่งขัดแย้งกับหลักการของมาตรฐานทองคำที่ต้องการรักษาอัตราแลกเปลี่ยนให้คงที่
จุดเริ่มต้นของทองคำกับเงินดอลลาร์
ในอดีตระบบการเงินโลกใช้มาตรฐานทองคำ ซึ่งหมายความว่ามูลค่าของเงินสกุลต่าง ๆ ทั่วโลกจะถูกผูกติดกับปริมาณทองคำที่แน่นอน จึงทำให้ทองคำเปรียบเสมือนมาตรฐานสากลในการวัดมูลค่าของเงิน ตัวอย่างเช่น เงินดอลลาร์สหรัฐฯ เคยมีมูลค่าเท่ากับปริมาณทองคำจำนวนหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม หลังจากสงครามโลกครั้งที่สอง ระบบ Bretton Woods ได้ถือกำเนิดขึ้น โดยมี เงินดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นศูนย์กลางของระบบการเงินโลก และยังคงมีการผูกมูลค่ากับทองคำในระดับหนึ่ง ทำให้เงินดอลลาร์มีความแข็งแกร่งและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล
ราคาทองคำสะท้อนภาวะเศรษฐกิจได้อย่างไร
ราคาทองคำนั้นถูกมองว่าเป็น “บารอมิเตอร์” หรือเครื่องมือวัดที่สะท้อนให้เห็นถึงสภาวะเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี เนื่องจากราคาทองคำมักจะเคลื่อนไหวตอบสนองต่อปัจจัยทางเศรษฐกิจต่าง ๆ จึงถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย เมื่อเกิดความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ เช่น ภาวะเศรษฐกิจถดถอย ภาวะเงินเฟ้อสูง หรือความขัดแย้งทางการเมือง นักลงทุนก็มักจะหันมาซื้อทองคำเพื่อรักษามูลค่าของเงินทุน ทำให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น
อีกทั้งทองคำยังสามารถรักษามูลค่าได้ดีในช่วงที่เกิดภาวะเงินเฟ้อสูงอีกด้วย นอกจากภาวะเศรษฐกิจและเงินเฟ้อแล้ว ปัจจัยทางเศรษฐกิจอื่น ๆ เช่น อัตราดอกเบี้ย นโยบายการเงินของธนาคารกลาง และอัตราแลกเปลี่ยน ก็มีผลต่อราคาทองคำเช่นกัน
ทำไมทองคำถึงส่งผลต่อการลงทุน
ทองคำ นั้นถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยและนักลงทุนทั่วโลกต่างให้ความสนใจมาอย่างยาวนาน อีกทั้งยังมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจลงทุนในรูปแบบต่าง ๆ มากมาย เหตุผลที่ทองคำส่งผลต่อการลงทุนมีดังนี้
- สินทรัพย์หลบภัย : เมื่อเศรษฐกิจโลกมีความไม่แน่นอน เช่น ภาวะเศรษฐกิจถดถอย ภาวะเงินเฟ้อสูง หรือความขัดแย้งทางการเมือง นักลงทุนมักจะหันมาซื้อทองคำเพื่อรักษามูลค่าของเงินทุน เนื่องจากทองคำจะรักษามูลค่าได้ดีในช่วงเวลาที่ตลาดหุ้นและสินทรัพย์อื่น ๆ มีความผันผวนสูง
- ป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ : ทองคำเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่สามารถป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อได้ดี เมื่อเงินเฟ้อสูงขึ้น มูลค่าของเงินก็จะลดลง แต่ราคาทองคำมักจะปรับตัวสูงขึ้น ทำให้นักลงทุนมองว่าทองคำเป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- สภาพคล่องสูง : ทองคำมีสภาพคล่องสูง เพราะสามารถซื้อขายแลกเปลี่ยนได้ง่ายทั่วโลก ทำให้นักลงทุนสามารถซื้อขายได้อย่างสะดวก
- ปัจจัยทางจิตวิทยา : ความเชื่อและความคาดหวังของนักลงทุนที่มีต่อทองคำก็มีผลต่อราคาทองคำด้วยเช่นกัน เพราะเมื่อนักลงทุนมีความเชื่อมั่นว่าราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้น ก็จะยิ่งผลักดันให้ราคาทองคำเพิ่มสูงขึ้นมากไปกว่าเดิม
สรุป
แม้ว่าระบบมาตรฐานทองคำ (Gold Standard) ที่เคยผูกมูลค่าของสกุลเงินต่าง ๆ เข้ากับทองคำจะถูกยกเลิกไปแล้ว แต่ทองคำก็ยังคงเป็นสินทรัพย์ที่มีความสำคัญและเป็นที่ต้องการของนักลงทุนทั่วโลก เหตุผลก็คือ ทองคำถูกมองว่าเป็น สินทรัพย์ปลอดภัย ที่สามารถรักษามูลค่าได้ดีในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจผันผวนหรือมีความไม่แน่นอน ดังนั้นการศึกษาประวัติศาสตร์ของระบบการเงิน จะช่วยทำให้นักลงทุนสามารถตัดสินใจลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ละทางเรามีคอร์สสอนเทรดทองคำที่จะมีเทคนิคเทรดทองคำมากมายให้คุณได้ศึกษากัน
Author: