วางแผนเทรดด้วยวิธีการบริหารเงิน Money Management

ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในสิ่งใดก็ตามต้องทำการศึกษาหาความรู้ให้ดีเสียก่อน อีกทั้งการบริหารเงิน Money Management ก็ถือเป็นเรื่องสำคัญเป็นอย่างมากสำหรับนักลงทุนทุกคน เพื่อการบริหารจัดการความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นและช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไร การลงทุนในตลาด Forex ก็เช่นกันที่มีข้อดีและข้อเสีย ซึ่งข้อดีที่ทำให้หลายคนเลือกลงทุนก็คือ สามารถเริ่มต้นด้วยทุนน้อยแต่ทำกำไรได้สูง, สร้างเป็นรายได้ Part-time ด้วยระบบ EA หรือจะเลือก Copy Trade ก็ได้ และยิ่งมีสมาร์ทโฟนติดตัวคุณไปทุกที่จะเทรดที่ไหนก็ได้เช่นกัน

รู้จักตลาด Forex 

ทำความรู้จัก Forex เบื้องต้น Forex Market มีชื่อเต็มว่า Foreign Exchange Market คือ ตลาดซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ ทุกอย่างที่มีการแลกเปลี่ยนสกุลเงินระหว่างประเทศคือ ตลาด Forex

คำถาม ถ้าเป็นบิทคอยน์ (Bitcoin) ถือว่าเป็นตลาด Forex หรือไม่?

คำตอบคือ ไม่ เพราะ บิทคอยน์ (Bitcoin) ไม่ใช่สกุลเงินระหว่างประเทศ แต่เป็น Cryptocurrency (สกุลเงินเข้ารหัส) หรือสกุลเงินดิจิทัลนั่นเอง ไม่ใช่สกุลเงินที่ออกโดยรัฐบาลของประเทศใดประเทศหนึ่ง

คำถาม หุ้น ถือว่าเป็น Forex หรือไม่?

คำตอบคือ ไม่ เพราะหุ้น คือ หุ้นส่วนของบริษัท หรือความเป็นเจ้าของของบริษัทหรือธุรกิจนั้นๆ ไม่เกี่ยวกับข้องกับ Forex ทางตรง และตลาด หุ้น ไม่ใช่ ตลาด Forex

2 คำถามนี้ ที่ผมต้องอธิบายก่อนเข้าสู่เนื้อหา เนื่องจากว่ามีหลายคนเข้าใจผิดว่า Forex คือ Bitcoin หลายคนเข้าใจผิดว่า หุ้น คือ Forex ผมอยากพาผู้อ่าน ทำความเข้าใจในส่วนนี้ก่อนจะเข้าสู่เนื้อหาหลักของเรา

หากสรุปแบบง่ายๆ Forex คือ ตลาดที่มีการแลกเปลี่ยนสกุลเงินระหว่างประเทศ โดยสกุลเงินนั้นจะต้องออกโดยรัฐบาล เช่น USD ดอลลาร์สหรัฐ, THB เงินบาทไทย เป็นต้น

ถ้าจะบอกว่า เราเกือบทุกคนบนโลกใบนี้ล้วนมีความเกี่ยวข้องกับตลาด Forex โดยไม่รู้ตัว ก็คงไม่ผิด เพราะหลายๆ การกระทำของเรามีผลต่อ ตลาด Forex ตัวอย่างเช่น

• แลกเงินไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่น ถือว่าเป็น ตลาด Forex เนื่องจากมีการแลกเปลี่ยน ระหว่างสกุลเงินบาท (THB) และ สกุลเงินเยน (JPY)
• ทำการซื้อโทรศัพท์ iPhone ก็ถือว่าเป็น Forex เนื่องจากเงินที่เราจ่ายไป จะถูกส่งกลับไปยังตัวบริษัทแม่ที่สหรัฐอเมริกา สกุลเงินบาท (THB) เปลี่ยนเป็น สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) แม้จะไม่เกี่ยวกับตลาด Forex ตรงๆ ก็ยังถือว่าเรามีส่วนร่วมในตลาด Forex ทำให้มีการแลกเปลี่ยนสกุลเงินระหว่างประเทศเกิดขึ้น

Money Management หัวใจสำคัญของทุกการลงทุน

Money Management หัวใจสำคัญของทุกการลงทุน เป็นรากฐานพฤติกรรมการใช้เงินของทุกคนซึ่งต่างจากการบันทึกรายรับรายจ่าย “บันทึกรายรับรายจ่าย” เป็นเพียงเครื่องมือที่บอกว่าเราใช้จ่ายเงินไปกับอะไรบ้างในอดีต รายรับรายจ่ายสามารถนำมาทบทวนตัวเองได้ควรจะลดรายจ่ายตรงจุดไหน ค่าใช้จ่ายอะไรที่ในอนาคตสามารถปรับลดลงได้  ประกอบเข้ากับ”แผนการเงิน”ที่ใช้เพื่อวางแผนการใช้จ่ายเงินในอนาคตว่ามีรายจ่ายใดบ้าง ได้แก่

บทที่ 8 | Money Management Forex คืออะไร คลิก

• ค่าใช้จ่ายประจำและคงที่ เช่น ค่าน้ำค่าไฟค่าเช่า, งวดผ่อนส่ง, ค่าเดินทาง
• ค่าใช้จ่ายที่ปรับลดหรือตัดออกได้ อย่างค่ากินดื่ม ข้าวของเครื่องใช้
• เงินออมฉุกเฉิน ที่เอาไว้ใช้เมื่อเจอกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันจริงๆ เช่น Covid-19 แล้วตกงาน ต้องเตรียมไว้ซัก 6-10 เท่าของค่าใช้จ่ายรายเดือน หรือปรับลดตามที่สะดวก
• เงินออมเพื่อจุดประสงค์ต่างๆ ส่วนนี้ต่างจากเงินออมฉุกเฉิน เอาไว้ใช้จ่ายค่าเทอมลูก หรือเอาไว้ออกรถ ซื้อบ้าน หรือเอาไว้ลงทุน ส่วนนี้เราจัดสรรค์ออมอยู่ที่ 5-10 % ของเงินรายรับต่อเดือนก่อนก็ได้ เอาตามที่เราสะดวก
• เงินลงทุน อาจต่อยอดมาจากเงินออมและเราแนะนำให้เป็นเงินเย็น(เงินที่ไม่มีความจำเป็นต้องใช้งานเร็วๆนี้) เมื่อได้เงินลงทุนมา เราก็สามารถเข้าสู่ขั้นตอน MM ได้

ขั้นตอน MM ซับซ้อนแตกต่างกันไปตามเป้าหมายการลงทุนของคุณ เราจึงแนะนำให้ทุกคนทำความเข้าใจกับสิ่งที่กำลังจะลงทุน อย่าตั้งคำถามโลกแตกแบบ “มีเงิน 100,000 บาท ลงทุนอะไรดี?” เพราะนักลงทุนที่ดีจะไม่ถามแบบนั้น พวกเขาจะศึกษา ดูทิศทางของตลาด ดูผลกำไรขาดทุน ดูแนวโน้มเศรษฐกิจ ดูทุกอย่างที่มีผลต่อการได้กำไรและขาดทุนจากสิ่งนั้น

ให้เวลากับตัวเองได้ศึกษาเรียนรู้หน่อย คุณจะได้เป็นนักลงทุนที่ดีมีคุณภาพ สุดท้ายแล้วถ้าคุณคิดจะลงทุนในตลาด Forex หละก็ เรา Uhas.com ยินดีเป็นเพื่อนแท้เคียงข้างนักเทรดเสมอ เราขอแบ่งปันมุมมองที่มีต่อ MM มาให้เพื่อนๆ ได้ทราบกัน

รู้ระดับความเสี่ยงที่ตัวเรารับไหว

ในแต่ละตลาดการเงินมีระดับความเสี่ยงที่ต่างกัน แม้กระทั่งใน Forex แต่ละคู่เงินก็เสี่ยงไม่เท่ากัน วิธีการใช้เครื่องมือต่างๆ ก็เกิดความเสี่ยงไม่เท่ากัน ทุกๆอย่างมีผลกับโอกาสในการทำกำไรของคุณ

มีแผนการในการเทรดชัดเจน

เส้นทางที่ชัดเจนจะช่วยให้เราไม่หลงทางไม่เจออุปสรรคระหว่างทาง หรือไม่เสียเวลาไปกันสิ่งที่ไม่ทำกำไรให้กับเรา

จิตวิทยาในการเทรดดีเยี่ยม

มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่บ่อยครั้งใช้อารมณ์การตัดสินใจก่อนเหตุผลเสียอีก หลายครั้งเทรดเดอร์ที่นั่งเฝ้าพอร์ตด้วยตัวเองเทรดด้วยตัวเอง เมื่อเจอกราฟราคาดิ่งลงอย่างรุนแรงเกิดขาดทุนอย่างหนัก บางคนก็ถึงกับหัวเสียเทรดซ้ำและเพิ่ม Leverage เข้าไปอีกเพื่อหวังว่าจะได้เงินในส่วนที่เสียไปคืนมา

จนสุดท้ายอาจะชนำไปสู่การ Over-Trade และพอร์ตแตกในที่สุด แต่เหตุการณ์แบบนี้จะไม่เกิดขึ้นถ้าเรามี MM ที่ดี จำกัดขนาดในการเทรด, กำหนดจุด Stop loss หรือจุด Take Profit, และทบทวนทุกครั้งที่เทรดว่าทำได้ดีแค่ไหน ตรงไหนควรแก้

MM เป็นกฎที่เราตั้งเองและต้องปฏิบัติตาม

ถ้าคุณควบคุมตัวเองไม่ได้ ตั้งกฎขึ้นมาเองแล้วแหกกฎที่สร้างขึ้นมาเองก็ไม่เกิดประโยชน์ใดๆ นั้นแสดงว่าคุณยังใช้ MM ไม่เป็น ยังปล่อยให้อารณ์และความรู้สึกชักนำการลงทุน นักลงทุนที่ดีจะมีเป้าหมายเดียวคือทำกำไรให้ได้มากที่สุดโดยใช้หลักตรรกะและเหตุผล

และอย่าปล่อยให้การจัดการเงินของคุณเป็นอย่างในรูปนี้