เทรด Forex เป็นอาชีพ ทำได้จริงหรือไม่?

เทรด Forex เป็นอาชีพได้จริงไหม?​ เป็นคำถามที่เทรดเดอร์มือใหม่หลายคนสงสัย และไม่รู้ว่าควรเทรด Forex เป็นอาชีพ หรือเทรด Forex เป็นงานเสริมดี เนื่องจากตลาด Forex เปิดทำการตลอด 24 ชั่วโมง สามารถทำได้ในทุกช่วงเวลา ไม่ว่าจะเป็น ตอนเช้าหลังตื่นนอน เทรดช่วงเที่ยงระหว่างทานอาหารกลางวัน หรือเทรดช่วงเย็นหลังจากเลิกงาน

สำหรับใครที่ไม่รู้ว่า ควรเทรด Forex เป็นอาชีพ หรือเทรด Forex เป็นงานเสริมดี? Uhas จะพาคุณไปดูเองว่า คนที่อยากเทรด Forex เป็นอาชีพ จะต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้าง และถ้าอยากทำเป็นอาชีพจริง ๆ จะมีขั้นตอนอย่างไร สามารถอ่านได้ที่บทความนี้เลย!

เทรด Forex เป็นอาชีพได้จริงไหม?

การเทรด Forex เป็นอาชีพ สามารถทำได้จริง ถ้าเรามีกำไรในการเทรดมากพอ เช่น ถ้าปกติเรามีงานประจำทำ มีเงินเดือนจากงานประจำเดือนละ 20,000 บาท ถ้าเราเทรดได้มากกว่า 20,000 บาท เราก็สามารถเทรด Forex เป็นงานหลักได้ เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ถ้ายังเทรดไม่ได้กำไรเท่าเงินเดือนจากงานประจำ ผมคิดว่าการเทรดไปด้วย ทำงานประจำไปด้วย น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ณ ตอนนั้น แค่ถ้าวันใดวันหนึ่ง เราเทรดได้อย่างมืออาชีพแล้ว ก็สามารถออกมาเป็น Full-Time Trader ได้

คุณสมบัติของการเทรด Forex เป็นอาชีพ

สำหรับใครที่ต้องการเทรด Forex เป็นอาชีพจริง ๆ มาดูกันดีกว่าว่า จะต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้างถึงจะสามารถเป็นเทรดเดอร์ระดับมืออาชีพได้

1. ต้องมีเงินเทรดจำนวนมากพอ

ขั้นตอนแรกเลยต้องมีเงินเทรดจำนวนมากพอ เราจะต้องมีเงินเทรดจำนวนมาก และเงินก้อนนี้ต้องเป็นเงินเย็นด้วย โดยเราจะต้องมีเงินจำนวนนับล้านบาทในการเทรดเลยทีเดียว ถ้าต้องการเป็นเทรดเดอร์ Forex มืออาชีพ

ปกติแล้วเทรดเดอร์โดยทั่วไปจะนำแค่ 10-20% ของเงินเก็บมาเทรดเท่านั้น 

สมมุติถ้าเราต้องการเทรดด้วยเงินลงทุนจำนวน 1 ล้านบาท เท่ากับว่าเราจะต้องมีเงินเก็บอย่างต่ำ 5-10 ล้านบาท ถ้าหากว่าเรายังไม่มีเงินเทรดจำนวนมากพอ การทำงานควบคู่กับการเทรดอาจจะเหมาะสมกว่า

เทรดเดอร์หลายคนอาจจะสงสัยว่า ทำไมต้องนำเงินมากมายขนาดนั้นมาเทรด Forex เพราะหากต้องการเทรด Forex เป็นอาชีพ คุณต้องทำกำไรเดือนละ 1-10% อาจจะดูน้อยสำหรับ Forex แต่ถือว่าเยอะมาก ๆ สำหรับโลกของการลงทุนทั่วไป

หากเรามีเงินลงทุน 1 ล้าน เทรดได้กำไรเดือนละ 1-10% หมายความว่า เราจะได้รับเงินเดือนจาก Forex เดือนละ 10,000-100,000 บาท แต่ถ้าเรามีเงินลงทุนแค่ 100,000 บาท กำไร 1-10% เราจะได้เงินเดือนแค่ 1,000-10,000 บาท ซึ่งนั้นอาจจะไม่เพียงพอในการดำเนินชีวิตในปัจจุบัน

2. ต้องไม่มีหนี้สินเลย

เทรดเดอร์หลายคนเข้ามาในตลาด Forex ด้วยความคาดหวังว่า ต้องการทำกำไรเพื่อนำเงินไปใช้หนี้ ซึ่งเป็นวิธีคิดที่ผิดมาก เพราะคุณจะมีความกดดันบางอย่างที่ไม่เหมือนกับผู้ที่ไร้หนี้ โดยผลสุดท้ายแล้วก็อาจจะทำให้การตัดสินใจของคุณไม่สมบูรณ์จนเกิดความผิดพลาด และทำให้ขาดทุนมีหนี้สินมากกว่าเดิม

3. ต้องลดความเสี่ยงให้มากที่สุด

การเทรด Forex เป็นอาชีพเราต้องลดความเสี่ยงให้มากที่สุด คำถามที่เราควรตั้งกับตัวเองคือ เราจะเทรดอย่างไรให้ขาดทุนน้อยที่สุด? ไม่ใช่การตั้งคำถามว่าเราเทรดอย่างไรให้ได้กำไรมากที่สุด

เพราะการตั้งคำถามมีความสำคัญต่อการดำเนินการมาก หากเราตั้งคำถามเพื่อแสวงหากำไรให้มากที่สุด มีโอกาสสูงมากที่เราจะขาดความรอบคอบ และอาจจะทำให้เราเทรดอย่างประมาทได้ ซึ่งอาจจะเสี่ยงเกินไปสำหรับการเทรด Forex เป็นอาชีพหลัก

4. ต้องตั้งเป้าหมายให้เงินเดือนตัวเอง

การที่เราจะออกมาเทรด Forex เป็นอาชีพเราจะต้องตั้งเป้าหมายให้เงินเดือนตัวเอง เช่น หากตอนนี้เราทำงานประจำได้เดือนละ 20,000 บาท เราจะต้องการกำไรจากเทรด Forex อย่างน้อยเดือนละ 20,000 บาท เช่นเดียวกัน เพราะอย่าลืมว่าเรามีค่าใช้จ่ายเสมอ เป็นต้น

หากเราไม่สามารถให้เงินเดือนจากการเทรด Forex ได้ เราไปทำงานประจำจะไม่คุ้มค่าเสียเวลากว่าหรือไม่?

สรุปการเทรด Forex เป็นอาชีพ สามารถทำได้จริง? หากเราเทรดได้กำไรเสมือนรายได้จากการทำงานประจำ และต้องอยู่ในความเสี่ยงที่ต่ำ เพราะถ้าหากเราเทรด Forex เป็นอาชีพ แต่ต้องล้างพอร์ต หรือ พอร์ต Forex แตก หากมีประสบการณ์แบบนี้เกิดขึ้นความรู้สึกคงจะแย่กว่ายิ่งกว่าตกงาน

อยากเทรดเดอร์ Forex มืออาชีพ ต้องอย่างไร

หากคุณมีสมบัติครบ และพร้อมที่จะเรียนรู้การเป็นนักเทรดเดอร์ Forex มืออาชีพจริง ๆ ขั้นตอนต่อไปก็คือการศึกษาหาความรู้ที่จำเป็นสำหรับการเทรด Forex เพื่อช่วยให้การเทรด Forex มีความปลอดภัยมากขึ้น เสี่ยงขาดทุนน้อย และไม่เกิดการล้างพอร์ต โดยสิ่งที่ควรศึกษาเบื้องต้นมีดังนี้

1. เรียนรู้ Money Management

การบริหารเงินลงทุน Money Management Forex สำคัญกว่ากลยุทธ์การทำกำไรจากตลาด Forex เสียอีก 

เพราะการบริหารเงินลงทุน คือ สิ่งที่ทำให้พอร์ตลงทุนของเรา สามารถอยู่รอดได้ในระยะยาว ส่วนกลยุทธ์ในการทำกำไร คือ สิ่งที่ทำให้พอร์ตลงทุนของเรานั้นเติบโตขึ้น แต่การเติบโตจะไม่มีความหมายเลย ถ้าหากมันจะพังลงในวันเดียว

ดังนั้น Money Management คือตัวที่มาบริหารควบคุมความเสี่ยงตรงนี้ เพื่อให้พอร์ตลงทุนมีความปลอดภัยที่สุดและมีความมั่นคงอย่างยั่งยืน

2. ฝึกวิเคราะห์โดยใช้อินดิเคเตอร์

การใช้อินดิเคเตอร์ (Indicator) เป็นสิ่งที่อยู่ควบคู่กับการวิเคราะห์กราฟราคาด้วยปัจจัยทางเทคนิค และเทรดเดอร์ในตลาด Forex ส่วนใหญ่ล้วนเป็นเทรดเดอร์ที่วิเคราะห์กราฟราคาด้วยปัจจัยทางเทคนิค การศึกษาการวิเคราะห์กราฟราคาโดยการใช้อินดิเคเตอร์ จึงสิ่งที่เราไม่ควรละเลยเป็นอย่างยิ่ง

ตัวอย่าง 5 อินดิเคเตอร์ยอดนิยมในตลาด Forex

• การใช้ Fibonacci Retracement
• การใช้ MACD
• การใช้ RSI
• การใช้ Stochastic Oscillator
• การใช้ Bollinger Bands

3. ฝึกวิเคราะห์ราคาปัจจัยพื้นฐาน

การวิเคราะห์กราฟราคาที่ดีนั้น นอกจากเราจะวิเคราะห์ด้วยปัจจัยทางเทคนิค และฝึกการวิเคราะห์จากอินดิเคเตอร์แล้ว เราควรฝึกวิเคราะห์ด้วยราคาปัจจัยพื้นฐานด้วย ไม่ว่าการวิเคราะห์จากข่าว วิเคราะห์จากตัวเลขเศรษฐกิจ

เพราะการที่ราคาจะขึ้นหรือลงนั้น ล้วนมาจากปัจจัยพื้นฐานทั้งสิ้น หากเราอยากรู้ว่าภาพรวมของกราฟราคาจะเคลื่อนที่ไปในทิศทางใดบ้าง ปัจจัยพื้นฐานคือคำตอบ

ปัจจัยที่มีผลต่อราคา Forex

• ความต้องการซื้อ ความต้องการขาย (Demand & Supply)
• สภาวะเศรษฐกิจในแต่ละประเทศ
• การลงทุนในประเทศและต่างประเทศ
• ภัยพิบัติทางธรรมชาติ การก่อการร้าย
• การเมือง นโยบายรัฐบาล
• การปรับของอัตราดอกเบี้ย
• อัตราการจ้างงาน
• ข่าว

4. มองพอร์ต Forex ให้เป็น

การมองพอร์ตให้เป็น ถือเป็นเรื่องสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะการที่เราจะมาเทรด Forex ให้เป็นอาชีพได้นั้น เราจะต้องเข้าใจและรู้ว่าสถานการณ์พอร์ตของเราเป็นอย่างไรบ้าง ณ ตอนนี้

ตัวอย่าง หากพอร์ตของเราขาดทุน 10 ครั้งติดต่อกัน พอร์ต Forex ของเรายังคงปลอดภัยดีไหม ซึ่งจริง ๆ แล้ว สิ่งเหล่านี้จะอยู่ในการบริหารเงินลงทุน Money Management

5. ศึกษาคำศัพท์ Forex

อีกสิ่งที่สำคัญสำหรับการเทรด Forex เป็นอาชีพ คือ การศึกษาคำศัพท์เอาไว้เยอะๆ ซึ่งหลายคนอาจจะสงสัยว่า การศึกษาคำศัพท์เอาไว้มีประโยชน์อย่างไรในการเทรด Forex 

การศึกษาคำศัพท์ Forex นั้นถือเป็นพื้นฐานที่สำคัญมาก เพราะคำศัพท์ในตลาด Forex จะทำให้เราสามารถสื่อสารกับคนอื่น ๆ ในตลาด Forex ได้ง่ายมากขึ้น และคำศัพท์เฉพาะทางในตลาด Forex จะทำให้เราศึกษา Forex ได้ไวและเข้าใจมากยิ่งขึ้น ไม่ต้องไม่มัวหาว่า คำนี้มีความหมายว่าอย่างไร

ตัวอย่าง การที่เราเทรด Forex การเลือก Leverage สำคัญมาก หากเราไม่รู้ว่า Leverage คืออะไร เราก็ไม่สามารถรู้ได้ว่าประโยคนี้มีความหมายว่าอย่างไร เป็นต้น

6. เทรด Forex ต้องใจเย็น

ข้อที่สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด ของเส้นทางสู่การเทรด Forex เป็นอาชีพ คือ เทรด Forex อย่างใจเย็น ทำกำไรอย่างค่อยเป็นค่อยไป ห้ามมองหาวิธีลัดจากการ Overtrade เด็ดขาด เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่เรา Overtrade มีโอกาสสูงมากที่เราจะล้างพอร์ตในเร็วๆ นี้

และอย่าหลงเชื่อคำโฆษณารับจ้างเทรด ฝากเทรด โดยการันตีกำไร เพราะมีโอกาสสูงมากที่เราจะโดนหลอก จากกลุ่มมิจฉาชีพและกลุ่มแชร์ลูกโซ่

สรุปเส้นทางการเทรด Forex แบบมืออาชีพ

จะเห็นได้ว่า การเทรด Forex เป็นอาชีพ ไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่คิด นอกจากจะต้องมีคุณสมบัติที่ครบครันแล้ว ยังจะต้องศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับตลาด Forex และปัจจัยพื้นฐานที่ส่งผลต่อตลาด Forex อย่างรอบด้าน ร่วมกับการฝึกฝน เรียนรู้ และวางแผนที่แม่นยำ ดังนั้นคนที่คิดจะเป็นนักเทรดเดอร์ Forex มืออาชีพ จึงไม่ควรใช้ทางลัดเด็ดขาด จะต้องค่อย ๆ ศึกษาและลงทุนอย่างระมัดระวัง ไม่อย่างนั้นอาจทำให้โดนล้างพอร์ตและขาดทุนเป็นจำนวนมากได้โดยไม่ทันตั้งตัว!