เทรดเดอร์ (Trader) คืออะไร? หลายคนอาจจะนิยามความหมายของคำว่า Trader แตกต่างกันออกไป ในภาษาทางการเงินนั้น Trader หมายถึงบุคคลที่ซื้อสินทรัพย์ทางการเงิน เช่น ตราสารหนี้ หุ้น สินค้าโภคภัณฑ์ เป็นต้น
สินค้าโภคภัณฑ์ เป็นกลุ่มสินทรัพย์ที่ใช้เพื่อการลงทุนซึ่งสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆได้
โดยสินค้าโภคภัณฑ์ สามารถแบ่งออกได้ 3 ประเภท ได้แก่
1. สินค้าทางการเกษตร เช่น ข้าวสาร กาแก ถั่วเหลือง เป็นต้น
2. สินค้าประเภทโลหะ เช่น เงิน ทองคำ ทองแดง อลูมิเนียม เป็นต้น
3. สินค้าประเภทพลังงาน เช่น น้ำมัน ถ่านหิน ก๊าซธรรมชาติ เป็นต้น
Trader กับตลาด Forex
ผู้ซื้อขายในตลาด Forex เราจะเรียกว่า Trader หรือ Forex Trader โดยจะ Trader จะมีหน้าที่ซื้อขายสกุลเงินในตลาด Forex เพื่อทำการเก็งกำไร ด้วยการวิเคราะห์จากกราฟราคา
ประเภทของเทรดเดอร์ (Trader)
เทรดเดอร์ (Trader) ในตลาด Forex สามารถแบ่งออกได้ 3 ประเภท ได้แก่
1. เทรดเดอร์ (Trader) ที่ใช้การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน
เทรดเดอร์ที่ใช้การวิเคราะห์ปัจจัยฐานจะนำข้อมูลหลายๆอย่างมาเพื่ออ้างอิงความเป็นไปได้ ต้องอาศัยข้อมูลภาวะทางเศรษฐกิจ CEOของบริษัท การเมืองและอุตสาหกรรม นอกจากนี้ยังศึกษาผลประกอบการ เช่น อัตราการเติบโตในอดีตเพื่อคาดคะเนแนวโน้มในอนาคต แล้วนำมาใช้ในการวิเคราะห์ประเมินราคากับหลักทรัพย์นั้นๆ ว่าควรจะมีราคาเท่าไหร่ เป็นต้น
การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานนี้มีรากฐานมาจากแนวความคิดที่ว่า “มูลค่าที่แท้จริง (Intrinsic value)” โดยการวิเคราะห์ทางพื้นฐานมีขั้นตอนวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน อยู่หลักๆ 3 ขั้นตอน
- วิเคราะห์เศรษฐกิจ (Economic Analysis) วิเคราะห์เศรษฐกิจโดยเป็นการวิเคราะห์แนวโน้มเศรษฐกิจในอนาคต ทั้งเศรษฐกิจในประเทศและเศรษฐกิจโลก
- วิเคราะห์อุตสาหกรรม (Industry Analysis) วิเคราะห์อุตสาหกรรมเป็นการวิเคราะห์วงจรอุตสาหกรรม โดยวิเคราะห์จากสภาพการแข่งขันในอุตสาหกรรม ตลอดจนอนาคตของอุตสาหกรรมว่าจะมีการเติบโตอย่างไร
- วิเคราะห์บริษัท (Company Analysis) วิเคราะห์บริษัทเป็นตัวสุดท้ายในการวิเคราะห์ โดยจะเน้นวิเคราะห์ประเภทของบริษัทและประเภทของหลักทรัพย์ โดยจะวิเคราะห์ในเชิงคุณภาพ(Qualitative Analysis)และเชิงปริมาณ(Quantitative Analysis)
เทรดเดอร์ในตลาด Forex ส่วนใหญ่ไม่นิยมวิเคราะห์ด้วยปัจจัยพื้นฐาน เนื่องจากว่าการวิเคราะห์ด้วยปัจจัยพื้นฐานค่อนข้างต้องใช้เวลา ส่วนใหญ่เทรดเดอร์ในตลาด Forex เป็นนักเก็งกำไรที่ต้องการความรวดเร็ว แต่การวิเคราะห์ทางเทคนิคจึงตอบโจทย์กว่าครับ แต่เทรดเดอร์หลายคนก็เอาการวิเคราะห์เศรษฐกิจมาร่วมด้วย ด้วยการดูข่าวจาก www.forexfacetory.comแล้วนำตัวเลขนั้นมาช่วยในการวิเคราะห์ทิศทางของราคา
2. เทรดเดอร์ (Trader) ที่ใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิค
เทรดเดอร์ในตลาด Forex มักนิยมใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคมากกว่าการวิเคราะห์ในรูปแบบบอื่นๆ โดยแนวคิดของการวิเคราะห์ทางเทคนิคมีอยู่ด้วยกัน 3 แนวคิดได้แก่
- ราคาจะเคลื่อนที่ตามแนวโน้มเดิมไปเรื่อยๆ จนกระทั้งหมดแนวโน้มราคาถึงจะเปลี่ยนแนวโ้น้ม
- ข้อมูลทุกอย่างจะสะท้อนมาในรูปแบบกราฟราคา
- พฤติกรรมของราคาหุ้นจะเคลื่อนที่ตามแนวโน้มเดิมซ้ำๆ
ดังนั้นการวิเคราะห์ทางเทคนิคนั้นเปรียบเสมือนการวิเคราะห์จิตวิทยาตลาด วิเคราะห์ด้วยการคำนวณค่าสถิติ ความน่าจะเป็น ของคณิตศาสตร์เข้าร่วม
การวิเคราะห์เทคนิคค่อนข้างเป็นที่นิยมเป็นอย่างมากสำหรับเทรดเดอร์ในตลาดฟอเร็กซ์ ไม่ว่าจะวิเคราะห์แบบเน้นใช้ Indicators หรือการวิเคราะห์ด้วยการดูกราฟแท่งเทียน หรือ Price Action สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นการวิเคราะห์ทางเทคนิค
สาเหตุที่การวิเคราะห์ทางเทคนิคนั้นเป็นที่นิยม
- มีความแม่นยำในระดับหนึ่ง เนื่องจากว่าการวิเคราะห์ทางเทคนิคเปรียบเสมือนเปรียบเสมือนการวิเคราะห์จิตวิทยาตลาด วิเคราะห์ด้วยการคำนวณค่าสถิติ ความน่าจะเป็น ของคณิตศาสตร์เข้าร่วม
- มีความรวดเร็วในการหาข้อมูล เนื่องจากการวิเคราะห์ทางเทคนิคใช้ข้อมูลไม่มาก ส่วนใหญ่จะเป็นหลักคณิตศาสตร์
- ใช้หลักคณิตศาสตร์ในการวิเคราะห์ ทำให้มีความน่าเชื่อถือเพิ่มมากยิ่งขึ้น
3. เทรดเดอร์ (Trader) ที่ไม่มีการวิเคราะห์(มั่ว)
เทรดเดอร์ในตลาด Forex ส่วนใหญ่เป็นนักเก็งกำไร แต่เทรดเดอร์ที่ไม่มีการวิเคราะห์ วางแผน คนกลุ่มนี้มักถูกเรียกว่า “นักพนัน” คือการซื้อโดยไม่มีหลักการ ไม่มีเหตุผล ซื้อขายเพราะคิดว่าราคาน่าจะขึ้นหรือลง แต่เทรดเดอร์บางรายอาจจะเป็นเทรดเดอร์สายวิเคราะห์ทางเทคนิคแต่เกิดความโลภ จนซื้อขายโดยไม่มีการวางแผน
ลักษณะเช่นนี้เรียกว่า “ผีพนันเข้าสิง” แม้จะซื้อขายด้วยการวางแผนมาตลาด แต่ถ้าหากไม่วางแผนเพียงแค่ครั้งเดียวก็อาจจะทำให้เงินลงทุนของคุณเป็น 0 ได้เลย
Author: