แนวโน้ม คืออะไร? วิเคราะห์ราคา Forex

แนวโน้ม คืออะไร สำคัญอย่างไรในการ วิเคราะห์ราคา Forex ซึ่งเทรดเดอร์มือใหม่หลายคนอาจจะเข้าใจว่า ตลาด Forex มีแค่ขึ้นกับลง แต่ที่จริงแล้วตลาดมีขึ้นกับลง ไม่พอ มีการเคลื่อนที่ไปด้านข้างด้วย เท่ากับว่าแนวโน้มของราคาจะประกอบด้วยกันอยู่ 3 แนวโน้มด้วยกัน

แนวโน้ม คืออะไร

แนวโน้ม (Trend) คือ ทิศทางการเคลื่อนที่ของกราฟราคา ประกอบด้วย 3 แนวโน้ม ได้แก่

1. แนวโน้มขาขึ้น (Uptrend)
2. แนวโน้มขาลง (Downtrend)
3. แนวโน้มด้านข้าง (Sideway)

แนวโน้มขาขึ้น (Uptrend)

แนวโน้มขาขึ้น หรือ Uptrend คือ ทิศทางของกราฟราคาปรับตัวสูงขึ้น สามารถมองเห็นได้จากตาเปล่า โดยไม่ต้องอ้างอิงทฤษฎี หรือไม่ต้องตีเส้นกรอบใดๆทั้งสิ้น เนื่องจากแนวโน้มขาขึ้นเราจะมองเห็นได้เลยว่าราคากำลังมีการปรับตัวขึ้น

ลักษณะของแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend)

• มีฐานใหม่ สูงกว่าฐานเก่า
• มีจุดยอดใหม่หรือจุดสูงสุดใหม่ สูงกว่าจุดยอดเก่า

แนวโน้มขาลง (Downtrend)

แนวโน้มขาลง หรือ Downtrend คือ ทิศทางของกราฟราคา เดินทางในรูปแบบปรับตัวต่ำลง สามารถมองเห็นได้จากตาเปล่า โดยไม่ต้องอ้างอิงทฤษฎี หรือไม่ต้องตีเส้นกรอบใดๆทั้งสิ้น เนื่องจากแนวโน้มขาลง (Downtrend) เราจะมองเห็นได้ทันทีว่าราคากำลังมีการปรับตัวลง

ลักษณะเฉพาะของแนวโน้มขาลง (Downtrend)

• มีฐานใหม่ ต่ำกว่าฐานเก่า
• มีจุดยอดใหม่หรือจุดสูงสุดใหม่ ต่ำกว่า จุดยอดเก่าหรือจุดสูงสุดเก่า

แนวโน้มด้านข้าง (Sideway)

แนวโน้มด้านข้าง หรือ Sideway คือ ราคาเดินทางในรูปแบบปรับตัวไปด้านข้าง ขึ้นลงในกรอบเล็กๆ ไม่วิ่งขึ้นหรือวิ่งลงฝั่งใดฝั่งหนึ่งอย่างต่อเนื่อง สามารถมองเห็นและทำนายได้จากตาเปล่า โดยไม่ต้องอ้างอิงทฤษฎี หรือไม่ต้องตีกรอบราคา เนื่องจาก แนวโน้มด้านข้าง (Sideway) เราสามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าได้ทันทีว่าราคามีการเคลื่อนที่ไปด้านข้าง

ลักษณะเฉพาะของ แนวโน้มด้านข้าง (Sideway)

• มีฐานใหม่ สูงใกล้เคียงกับฐานเก่า
• มีจุดยอดใหม่หรือจุดสูงสุดใหม่ สูงใกล้เคียงกับ จุดยอดเก่าหรือจุดสูงสุดเก่า

ภาพรวม แนวโน้ม Forex กราฟราคา

แนวโน้ม (Trend) คือ ทิศทางการเคลื่อนที่ของราคา ประกอบด้วย 3 ทิศทาง

1. แนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) คือ ราคาเคลื่อนที่ปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากว่ามีแรงซื้อมากกว่าแรงขาย
2. แนวโน้มขาลง (Downtrend) คือ ราคาเคลื่อนที่ปรับตัวต่ำลง เนื่องจากว่ามีแรงขายมากกว่าแรงซื้อ
3. แนวโน้มด้านข้าง (Sideway) คือ ราคาปรับตัวไปด้านข้าง ขึ้นและลงในกรอบ เนื่องจากว่ามีแรงซื้อและแรงขายใกล้เคียงกัน

ทำความเข้าใจ การขึ้นลงของราคา

อยากให้ผู้อ่านลงจินตนาการถึงการขายของ ทำไมราคาถึงมีขึ้นและลง นั่นเป็นเพราะความต้องการของตลาด อยากให้คุณผู้อ่านลองนึกถึงราคาหน้ากากอนามัยในช่วงโควิดระบาดในช่วงแรก ที่ราคาขึ้นไปสูงมากกว่า 1 เท่าตัวจากราคาปกติ นั่นเป็นเพราะว่าปริมาณหน้ากากอนามัยที่มีขายในท้องตลาด มีปริมาณเท่าเดิม แต่ความต้องการหน้ากากอนามัยเพิ่มสูงขึ้นมหาศาล ทำให้หน้ากากอนามัยไม่เพียงพอต่อความต้องการ

สมมุติว่าคุณขายหน้ากากอนามัย 1 บาทต่อชิ้น แต่ตอนนี้มันเป็นที่ต้องการมากๆ มีคน 10 คนมาขอซื้อคุณ แต่คุณมีจำกัดแค่ 1 ชิ้น จึงทำให้มี 1 ใน 10 คนที่ให้ราคาสูงกว่า 1 บาท เพื่อต้องการซื้อหน้ากากอนามัยนั้น และราคาจะยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ถ้าหากความต้องการยังสูงมากจนไม่เพียงพอต่อการขาย นี่เป็นการเพิ่มขึ้นของราคา

แต่ถ้าหากว่าวันหนึ่งโรงงานผลิตหน้ากากอนามัย สามารถผลิตได้ตามความต้องการของตลาด ทุกคนสามารถเข้าถึงหน้ากากอนามัยได้ในราคาปกติแล้ว ทำให้ราคา 1 บาทเริ่มขายยากแล้ว คุณจึงต้องทำโปรโมชั่น เผื่อขายหน้ากากอนามัยนั้น นี่จึงเป็นการลดลงของราคา

นี่เป็นตัวอย่างการที่ราคาเคลื่อนที่ตามอุปสงค์และอุปทาน (Demand and Supply) โดยทั่วไปแล้วกราฟราคาก็จะเคลื่อนที่ตามอุปสงค์และอุปทาน (Demand and Supply) เช่นเดียวกัน

อินดิเคเตอร์ที่นิยมใช้ในการหา แนวโน้ม Forex

อินดิเคเตอร์ที่เทรดเดอร์ส่วนใหญ่นิยมใช้ในการหา แนวโน้ม Forex ได้แก่

1. เทรนด์ไลน์ หรือ Trend Line

เทรนด์ไลน์ หรือ Trend Line จริงๆ ไม่ใช่อินดิเคเตอร์ แต่เป็นรูปแบบการวิเคราะห์กราฟราคาจากแนวรับและแนวต้าน แต่ผมอดใจที่จะไม่เอามาแสดงไม่ได้จริงๆ เนื่องจากว่า เทรนด์ไลน์ (Trend Line) เป็นการวิเคราะห์ แนวโน้ม Forex ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดจริงๆ

ในการวิเคราะห์ แนวโน้ม Forex ด้วยเทรนด์ไลน์ (Trend Line) เราจะลากเส้น เทรนด์ไลน์ (Trend Line) ตามแนวรับแนวต้านของราคา และจะคาดการณ์ว่าราคานั้นจะวิ่งในกรอบตามแนวรับและแนวต้าน

ตามภาพข้างล่าง ราคาเป็นแนวโน้มขาขึ้นตอนวิ่งอยู่ในกรอบสีน้ำเงินเข้ม แต่ราคาได้ทะลุแนวรับลงมา เทรดเดอร์ที่วิเคราะห์กราฟด้วย เทรนด์ไลน์ (Trend Line) จะเปิดออเดอร์ Sell เพราะราคาได้ทะลุแนวรับลงมา อาจจะมีการเปลี่ยนจากแนวโน้มขาขึ้นเป็นแนวโน้มขาลงก็เป็นได้ ตามตัวอย่างในภาพ

2. Bollinger Bands

Bollinger Bands เป็นอินดิเคเตอร์ที่ใช้ในการวิเคราะห์กราฟราคาจากแนวรับแนวต้าน และใช้วิเคราะห์แนวโน้ม ว่าตอนนี้ราคากำลังอยู่ในแนวโน้มใด โดยเส้น Bollinger Bands ที่ประกอบด้วยเส้น 3 เส้น โดยเส้นบนสุด จะใช้เป็นแนวต้าน และเส้นล่างสุดจะเป็นแนวรับ ส่วนเส้นกลางจะเป็นได้ทั้งแนวรับและแนวต้าน ตามภาพข้างล่าง

ถ้าเป็นแนวโน้มขาขึ้น อินดิเคเตอร์ Bollinger Bands กราฟราคาจะอยู่ในบริเวณ เส้นบนสุดและเส้นกลาง จะไม่ลงมาแตะเส้นล่างสุด ตามภาพข้างล่าง

ถ้าเป็นแนวโน้มขาลง อินดิเคเตอร์ Bollinger Bands กราฟราคาจะอยู่ในบริเวณ เส้นล่างสุดและเส้นกลาง จะไม่ขึ้นมาแตะเส้นบนสุด ตามภาพข้างล่าง

ถ้าเป็นแนวโน้มเคลื่อนที่ไปด้านข้างหรือ Side way อินดิเคเตอร์ Bollinger Bands กราฟราคาจะอยู่ในบริเวณทั้งเส้นบนสุดและเส้นล่างสุด ตัดขึ้นลงไปมา ตามภาพข้างล่าง

3. Moving Average

Moving Average เป็นหนึ่งอินดิเคเตอร์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในตลาด Forex แต่มีเทรดเดอร์หลายคนนิยมใช้เส้น Moving Average ตัดกันแล้วทำการเข้าซื้อ แต่ก็มีเทรดเดอร์หลายคนนิยมใช้ Moving Average ค่าเฉลี่ยสูงๆ เช่น EMA 200 เพื่อใช้หาแนวโน้มว่าตอนนี้ราคาอยู่ในแนวโน้มอะไร

ถ้าเป็นแนวโน้มขาขึ้น กราฟราคาจะอยู่เหนือบริเวณ อินดิเคเตอร์ EMA ค่าเฉลี่ย 200 ตามภาพข้างล่าง

ถ้าเป็นแนวโน้มขาลง กราฟราคาจะอยู่ใต้บริเวณ อินดิเคเตอร์ EMA ค่าเฉลี่ย 200 ตามภาพข้างล่าง

ถ้าเป็นแนวโน้มเคลื่อนที่ไปด้านข้างหรือ Side way กราฟราคาจะตัดกับเส้น อินดิเคเตอร์ EMA ค่าเฉลี่ย 200 ตัดไปมาเอาแน่เอานอนไม่ได้ ตามภาพข้างล่าง