หาจุดกลับตัว ด้วยกลยุทธ์ C.E.S.T.ในการเทรดแบบ Reversal บทความนี้ได้มาจาก YouTube ช่องThe Trading Channel และในวีดิโอนี้ก็ได้พูดถึงเกี่ยวกับ3 สัญญาณที่บ่งบอกว่าเทรนด์หรือแนวโน้มของราคาได้สิ้นสุดลงลงแล้ว และเป็น 3 สัญญาณที่ค่อนข้างแม่นยำ
- สัญญาณโครงสร้างราคา (Key levels)
- สัญญาณจากอินดิเคเตอร์ RSI
- สัญญาณจากรูปแบบของแท่งเทียนและกราฟ
หาจุดกลับตัว ด้วยกลยุทธ์ C.E.S.T.ในการเทรดแบบ Reversal
เทรด Reversal ยังไงให้ได้กำไรอย่างยั่งยืน?
พิธีกรที่ดำเนินรายการมีชื่อว่าสตีเว่น ซึ่งเขามีประสบการณ์การเทรดมานานกว่า8 ปี จุดประสงค์ของวีดิโอนี้คืออยากที่จะแบ่งปันกลยุทธ์ดีๆที่มีชื่อว่า กลยุทธ์ C.E.S.T. สำหรับการเทรดแบบ Reversal ที่สามารถสร้างความได้เปรียบให้กับเทรดเดอร์ทุกๆคน
3 สัญญาณ หาจุดกลับตัว
1. สัญญาณโครงสร้างราคา (Key levels)
สังเกตจากภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคา วิเคราะห์ใน Time frame ที่สูงกว่า โดยส่วนมากแล้วราคามันจะวิ่งไปถึง Key levels ในระดับ Time frame ที่สูงกว่า เนื่องจากว่ายิ่ง Time frame สูง โครงสร้างยิ่งแข็งแกร่งและมีแนวโน้มความเป็นไปได้สูง
- ถ้าหากเราเทรด Time frame 4 ชั่วโมง ให้วิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคาจาก Time frame 1 วัน
- ถ้าหากเราเทรด Time frame 1 ชั่วโมงให้วิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคาจาก Time frame 4 ชั่วโมง
- ถ้าหากเราเทรด Time frame 15 นาที ให้วิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคาจาก Time frame 1 ชั่วโมง
ยกตัวอย่าง
- สตีเว่นเทรดใน Time frame 4 ชั่วโมง ดังนั้นเขาจะต้องวิเคราะห์โครงสร้างราคาจาก Time frame 1 วัน
- Time frame 1 วันแสดงให้เห็นว่าราคาสามารถวิ่งขึ้นไปถึงยัง Key levels
- Key levels ซึ่งได้มาจาก lower high ก่อนหน้านี้
*** เข้าเปิดออเดอร์ BUY โดยใช้ key levelsเป็นเป้าหมาย
2. สัญญาณจากอินดิเคเตอร์ RSI
จะเห็นได้ว่าราคาได้ทำ New high ที่วิ่งมาแตะระดับ Key level
- สัญญาณจากอินดิเคเตอร์ RSI แสดงให้เห็นถึง Overbought ซึ่งแปลว่าราคามีแนวโน้มที่จะลง
- อีกสัญญาณจากอินดิเคเตอร์ RSI คือ Divergence ซึ่งเป็นสัญญาณของการกลับตัว
*** ใช้อินดิเคเตอร์ RSI เป็นตัวบ่งบอกว่าเทรนด์ขาขึ้นได้สิ้นสุดลงแล้ว ที่ดูได้จาก Overbought และ Divergence
ดังนั้นควร Take profit ปิดออเดอร์ในระดับนี้
3. สัญญาณจากรูปแบบของแท่งเทียนและกราฟ
เราเจอรูปแบบกราฟแท่งเทียน Double Top ที่แสดงว่าราคากำลังจะกลับตัวเป็นขาลง เมื่อกราฟวิ่งขึ้นสลับลงมีลักษณะคล้ายตัว M แต่ไม่ได้มีรูปร่างเป็นตัว M ที่ชัดเจนเสมอไป
สิ่งที่เราเจอในการวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคาคือ
- รูปแบบ Double Top
- Divergence
- แท่งเทียนล่าสุดเป็นที่ Engulfing
*** ควร Take profit นี่ถือว่าเป็นจุดออกที่ดี จากนั้นเราสามารถเปิดออเดอร์ SELL ต่อได้
กลยุทธ์ C.E.S.T. ในการเทรดแบบ Reversal
กลยุทธ์ CEST หรือกฎที่สตีเว่นใช้สร้างความได้เปรียบในตลาดForex ในการเทรดแบบ Reversal และสิ่งนี้ได้ทำให้เขาการเป็นเทรดเดอร์ที่สร้างกำไรได้อย่างยังยืน
C= Conditions: เงื่อนไขที่ต้องมีก่อนเข้าเทรด
- วางแผนสำหรับการเทรดแต่ละครั้ง จุดเข้า, เป้าหมาย, จุดออก
- Indicator RSI ใช้ในการวิเคราะห์ Overbought, Oversold
- รูปแบบของกราฟ เช่นเมื่อเจอรูปDouble top แบบใน Key levels ให้ take profit ออกมาก่อน
E= Entry reason: เหตุผลหรือสัญญาณคอนเฟิร์มในการเข้าเทรด
ยกตัวอย่าง เหตุผลในการเปิดออเดอร์ SELL ครั้งนี้
- ราคาวิ่งมาชะลอตัวที่ Key levels
- รูปแบบกราฟเป็น Double top
- แท่งเทียนล่าสุดเป็น Engulfing แสดงว่ามีแรงขายที่เยอะมาก
- RSI แสดงเป็น Overbought
S= Stop loss ด้วย Indicator ATR
- Average True Range (ATR) ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยของแท่งเทียน 14 แท่งสุดท้าย
T= Target: เป้าหมายในการทำกำไร (TP) ตรง key levels
- เราสามารถรู้ว่าตรงไหนคือระดับ Key levels ที่ดูได้จากการปฏิเสธของราคาอยู่บ่อยครั้ง อย่างภาพตัวอย่างด้านล่าง
- ระดับนี้ถือว่าเป็นเป้าหมายในการทำกำไร
Source
Author:
