ชีวิตวุ่นๆ ของวัยรุ่นเกาหลี ประวัติ Do Kwon ผู้ก่อตั้ง Luna ผู้เคยงัดกับแบงค์ชาติไทย เหรียญแห่งฝันร้าย จากมูลค่า 119.5$ ร่วงลงสู่ 0.0000724$ ในระยะเวลาแค่ 38 วัน เท่านั้นเอง
Do Kwon ผู้ก่อตั้ง Luna อณาจักรที่ล่มสลาย
- โด ควอน คือใคร?
- ทำความรู้จักกับ Daniel Shin และ Do Kown
- Terra คืออะไร?
- Do Kown ผู้ก่อตั้ง Luna Foundation Guard
- เรื่องวุ่นๆ ของโอปป้า Do Kown
- ทำความเข้าใจกับการทำงานของเหรียญ UST/LUNA
- ปัจจัยที่ทำให้ UST/LUNA ล่ม
- เหตุการณ์หลังจากที่ UST/LUNA ล่ม
ชีวิตซิ่งๆ ของ Do Kwon ผู้ก่อตั้ง Luna
โด ควอน หนุ่มอัจฉริยะด้านเทคโนโลยีชาวเกาหลีใต้ เป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งเครือข่ายบล็อกเชน Terra และเป็นเจ้าของเหรียญ LUNA Coin รวมถึง Stable Coin UST
โด ควอน กับชีวิตในวัยเด็ก
โด ควอน เกิดเมื่อวันที่ 6 กันยายน 1991 ที่กรุงSeoul ประเทศ เกาหลีใต้ ปัจจุบันอายุ 31 ปี ครอบครัวของเขาเป็นเภสัชกรและขายเครื่องมือทางการแพทย์ต่าง ๆ เขาเป็นคนฉลาดมาตั้งแต่เด็ก พร้อมกับพื้นฐานครอบครัวที่มีฐานะทางการเงินที่ดี
โด ควอน กับชีวิตส่วนตัว
โด ควอน เป็นคนชอบอยู่คนเดียว ค่อนข้างไปในทาง Introvert ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะไม่เปิดเผยข้อมูลชีวิตส่วนตัวของเขาสักเท่าไหร่นัก
โด ควอน กับการศึกษา
โด ควอนจบมัธยมปลายที่ Daewon Foreign Language High School ซึ่งเป็นโรงเรียนเอกชนในกรุงโซล และได้ไปศึกษาต่อต่างประเทศ ที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดในด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ สำเร็จการศึกษาในเดือนมิถุนายน 2015
โด ควอนกับชีวิตการทำงาน
เมื่อเรียนจบและได้มีโอกาสทำงานในฐานะวิศวกรซอฟต์แวร์ให้กับ Apple และ Microsoft ที่ล่ะ 3 เดือน หลังจากนั้น ก็กลับไปเกาหลีใต้ และก็ได้ก่อตั้งบริษัทของตัวเองที่มีชื่อว่า Anyfi เป็นแพลตฟอร์มการสื่อสารระหว่างบุคคลแบบไร้ศูนย์กลาง ซึ่งรัฐบาลเกาหลีใต้ เป็นผู้สนับสนุนเขา
- ในปี 2018 เขาได้ร่วมมือกับผู้ก่อตั้ง TMON แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชื่อดังในประเทศเกาหลีใต้ และทั้งคู่จึงได้เห็นถึงเทคโนโลยีบล็อกเชน จึงได้ร่วมกันสร้าง Terrafrom Labs หรือ “Terra” ขึ้น
- ในปี 2021 บริษัท Terraform Labs ได้รับเงินลงทุน 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากบริษัท Galaxy Digital ของ Michael Novogratz เศรษฐีคริปโทเคอร์เรนซีชาวอเมริกัน และเริ่มเปิดตัวระบบนิเวศของแพลตฟอร์มขึ้นมา
โด ควอนกับรายได้สุทธิ
รายได้มูลค่าสุทธิของเขาในปี 2022 จะอยู่ที่ประมาณ 10 ล้านดอลลาร์ โด ควอน ถือเป็นหนึ่งในอัจฉริยะด้านเทคโนโลยี ที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย ปัจจุบันเขามีอายุเพียงแค่ 31 ปี
โด ควอน ผู้ก่อตั้งอาณาจักรเทอร์รา (Terra)
Kwon Do Hyung ชื่อเกาหลี: 권도형 หรือที่รู้จักกันทั่วไปในชื่อ โด ควอน (Do Kwon) เป็นนักพัฒนาสกุลเงินดิจิทัลของเกาหลีใต้ที่ร่วมก่อตั้งและเป็น CEO ของ Terraform Labs ในสิงคโปร์
(Terraform Labs เป็นบริษัทที่ไม่มีใบอนุญาต และอยู่เบื้องหลังบล็อกเชนของ Terra ซึ่งมี TerraUSD (UST) ที่มีเสถียรภาพและโทเค็นเครือข่าย Terra (LUNA) TerraUSD)
ทำความรู้จักกับ Daniel Shin และ Do Kown
จุดเริ่มต้นทีทำให้ Do Kwan เข้าสู่วงการคริปโตอย่างจริงจัง คือได้เจอกับ Daniel Shin ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้ง Ticket Monster แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในประเทศเกาหลี และทั้งคู่ได้ร่วมก่อตั้ง Terraform Labs เครือข่ายการชำระเงินที่ใครก็สามารถใช้งานได้ และปราศจากการควบคุมจากส่วนกลาง จนทำให้เหรียญติด Top 10 ใหญ่ที่สุดในโลก
Daniel Shin เคยเป็นผู้ก่อตั้งของ Ticket Monster หรือ TMON หนึ่งในแพลตฟอร์ม E-Commerce ที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลีใต้ และเป็นผู้ก่อตั้ง Fast Track Asia บริษัทสตาร์ทอัพ ที่ให้บริการด้านที่ปรึกษาสำหรับผู้ประกอบการ (คนนี้ค่อนข้างที่จะเป็นผู้มีอิทธิพลในสิงค์โปร์)
Do Kwon ดำรงตำแหน่ง CEO ของ Terraform Labs ซึ่งเป็นบริษัทที่อยู่เบื้องหลัง Terra (LUNA) เขาเคยเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง Ticket Monster หรือ TMON เหตุผลหลักที่สร้าง Terra (LUNA) คือ ต้องการอำนวยความสะดวกให้มีการยอมรับสกุลเงินดิจิทัลต่าง ๆ จำนวนมาก โดยสร้างสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีราคาคงที่เมื่อเทียบกับสกุลเงิน Fiat
Terraform Labs ระดมทุนมากกว่า 200 ล้านดอลลาร์จากบริษัทการลงทุน เช่น Lightspeed Venture Partners และ Galaxy Digital มูลค่ารวมของ Luna พุ่งขึ้นเป็นมากกว่า $40 พันล้าน สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับ Day trader และผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัพ รวมถึงนักลงทุนที่ร่ำรวยมากมาย
จุดเปลี่ยนครั้งใหญ่มาถึง เมื่อบริษัทได้มีการเปิดตัว Anchor Protocol ที่ให้ผู้ใช้สามารถฝากหรือถอนเหรียญ UST ซึ่งเป็น Stablecoin หลักของแพลตฟอร์ม ด้วยอัตราดอกเบี้ยเงินฝากสูงถึง 20% ผู้ใช้สามารถทำธุรกรรมที่ซับซ้อนได้โดยไม่ต้องพึ่งธนาคารหรือพ่อค้าคนกลาง
ทำให้มีผู้สนใจเข้ามาใช้งานเป็นจำนวนมาก พอมีผู้ใช้งานมากขึ้น ก็ทำให้ โด ควอน สามารถระดมทุนเพิ่มหลังจากนั้นได้อย่างไม่ยากเย็นนัก ส่งผลทำให้การใช้งานและปริมาณเงินที่ไหลเข้ามาในระบบของ Terra Blockchain นั้นก็เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว
Terra คืออะไร
Terra เรียกตัวเองว่าเป็นแพลตฟอร์ม Blockchain แห่งอนาคต เป็นโปรโตคอล Blockchain Layer-1 ที่มีฟังก์ชันสัญญาอัจฉริยะที่ทำงานเป็นระบบนิเวศฟินเทค ที่เน้นการชำระเงินโดยใช้อัลกอริธึม Stablecoin โดยมูลค่าของเหรียญจะถูกรักษาโดยกลไกอัลกอริธึมภายใน
Stablecoin คือ สกุลเงินดิจิทัลหรือคริปโตเคอร์เรนซี ที่มีกลไกสำหรับการคงมูลค่า ยกตัวอย่างเช่นการตรึงมูลค่าด้วยสกุลเงินหลักของโลก หรือสินค้าโภคภัณฑ์หนุนหลัง การตรึงมูลค่าด้วยสินทรัพย์ดิจิทัลหนุนหลัง และการควบคุมปริมาณเหรียญด้วยกลไกทางคอมพิวเตอร์ จึงทำให้ Stablecoin คล้ายกับ ‘เงิน’ เพราะรักษามูลค่า (store of value) เอาไว้
Terra มีเหรียญ LUNA เป็นสกุลเงินดิจิทัลดั้งเดิม ทำหน้าที่เป็นเหรียญหลักใช้ทำธุรกรรมต่าง ๆ ภายในระบบนิเวศ Terra Chain
Terra Chain มี stablecoin ที่เรียกว่า TerraUSD หรือ UST ซึ่งไม่ได้ถูกหนุนด้วยดอลลาร์สหรัฐ แต่ถูกหนุนด้วยอัลกอริธึม smart contract และเหรียญ LUNA เพียงเท่านั้น
Do Kown ผู้ก่อตั้ง Luna Foundation Guard
นอกจากนี้ Do Kwan ยังได้มีการจัดตั้ง Luna Foundation Guard หรือ LFG ซึ่งเป็นกองทุนที่จะช่วยดูแลเสถียรภาพของระบบนิเวศของ Terra ขึ้นมา ด้วยการเข้าไปซื้อสินทรัพย์ดิจิทัลอย่าง Bitcoin ไว้เป็นทุนสำรองใช้สำหรับพยุงราคา UST
เรื่องวุ่นๆ ของโอปป้า Do Kown ผู้ก่อตั้ง Luna
นิสัยของโด ควอน ค่อนข้างออกไปทาง Narcissist หรือพวกที่ชอบหลงตัวเอง เอาตัวเองเป็นศูนย์กลางของโลก ตัวเองถูกต้องเสมอ มีความเชื่อมั่นในตัวเองมากเกินไป ดังนั้นนิสัยของเขาได้สร้างศัตรูไว้อย่างมากมาย
โด ควอน เคยมีเรื่องกับ ก.ล.ต. สหรัฐอเมริกา
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งสหรัฐอเมริกาได้ออกหมายเรียกไปยัง Terraform Labs เกี่ยวกับ Mirror Protocol ซึ่งเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มบน Terra Blockchain ที่สามารถนำทรัพย์สินในโลกจริง อย่างหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ประเทศสหรัฐอเมริกา นำมาอ้างอิงเป็นสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อให้ผู้ใช้งานเข้าไปเก็งกำไร หรือเข้าไปสร้างผลตอบแทนได้
ซึ่งทาง โด ควอน นั้นมองว่ามันเป็นนวัตกรรมทางการเงินแบบใหม่ แต่ทาง ก.ล.ต. มองว่าสิ่งที่เขาทำมันเข้าข่ายการเป็นหลักทรัพย์ ซึ่งจำเป็นต้องควบคุม เพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาดและคุ้มครองในฝั่งของนักลงทุน
ถึงตรงนี้ Terraform Labs ได้ทำการฟ้องกลับว่า ก.ล.ต. สหรัฐอเมริกา ทำนอกเหนือเขตอำนาจของตนเอง เนื่องจากบริษัทก็ไม่ได้จดทะเบียนอยู่ในสหรัฐอเมริกาด้วยซ้ำ
การเลี่ยงภาษีของโด ควอน
เมื่อเดือนตุลาคมปี 2021 สำนักงานภาษีของเกาหลีใต้ ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการสืบสวนกรณีการเลี่ยงภาษีของ Terra Virgin ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ Terra Singapore โดยในครั้งนั้นได้สั่งปรับจำนวน 4.66 พันล้านวอน ประมาณ 127 ล้านบาท และจากการสืบสวนยังพบว่า Terra Virgin และ โด ควอน ได้ส่งเหรียญ LUNA ที่สร้างขึ้นในสิงคโปร์ ให้กับ Luna Foundation Guard (LFG) โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งแหล่งข่าวระบุว่า Terraform Labs ถูกจับได้ว่าพยายามเลี่ยงการจ่ายภาษีในกระบวนการส่งเหรียญ
จากการสอบสวนของสำนักงานบริการภาษีแห่งชาติของเกาหลี เปิดเผยว่า โด ควอนและแดเนียล ชิน ถูกขอให้จ่ายภาษีเพิ่มเติมมูลค่าประมาณ 100 ล้านดอลลาร์ในเดือนธันวาคม 2021 โดยทั้งสองผู้ก่อตั้งปฏิเสธที่จะจ่าย โดยอ้างว่าบริษัทในเครือ Terraform Labs Pte. Ltd. (สิงคโปร์) และ Terraform Labs Virgin Islands ไม่ใช่หน่วยงานของเกาหลี
มีปากเสียงกับผู้ใช้ Twitter เป็นประจำ
กรณีที่ 1
ผู้ใช้ Tweeter รายหนึ่งชื่อว่า FreddieRaynold เขาได้พบช่องโหว่ของระบบ Luna และ USDT ได้กล่าวในใจความที่ว่า ผมเห็นช่องโหว่นี้ ผู้ที่มีอำนาจร่ำรวย(ผู้ถือหุ้นรายใหญ่) สามารถทำลาย Terraได้ เหมือนกับเหตุการณ์ Black Wednesday ของ George Soros ที่โจมตีค่าเงิน.. แค่ใช้เงินจำนวน 1 พันล้านดอลลาร์ ก็เพียงพอที่จะถล่ม Luna ได้แล้ว
แต่แทนที่โด ควอนจะรับฟังแล้วนำมาพิจารณา แต่เขากลับตอบด้วยประโยคที่เหน็บแนมว่า
“นี่น่าจะเป็นทวิตที่ปัญญาอ่อนมากที่สุดที่ฉันเคยอ่านมาในทศวรรษนี้ ความเงียบน่าจะเป็นวิธีที่สุดของคนโง่..ไหนใครเป็น Billionaires เอาสิ โจมตีเลย เดี๋ยวรู้กัน!!”
กรณีที่ 2
ย้อนกลับไปเมื่อเดือนมีนาคม 2021 Terra ได้มีการพัฒนาเหรียญ Stablecoin ไทยบาท ที่มีชื่อเรียกว่า ‘THT’ บน Terra Platform ซึ่งระบุให้ 1 หน่วยของมูลค่า THT เป็น 1 บาท
หลังจากนั้นธนาคารแห่งประเทศไทยได้ออกมาเตือนว่า เหรียญไทยบาทดิจิทัล THT นั้นผิดกฎหมาย
ซึ่ง โด ควอน ก็ได้ประกาศสงครามกับแบงก์ชาติ โดยสวนกลับว่า “พวกเขามักจะกลัวคุณ ก่อนที่จะเข้าร่วมกับคุณ ตอนนี้ Terra กำลังทำให้ธนาคารกลางเฝ้าระวัง แต่เหรียญ THT จะถูกนำไปใช้ไม่ว่า ธปท. จะเห็นชอบด้วยหรือไม่ก็ตาม”
กรณีที่ 3
ในตอนที่เขาได้นำเหรียญ Dai มาเทียบกับเหรียญ stable coin ของเขาอย่าง UST ! เขาได้โพสหยาม DAI ในประโยคที่ว่า “เหรียญ DAI จะบรรลัยด้วยมือของฉัน” (DAI ซึ่งเป็น stable coin คู่แข่งของ UST)
กรณีที่ 4
“ฉันไม่คุยกับพวก ‘จน ๆ’ บนทวิตเตอร์หรอก.. และขอโทษด้วยน่ะ ที่ตัวฉันไม่มีอะไรให้เปลี่ยนแปลง” หมายความว่า ตัวเขานั้นดีอยู่แล้ว ไม่มีอะไรให้เปลี่ยนแปลงและจะไม่เสียเวลาไปคุยกับคนระดับล่าง
กรณีที่5
“Luna จะราคาเหลือ $10 ในปี 2022” (ณ วันที่ 8 มกราคม 2022 มีมูลค่าที่ 68$)
ได้เห็นดังนั้น โด ควอนก็หัวร้อน เขายังได้ทำการพนันกับบรรดาคนที่เข้ามาวิจารณ์เกี่ยวกับราคาของเหรียญ Luna ด้วย ซึ่งเป็นการตอบโต้ของเขาก็ยังคงความแซบไว้เช่นเดิม
“ฉันจะรับคำท้า เพิ่มเป็น 200 ล้านดอลลาร์? ตกลงป๊ะ? 2022 ฉันจับตาดูคุณอยู่ !!”
“กล้ารับไหม เพิ่มพนันเป็น 200 ล้านดอลลาร์ ถ้าไม่รับคำท้าก็หุบปากไปเลย”
ซึ่งโด ควอน มักจะเห็นการกระทำเช่นนี้อยู่บ่อยครั้ง ที่หยิบยกมานี้เป็นเพียงวีรกรรมเล็กๆน้อยๆ เมื่อใดก็ตามที่มีคนแสดงความคิดเห็นต่างกับเขา เขามักจะสวนกลับในทันที ปากของเขาสามารถทำให้คนมาร่วมระดมทุนได้ แต่ในขณะเดียวกัน ปากของเขาก็ได้สร้างความไม่พอใจให้กับใครหลายคน
การทำงานของเหรียญ UST/LUNA
เหรียญ UST ถูกโจมตี เริ่มตั้งแต่วันที่ 9 พฤษภาคม 2022 ราคาเหรียญ UST ที่เป็น Stablecoin ควรจะมีค่าเท่ากับ 1 ดอลลาร์สหรัฐ ได้ร่วงลงมาอยู่ที่ 0.980 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเกิดจากการเทขายเหรียญ UST เป็นจำนวนมาก
จริงๆ แล้ว concept ของ Cryptocurrency คือ แก้ pain point เรื่อง หนึ่งคือ การเคลื่อนย้ายเงินทุนระหว่างประเทศ ในรูปแบบ Digital ซึ่งมีค่าธรรมเนียมถูกกว่า เงินปกติมาก และสะดวกรวดเร็วเพียงแค่ปลายนิ้ว ใครโอนเงินไปต่างประเทศจะรู้ดีว่า ค่าโอนแพงและล่าช้ามาก และ Cryptocurrency ช่วยแก้ปัญหานี้ ไปได้เยอะ
สรุปง่ายๆ คือระบบมันดีมาก แต่คนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจ Concept ของมัน และไม่รู้มูลค่า ที่แท้จริงของมัน พอราคาขึ้น ก็แห่ไปซื้อตามกระแส โดยไม่รู้สภาพราคา ที่แท้จริงของมันว่าควร จะเป็นเช่นไร ถ้า Cryptocurrency เหรียญนั้น มี Assets ที่มีเสถียรภาพ มา Back ก็สามารถ เก็บไว้ในรูปทรัพย์สินได้ แต่นี่เหรียญส่วนมาก ไม่มีอะไรมา Back เลย นอกจากการปั่นราคา ให้ฟองสบู่แตก เหรียญ Terra/Luna ก็เป็นหนึ่งในนั้น
การทำงานทางด้านราคาของ LUNA และ UST
การทำงานทางด้านราคาของ LUNA และ UST ตั้งอยู่บนพื้นฐานของเศรษฐศาสตร์จุลภาค จริง ๆ แล้วเป็นพื้นฐานที่ทุกคนทราบกันดีอยู่แล้ว ถ้าหากของในตลาดมีความต้องการ (อุปสงค์ หรือ Demand) สูงขึ้นแต่ปริมาณ (อุปทาน หรือ Supply) เท่าเดิม ราคาก็จะสูงขึ้น
กลับกันถ้าหากความต้องการลดลงแต่ปริมาณเท่าเดิม ราคาก็จะลดลง เช่นเดียวกัน ถ้าหากว่าปริมาณของในตลาดสูงขึ้น แต่ความต้องการเท่าเดิม ราคาก็จะลดลง กลับกัน ถ้าหากปริมาณของในตลาดต่ำลง แต่ความต้องการเท่าเดิม ราคาก็จะสูงขึ้น เป็นไปตามกราฟด้านล่าง โดยที่จุดตัดของเส้นอุปสงค์และอุปทานคือจุดสมดุลของราคา (Price Equilibrium)
เหรียญ UST คือ Stable Coin ซึ่งมีหน้าที่สำคัญที่สุดคือการตรึงราคาให้เท่ากับเหรียญ Fiat นั้น ๆ ซึ่ง ณ ที่นี้ก็คือ US Dollar นั่นเอง ฉะนั้นการที่ Stable Coin จะตรึงราคาให้ได้เท่ากับ $1 ก็มีหลายวิธีด้วยกัน เช่น การใช้สินทรัพย์มูลค่า $1 ค้ำไว้ในทุก ๆ $1 Stable Coin ที่ถูกสร้างขึ้นมา
แต่สำหรับ UST นั้นจะต่างออกไปตรงที่ ถ้าหากมีความต้องการ $UST ที่สูงขึ้น ตามหลักเศรษฐศาสตร์แล้วราคาจะสูงขึ้นตาม เช่นขึ้นไปเป็น $1.01 แต่ด้วยหน้าที่ของ Stable Coin เพื่อตรึงราคาให้เท่ากับ $1 เสมอ จึงต้องทำการลดราคาลงมา โดยการเพิ่มอุปสงค์ในระบบ และการที่จะเพิ่มอุปสงค์ของUST นั้นต้องเผาเหรียญLUNA ในมูลค่าที่เท่ากัน แล้วหลังจากนั้นราคาของUST จะกลับมาที่ $1 ได้เหมือนเดิม
และในทางกลับกัน ถ้าหากความต้องการUST ลดลง ราคาก็จะลดลงตาม เช่นลงไป $0.99 เพื่อเป็นการตรึงราคาให้กลับมาที่ $1 เหมือนเดิม ต้องทำการลดอุปสงค์ในระบบ โดยการการสร้างเหรียญLUNA ขึ้นมาเพื่อเผาUST ในระบบออกไป แล้วราคาก็จะกลับมาที่ $1 เช่นเดิมได้
ดังนั้นถ้าหากว่ามีอุปสงค์ของUST มาเท่าไหร่ การเผาของของLUNA ก็จะยิ่งเพิ่มขึ้นมากเท่านั้น แต่ในทางกลับกัน ถ้าหากมีอุปสงค์ของUST เกิดลดลงก็ทำให้เกิดการสร้าง (Mint) ของLUNA มากขึ้นเช่นกัน
อุปสงค์และอุปทานของเหรียญ LUNA
ในอีกด้านนึงของ UST ก็คือ LUNA ที่ทำหน้าที่เป็นเหมือนสินทรัพย์ที่ค้ำ UST ไว้อยู่ ด้วยกลไกการสร้างและการเผาของเหรียญทั้งคู่ ความต้องการของ LUNA เป็นเพียงส่วนหนึ่งของความต้องการ UST
- เช่น การซื้อ UST มาเพื่อ Swap ไปซื้อ LUNA อีกที
ยังมีอีกหลายปัจจัยที่ส่งผลให้มีความต้องการ LUNA ที่สูงขึ้น เช่น รางวัลจากการ Staking ไว้กับ Validator ต่าง ๆ และรอรับ Airdrop จากโปรเจคใหม่ ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต หรือการ นำ Bonded $LUNA บน Anchor Protocol ไปค้ำและกู้ UST ออกมาเพื่อเพิ่มกระแสเงินสดในมือ และอีกมากมาย
ปัจจัยที่ทำให้ UST/LUNA ล่ม
1. ไม่กระจายความเสี่ยง
การที่ โด ควอน ทุ่มซื้อเหรียญ BTC ในปริมาณมาก เพื่อเติมเต็มสภาพคล่องให้กับ UST Stable coin ในกรณี้ถ้า BTC ลง ส่งผลกระทบให้ UST/LUNA ลงตามไปด้วย (ไม่มีการกระจายความเสี่ยง) หลังจากนั้นไม่นาน Fed ประกาศขึ้นโยบายนดอกเบี้ย ส่งผลกระทบให้ BTC ลง ซึ่งแน่นอนว่า UST/LUNA ลงตามไปด้วย
2. Panic Sell
เมื่อ UST/LUNA ลงได้ในระดับหนึ่ง ส่งผลให้นักลงทุนรายย่อยเกิดแพนิค จึงพากันเทขายเหรียญUST/LUNA (ซึ่งในกรณีนี้อาจจะมีนักลงทุนรายใหญ่เห็นช่องโหว่นี้ คนที่โจมตีได้ใช้ LUNA และ UST เป็นเครื่องมือในการทำกำไรจากการขาย Short ของ BTC โดยผู้โจมตีจะต้องทำอย่างไรก็ได้ เพื่อให้กองทุนดังกล่าวเทขาย BTC ออกมาเป็นจำนวนมาก และสิ่งที่ผู้โจมตีทำก็คือ การเทขาย UST อย่างรวดเร็วในคราวเดียว เพื่อให้กองทุนเทขาย BTC)
3. อัลกอริทึม ของ Luna
ย้อนกลับไปที่ระบบการทำงานของ UST และ LUNA หาก UST ราคาสูงเกิน 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ ตัวอัลกอริทึมจะทำการเผาเหรียญ LUNA และเพิ่มปริมาณของ UST เพื่อทำให้ราคานั้นกลับมาอยู่ที่ 1 ดอลลาร์สหรัฐดังเดิม แต่หาก UST มีมูลค่าที่ต่ำกว่า 1 ดอลลาร์สหรัฐ อัลกอริธึมก็จะทำการสร้าง (mint) LUNA เพิ่มเพื่อดึงราคา UST ให้กลับมาเท่ากับ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ กราฟมันพุ่งลงเร็วและแรงมาก
4. Luna ตรึงราคาไว้ไม่ได้
แม้กองทุน LFG จะพยายามซื้อเหรียญ UST กลับเมื่อราคาลงต่ำกว่า 0.995 ดอลลาร์สหรัฐแล้ว แต่ก็ทำได้แค่ตรึงให้ราคากลับมาค้างอยู่แถว 0.990 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งไม่สามารถกลับไปที่ราคา 1 ดอลลาร์สหรัฐได้
5. แรงซื้อหายไป
เมื่อแรงซื้อหมด ซึ่งคาดว่าเป็นเพราะ โด ควอน หยุดซื้อ ก็ทำให้ราคาของเหรียญ UST ร่วงลง และส่งผลให้ผู้ใช้งานจำนวนมากเกิดความกังวล และเริ่มเทขายเหรียญของตนเองออกมาจนท้ายที่สุดแล้วราคาของทั้ง LUNA และ UST ปรับตัวลดลงอย่างมากจนไร้มูลค่า
6. มูลค่าหลักทรัพย์หายไปเยอะมาก
UST/LUNA ล่มสลายในเดือนพฤษภาคม 2022 มูลค่าราคาหลักทรัพย์ลดลง 6 หมื่นล้านดอลลาร์ ภายใน 2 สัปดาห์
7. สามารถย้ายเงินออกมาได้
ในขณะที่กราฟดิ่งลง ทาง Terra ยังมีการปล่อยให้นักลงทุน ทำการเทรดหรือธุรกรรมอื่นๆ เช่น ย้ายเงินออกไป BTC แทนที่จะมีมาตรการป้องกัน
8. Exchange ได้ถอด UST ออก
จากนั้นไม่นานนั้น Exchange หลาย ๆ เจ้า ทั้งในไทยและต่างประเทศ ได้ออกมาทยอยถอดเหรียญออกจากกระดานเทรด และในท้ายที่สุด Terraform Labs ก็ได้แจ้งการยุติ Blockchain และรอการฟื้นฟู
เหตุการณ์หลังจากที่ UST/LUNA ล่ม
- แหล่งข่าวระบุมาว่า โด ควอน พยายามหนีออกนอกประเทศ และเลิกกิจการในเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 4 และ 6 พฤษภาคม 2022 ที่ผ่านมา ก่อนที่เหรียญ LUNA จะล่มสลายลงมา
- ข่าวรายงานออกมาว่า ทางทีมทนายของ Terraform Labs ต่างพากันลาออก
- นักลงทุนรายย่อยหลายคน ขาดทุน หมดอาลัยตายอยาก ทำให้ปลิดชีวิตตัวเอง หลายสิบชีวิต
- จากสื่อในเกาหลี รายงานว่า โด ควอน ได้ขอความคุ้มครองจากตำรวจ หลังจากที่มีนักลงทุนข่มขู่เข้ามามีประสงค์ร้าย กับครอบครัวของเขา
- เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม สมาชิกของรัฐสภาเกาหลีและหน่วยงานรัฐบาลได้เรียกร้องให้มีการไต่สวนของรัฐสภาเกี่ยวกับ Terraform Labs ว่ามันเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น และจะรับมืออย่างไร ทุกอย่างถูกต้องตามกฎหมายไหม
- ล่าสุด Terraform Labs ได้พยายามแก้ไขข้อบกพร่องจากเหตุการณ์ล่มสลายของ LUNA และฟื้นฟูเครือข่าย Terra blockchain ด้วยการเปิดตัว สกุลเงิน Crypto ที่มีชื่อว่า “LUNA 0” ซึ่งเริ่มได้ใช้งานแล้วเมื่อวันที่ 28 พ.ค.2022 ที่ผ่านมา
ปล. ควรใช้วิจารณญาณในการอ่านข่าว อย่าเชื่อสื่อข่าวมากเกินไป
ทั้งนี้ทั้งนั้น LUNA ถือว่าเป็นกรณีศึกษาให้ทุกคนตระหนักถึงความเสี่ยงว่าอะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้ ดังนั้นก่อนการลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด
Source
- https://www.nytimes.com/2022/05/18/technology/terra-luna-cryptocurrency-do-kwon.html
- https://en.wikipedia.org/wiki/Do_Kwon
- https://forkast.news/what-is-terra-luna-stablecoin/
- https://publicistlibrary.com/do-kwon-net-worth/
- https://www.youtube.com/watch?v=3KZY41SqaTI
- https://watcher.guru/news/terraform-labs-owes-78-5-million-in-taxes-to-south-koreas-government
- https://www.businessinsider.com/terra-buys-bitcoin-cryptocurrency-crypto-reserves-stablcoin-blockchain-16-billion-2022-4
Contact
https://twitter.com/stablekwon
Author: