5 คู่มือการเทรด Forex ให้ได้กำไร จากเว็บไซต์ระดับโลก

เรื่องPatihanUhas

คู่มือการเทรด Forex

คู่มือการเทรด Forex ให้ได้กำไร จากเว็บไซต์ระดับโลก การเทรด Forex เป็นเรื่องง่าย ใครๆ ก็ทำได้ แต่การจะเทรดให้ดีและการสร้างผลกำไรอย่างสม่ำเสมอนั้นเป็นเรื่องยาก

 

คู่มือการเทรด Forex ให้ได้กำไร จากเว็บไซต์ระดับโลก

 

1. ให้ความใส่ใจกับ Pivot Points รายวัน (pivot points indicator)

เทคนิคการใช้ Daily Pivot Point Indicator มีความสำคัญอย่างมากหากคุณเป็น Day trader แต่ไม่ว่าคุณจะเป็น swing trader หรือ long-term trader ก็สามารถใช้ Indicator ตัวนี้ได้เช่นกัน Pivot points คือระดับแนวรับแนวต้านที่เป็นตัวช่วยในการดูทิศทางการแกว่งตัวของราคา โดยจะใช้ระดับ High, Low และ Close จากวันก่อนหน้าในการคำนวณ

 

(Daily Pivot Point Indicator จะคำนวณค่า High, Low และ close จากเดือนก่อนหน้า)

 

โดยต้นกำหนดของ Pivot points มาจากพวก Floor trader หรือนักเทรดรุ่นเก่าที่ซื้อขายหุ้นบนกระดาน(สมัยก่อนไม่มีโปรแกรมเทรด จะใช้ดูการขึ้นลงของราคาเป็นกระดาน) ในพวกสาย Day trade เค้าจะดูราคา High, Low และ Close ของวันก่อนหน้ามาคำนวณ Pivot point เพื่อจุดเข้าจุดออกในวันถัดมา

 

Pivot Point ถือเป็นเครื่องมือ Technical Analysis ชนิดหนึ่งที่ได้รับการนิยมอย่างมากในตลาดตราสารอนุพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นสกุลเงิน Forex, ทองคำ, น้ำมัน หรือหุ้นแบบฟิวเจอร์ส

 

เนื่องจากตลาดดังกล่าวมีความผันผวนสูงและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา การใช้ Pivot Point เพื่อคำนวณแนวรับแนวต้านให้อัตโนมัติจึงสะดวกกว่า Pivot Point สามารถใช้ได้อย่างไม่จำกัดสภาวะตลาด ไม่ว่าจะเป็นแนวโน้มขาขึ้น (Bullish) หรือแนวโน้มขาลง (Bearish) เช่น

  • ถ้าแนวโน้มขาขึ้น เทรดเดอร์จะใช้ Pivot Point เพื่อดูแนวรับในการเข้าเทรด
  • ถ้าเป็นแนวโน้มขาลง เทรดเดอร์จะใช้ Pivot Point ดูแนวต้านเพื่อหาจังหวะในการเข้า Sell
  • ถ้าตลาดเป็น Sideway ก็จะใช้ทั้งแนวรับ-แนวต้านจาก Pivot Point สามารถเข้าเทรดได้ทั้ง 2 ฝั่ง

 

สรุปสั้นๆ

Pivot Point คือ Indicator Forex ที่ช่วย คำนวณแนวรับแนวต้านให้อัตโนมัติ โดยแนวคิดของ Pivot Point จริงๆ พื้นฐานมาจากเรื่องค่าเฉลี่ย หรือ “Mean” วิธีการของ Pivot Point Indicator จะคำนวณจุดกึ่งกลางออกมาก่อน ซึ่งจุดดังกล่าวจะเรียกว่า “PP” หรือจุด P (ซึ่งก็คือจุด Pivot Point นั่นเอง) โดยค่า PP แบบมาตรฐานจะคำนวณโดยใช้สูตร P = (H + L + C)/3

 

เราไม่ได้บอกว่าการใช้ Pivot points indicator ควรเป็นพื้นฐานเพียงอย่างเดียวสำหรับกลยุทธ์ในการเทรดของคุณ แต่การใช้ indicator ตัวนี้ สามารถช่วยบอกแนวโน้มหรือการกลับตัวของตลาดที่อาจจะเกิดขึ้นได้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเทรด

 

อีกทั้งคุณสามารถใช้ร่วมกับ Indicator หรือ เครื่องมืออื่นๆ เช่น รูปแบบการกลับตัวของแท่งเทียน, RSI เกิด Overbought/Oversold หรือ MACD ยืนยันรอบการขึ้น เป็นต้น จะช่วยให้การเทรด Pivot Points มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

 

2. หาความได้เปรียบในตลาด

Trader ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด คือคนที่รู้ว่าเมื่อไหร่ควรเสี่ยง เพื่อสร้างผลกำไรให้ได้เยอะที่สุด เสี่ยงจากความได้เปรียบจากฐานข้อมูลหรือความน่าจะเป็น(ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับทักษะของเทรดเดอร์แต่ล่ะคน) เทรดเดอร์ทุกคนควรหา Edge หรือ ข้อได้เปรียบในการเทรดของตัวเองให้ได้ ซึ่งสิ่งนี้จะทำให้เราสามารถทำกำไรได้ในระยะยาวได้

  • การรอคอยโอกาสที่เหมาะสมนั้น เป็นการเพิ่มความน่าจะเป็นว่าจะสำเร็จ
  • พัฒนาวิธีการเทรด คุณจำเป็นต้องศึกษาหาความรู้ คิดวิเคราะห์สังเกตการณ์ กระบวนการเหล่านี้ต้องใช้เวลาและความทุ่มเทอย่างมาก คุณต้องล้มเหลวหลายครั้ง กว่าจะพบแนวทางสู่ความสำเร็จในการเทรดที่ถูกต้องและเหมาะกับตัวเอง
  • มีแนวทางการเทรดของตัวเอง เพื่อให้มีความได้เปรียบคุณจะต้องมีวิธีการก่อน จะเทรดวิธีไหนนั้นไม่สำคัญ สำคัญคือแนวทางนั้นต้องสร้างความได้เปรียบให้คุณ

 

คุณสามารถสร้างความได้เปรียบ– และความน่าจะเป็นที่จะประสบความสำเร็จได้ – โดยมีปัจจัยทางเทคนิคหลายอย่างที่คุณชอบเป็นส่วนประกอบ

 

3. รักษาเงินทุนของคุณ

ใน การซื้อขาย Forex การหลีกเลี่ยงการสูญเสียจำนวนมากมีความสำคัญมากกว่า การทำกำไรจำนวนมาก มันอาจจะฟังดูแปลกๆ สำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ แต่นี้คือเรื่องจริงของตลาด Forex ที่ว่าการชนะที่แท้จริงคือ การรู้จักวิธีรักษาเงินทุน

 

ในหนังสือเรื่องTrading wizard ได้พูดถึง พอล ทูดอร์ โจนส์

 

ภาพจาก forbes.com/profile/paul-tudor-jones-ii/

 

พอล ทูดอร์ โจนส์ (paul tudor jones) คือหนึ่งในเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในประวัติศาสตร์โลกการลงทุน จัดตั้งกองทุนของตนเองตั้งแต่อายุ 26 ปี  กองทุนป้องกันความเสี่ยงมีชื่อว่า ทูดอร์ ฟิวเจอร์ (Tudor Futures Fund)

 

เขากล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า “กฎที่สำคัญที่สุดของการเทรด คือการป้องกันตัวที่ดี” อย่างไรก็ตามพอล ทูดอร์ โจนส์ เป็นเทรดเดอร์ที่ยอดเยี่ยมในการศึกษาและการเรียนรู้ ไม่เพียงแต่เขาจะมีประวัติการซื้อขายที่ทำกำไรได้ เกือบไม่มีใครเทียบได้ เขายังเป็นผู้ใจบุญรายใหญ่และมีส่วนสำคัญในการสร้างโปรแกรมการฝึกอบรมด้านจริยธรรมที่ได้รับการยอมรับในที่สุดอีกด้วย

 

กฏการเทรดของพอล ทูดอร์ โจนส์

  • เล่นแบบป้องกันไว้ให้มาก ไม่ใช่บุกให้มาก
  • อย่าเทรดในสถานการณ์ที่ควบคุมไม่ได้ เช่น ไม่เสี่ยงเงินจำนวนมากก่อนหน้าการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจ มันเหมือนการพนัน ไม่ใช่การเทรด
  • อย่าทำตัวเป็นฮีโร่ อย่ามีอีโก้ ในการเทรด
  • ไม่ควรเสี่ยงทุกอย่าง บนการเทรดบนครั้งเดียว (อย่าเทรดเกินตัว)

 

เหตุใดการเทรดแบบป้องกันตัว คือการเทรดที่ดี?  นั่นก็เพราะว่า การรักษาเงินทุนของคุณ มีความสำคัญอย่างมากในการเทรด  เพราะความจริงก็คือเหตุผลที่คนส่วนใหญ่ที่ซื้อขาย forex ไม่ประสบความสำเร็จก็คือ พวกเขาหมดเงินและไม่สามารถเทรดต่อได้ พวกเขาทำลายบัญชีของเขาก่อนที่จะมีโอกาสเข้าสู่ช่วงที่สามารถทำกำไรอย่างมหาศาล

 

4. ลดความซับซ้อนของการวิเคราะห์ทางเทคนิคของคุณ

ต่อไปนี้ให้คุณลองพิจารณาจากเทรดเดอร์ 2 ประเภท

 

1. เทรดเดอร์ประเภท #1

มีพื้นที่ห้องขนาดใหญ่และหรูหรา คอมพิวเตอร์ซื้อขายที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ จอภาพหลายจอและฟีดข่าวการตลาด และแผนภูมิมากมาย ซึ่งทั้งหมดนี้มีตัวบ่งชี้ทางเทคนิคอย่างน้อยแปดหรือเก้าตัว – ห้าหรือหกค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่, สองหรือสามตัวบ่งชี้โมเมนตัม, เส้นฟีโบนักชี ฯลฯ (ดูแล้วแบบเยอะเคร่งเครียด)

 

2. เทรดเดอร์ประเภท #2

ทำงานในพื้นที่ค่อนข้างเรียบง่าย ใช้เพียงแล็ปท็อปหรือคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กทั่วไป และการตรวจสอบแผนภูมิของเขาเผยให้เห็นเพียงหนึ่งหรือสอง – สูงสุดสามอย่าง – ตัวชี้วัดทางเทคนิคที่วางซ้อนกับการเคลื่อนไหวของราคาในตลาด (ดูแล้วแบบง่ายๆ สบายๆ ชิลๆ)

 

หากคุณเดาได้ว่าผู้ซื้อขาย #1 เป็น เทรดเดอร์ Forex มืออาชีพ ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง คุณอาจจะเดาผิด อันที่จริง เทรดเดอร์ #2 โดยปกติแล้วนั้นใกล้เคียงกับลักษณะการทำงานของเทรดเดอร์ forex ที่ชนะอย่างต่อเนื่อง เพราะว่าเขาไม่ต้องใช้ตัวช่วยอะไรมาก ด้วยประสบการณ์ที่สะสมมานานจึงพอจะมองกราฟออกอย่างง่ายดาย

 

บางทีคุณอาจไม่จำเป็นที่จะต้องใช้หลายๆเครื่องมือในการวิเคราะห์ทางเทคนิค เพราะว่าบางครั้งการที่คุณใช้เครื่องมือเยอะๆมันอาจทำให้คุณสับสนได้

 

อันที่จริง ผมรู้จักเทรดเดอร์ Forex ที่ประสบความสำเร็จมากๆ อยู่คนหนึ่ง เป็นสุภาพบุรุษท่านนี้ ถอนเงินออกจากตลาดแทบทุกวัน โดยเขาไม่ใช้เครื่องมืออะไรเลยในการวิเคราะห์ตลาด ไม่มี Trend lines, ไม่มี Moving average และแน่นอนว่าไม่มีที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหรือ Trading robots

 

การวิเคราะห์ตลาดอย่างง่ายของเขาไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าแผนภูมิแท่งเทียนธรรมดา กลยุทธ์การซื้อขายของเขาคือการดูรูปแบบแท่งเทียนที่มีความน่าจะเป็นสูง เช่น Pinbar (หรือที่รู้จักในชื่อthe hammer or shooting star patterns) ซึ่งอยู่ในหรือใกล้แนวรับและแนวต้านที่ระบุได้ง่ายๆ โดยดูจากการเคลื่อนไหวของราคาก่อนหน้าของตลาด

 

5. วางจุด Stop loss ในระดับราคาหรือที่เหมาะสม

ในส่วนนี้อาจดูเหมือนเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการรักษาเงินทุนการค้าของคุณไว้ แต่ก็เป็นองค์ประกอบสำคัญในการที่จะทำให้คุณประสบความสำเร็จในการเทรด Forex นักเทรดมือใหม่หลายคนทำผิดพลาดโดยเชื่อว่าการจัดการความเสี่ยงไม่ได้มีความหมายอะไรมากไปกว่าการวางคำสั่งหยุดการขาดทุนไว้ใกล้กับจุดเข้าเทรดของพวกเขา เป็นความจริงที่ส่วนหนึ่งของการจัดการเงินที่ดี

 

เทรดเดอร์ที่ดีจะ Stop loss การขาดทุนไว้ที่ระดับที่จะปกป้องเงินทุนการเทรดของเขาจากการขาดทุนมากเกินไป เทรดเดอร์ที่ยอดเยี่ยมจะไม่วางจุด Stop lossโดยไม่จำเป็น เพราะว่าบางครั้งหากวางจุด Stop loss ที่เหมาะสม สามารถช่วยเพิ่มผลกำไรได้ อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณสามารถ Stop loss ในจุดที่เหมาะสมอย่างชาญฉลาด มันสามารถที่ทำให้คุณประสบความสำเร็จในการเทรด Forex ได้

 

สรุปการเทรด Forex

ตลาด Forex มีลักษณะเฉพาะของตัวเอง เพื่อที่จะเทรดให้ได้กำไรอย่างสม่ำเสมอ เทรดเดอร์จำเป็นที่จะต้องเรียนรู้ทักษะต่างๆผ่านเวลา การฝึกฝน และการศึกษา

 

Source

https://corporatefinanceinstitute.com/resources/knowledge/trading-investing/the-5-step-guide-to-winning-forex-trading/