ในการลงทุนมีหลายเทคนิคที่ไม่ตายตัว แต่เทคนิคที่ถือเป็นการช่วยป้องกันความเสี่ยงได้ดี และใช้กันอย่างแพร่หลายคือ “เทคนิคการกระจายลงทุน”
การกระจายการลงทุนจําเป็นหรือไม่
การกระจายการลงทุนถือเป็นหนึ่งในหลักการที่นักลงทุนควรกระทำ เนื่องจากเป็นการช่วยลดความเสี่ยง ซึ่งหากนักลงทุนมีการลงทุนโดยที่ไม่กระจายความเสี่ยงเลย และการลงทุนนั้นล้มเหลว จะทำให้นักลงทุนไม่มีโอกาสที่จะต่อยอดการลงทุนผ่านช่องทางหรือตัวเลือกอื่น ๆ นอกจากนี้ยังเพิ่มโอกาสที่จะช่วยให้นักลงทุนสามารถได้รับผลตอบแทนมากขึ้นอีกด้วย เพราะว่าในการลงทุนแบบกระจายลงทุน จะมีการลงทุนหลายแหล่ง บางแหล่งอาจจะมีผลตอบแทนที่มากกว่าอีกแหล่ง ดังนั้นหากมีการลงทุนแบบช่องทางเดียวไปในแหล่งที่ให้ผลตอบแทนน้อย ก็จะเสียโอกาสที่จะได้ผลตอบแทนมากขึ้นนั่นเอง
อย่างไรก็ตามการกระจายการลงทุนอาจไม่ใช่สูตรสำเร็จเสมอไป เพราะก็มีคนบางส่วนที่ประสบความสำเร็จกับการลงทุนในแหล่งเดียวเช่นกัน แต่การกระจายลงทุนจะช่วยให้นักลงทุนสามารถลงทุนได้อย่างมีระบบ, เพิ่มความยืดหยุ่นในการลงทุน รวมถึงควบคุมความเสี่ยงได้ดีมากกว่าการลงทุนในแหล่งเดียวได้อย่างแน่นอน
วิธีการกระจายการลงทุนง่าย ๆ ด้วยตัวเอง
วิธีการกระจายการลงทุนง่าย ๆ สามารถทำได้โดย
กระจายความเสี่ยงไปในหลายสินทรัพย์
หากพูดถึงการลงทุน นักลงทุนมือใหม่อาจจะนึกถึงหุ้น แต่ในความเป็นจริงการลงทุนนั้นมีหลากหลายรูปแบบมาก ไม่ว่าจะเป็น หุ้น, ตราสารหนี้, สกุลเงิน, ทองคำ, อสังหาริมทรัพย์ หรือแม้กระทั่งการฝากเงินกินดอกเบี้ยก็ถือเป็นการลงทุนเช่นกัน ดังนั้นสิ่งที่ง่ายที่สุดที่นักลงทุนสามารถทำได้คือการนำเอาข้อมูล ผลตอบแทน ความเสี่ยงของแต่ละสินทรัพย์ที่จะลงทุน มาเปรียบเทียบ วิเคราะห์ เพื่อที่จะสามารถประเมินการลงทุนได้อย่างเหมาะสม เพื่อกำจัดความเสี่ยงให้ได้มากที่สุด
การกระจายความเสี่ยงในแต่ละประเภทสินทรัพย์
นอกจากกระจายความเสี่ยงในหลายสินทรัพย์แล้ว นักลงทุนยังสามารถกระจายความเสี่ยงในแต่ละประเภทสินทรัพย์ได้อีก เช่น ในตลาดหุ้น นักลงทุนอาจมีหุ้นหลายหุ้นที่มีการวิเคราะห์แล้วว่าในอนาคตจะมีการเจริญเติบโตได้ดี ก็สามารถกระจายความเสี่ยงได้โดยการลงทุนกับหุ้นหลาย ๆ ตัว ไม่จำเป็นต้องลงทุนกับหุ้นตัวเดียว เพราะความเสี่ยงจะมีสูง หรือแม้กระทั่งการลงทุนผ่านกองทุน ก็ไม่จำเป็นจะต้องลงทุนกับกองทุนของประเทศไทยอย่างเดียว หากคำนวณแล้วว่ากองทุนของต่างประเทศมีโอกาสที่จะทำกำไรได้ ก็สามารถแบ่งการลงทุนไปลงทุนกับกองทุนต่างประเทศเพื่อกระจายความเสี่ยงได้อีก
การกระจายในเรื่องของจังหวะการลงทุน (timing)
ในการลงทุน มักมีหลายปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนอาจรีบร้อนและพลั้งมือลงทุนไปเพราะกลัวที่จะพลาดโอกาส หรือคิดว่าโอกาสนั้นจะไม่กลับมาอีก (Fear of missing out) ซึ่งในบางครั้งก็อาจเป็นเรื่องที่ดีเพราะได้ผลตอบแทนออกมาดี แต่ในบางครั้งการลงทุนแบบไม่สนใจเรื่องจังหวะการลงทุนอาจส่งผลเสียกลับมาให้กับนักลงทุนได้
โดยการลงทุนแบบ DCA คือการลงทุนเป็นระบบแบบเฉลี่ยเท่า ๆ กันทุกรอบการลงทุน โดยที่ไม่สนใจถึงปัจจัยภายนอกหรือราคาที่มีการปรับตัวขึ้นลงอย่างรุนแรงในตลาด วิธีนี้จะช่วยให้นักลงทุนสามารถยับยั้งชั่งใจในการลงทุนและมีวินัยมากขึ้น รวมถึงทำให้ลดความเสี่ยงที่จะลงทุนไปตามสภาวะของตลาดโดยที่ไม่มองถึงปัจจัยด้านอื่น
ตัวอย่างการกระจายการลงทุน
ตัวอย่างการกระจายกองทุน นาย A มีเงิน 1 ล้านบาท แบ่งการลงทุนไปกับตลาดหุ้น 500,000 บาท การลงทุนแบบกองทุนตราสารหนี้ 250,000 บาท และลงทุนผ่านกองทุนผสมอีก 250,000 บาท จะมีสัดส่วนเป็น ลงทุนตลาดหุ้น 50% : ตราสารหนี้ 25% : กองทุนผสม 25% หากในท้ายที่สุดได้ผลตอบแทนจากตลาดหุ้น 10% (50,000 บาท) ขาดทุนจากตราสารหนี้ 5% (12,500 บาท) ขาดทุนจากกองทุนผสม 1% (2,500 บาท) จะแสดงให้เห็นว่า ถึงแม้จะมีการขาดทุนจากกองทุนตราสารหนี้และกองทุนผสม ในท้ายที่สุดเมื่อรวมผลตอบแทน กำไร-ขาดทุนจากแต่ละการลงทุน ก็ยังมีผลตอบแทนที่เป็นบวก 50,000 – 12,500 – 2,500 = 35,000 บาท
และนี่คือเหตุผลที่ทำไมการกระจายการลงทุนถึงมีบทบาทสำคัญในการตัดสินว่านักลงทุนจะมีกำไรหรือขาดทุน
เหตุผลที่ต้องมีการกระจายการลงทุน
เหตุผลที่ต้องมีการกระจายการลงทุน เพื่อให้นักลงทุนสามารถลดความเสี่ยงในการขาดทุนหากลงทุนไปกับกองทุนเดียวและกองทุนนั้นมีการขาดทุน โดยหากมีการกระจายกองทุนไปในหลาย ๆ การลงทุน ถึงแม้จะมีกองทุนที่ขาดทุนไปบ้าง แต่หากมีกองทุนที่ได้ผลกำไรเยอะกว่ากองทุนที่ขาดทุน โดยรวมพอร์ตของนักลงทุนก็ยังถือว่าได้กำไรอยู่ดี ดังนั้นเหตุผลหลักก็คือการกระจายความเสี่ยง และเพิ่มโอกาสในการทำกำไรหรือผลตอบแทนให้กับนักลงทุน และทำให้นักลงทุนมีวินัย ลงทุนแบบมีระบบมากขึ้น
สรุปบทความ
การกระจายการลงทุนเป็นหนึ่งในเทคนิคที่มีการใช้กันไม่ว่าจะทั้งกับนักลงทุนมือใหม่หรือนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จระดับโลก เนื่องจากเป็นเทคนิคการลงทุนที่มีประสิทธิภาพ และสามารถลดความเสี่ยงในการลงทุนให้กับนักลงทุนได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้เป็นวิธีที่เข้าใจไม่ยาก และมีประโยชน์เป็นอย่างยิ่ง ที่จะช่วยให้นักลงทุนมีวินัย และสร้างแบบแผนหรือระบบการลงทุนให้มีประสิทธิภาพได้ บทความนี้ก็ขอจบแต่เพียงเท่านั้นถ้าหากใครอยากเรียนรู้เพิ่มเติมสามารถเข้ามาได้ที่ forex เบื้องต้น
Author: