จิตวิทยาการเทรด ในแบบ Mark Douglas มาร์ค ดักลาส ถือได้ว่าเป็นบุคคลหนึ่งที่มีความชำนาญและมีแนวคิดที่ลึกซึ้งในด้านจิตวิทยาการลงทุนในตลาดเก็งกำไร
จิตวิทยาการเทรด ในแบบ Mark Douglas
มาร์ค ดักลาส เขาเป็นคนหนึ่งที่เคยลาออกจากงาน เพื่อมาสู่ตลาดการเทรด แต่ทุกอย่างมันไม่ได้สวยหรูอย่าคิดไว้ แรกๆเขาเทรดได้กำไร ที่ปราศจากทักษะ ใช้ดวงและความน่าจะเป็นเพียงอย่างเดียว
พักหลังๆมา ขาดทุนบ่อยเกิน ดังนั้นเขาจึงตัดสินในเขียนบันทึก สังเกตพฤติกรรมของตัวเองและเทรดเดอร์รอบตัวเขา จากนักเก็งกำไรในห้องค้า (Floor Trader)
- พฤติกรรมการเก็งกำไร
- สภาวะจิตใจ
ผลลัพธ์ที่ได้ คือ
เมื่อครั้งแรกที่มาร์ค ดักลาส มาถึงชิคาโกนั้น เขามีความฝันที่ยิ่งใหญ่ แต่ในขณะเดียวกันนั้น เขากลับเผชิญกับความกลัวที่อยู่ในใจของตัวเองตลอดเวลา
โดยในช่วงนั้น เขาได้เทรดเก็งกำไรมาเป็นเวลาเกือบ 3 ปีแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถที่จะทำกำไรได้อย่างสม่ำเสมอ จนทั้งครอบครัว และเพื่อนฝูงต่างคิดว่าเขานั้นมันบ้า ที่ตัดสินใจออกมาจากธุรกิจที่เขาทำอยู่ แทบจะไม่มีใครที่ยอมรับเขาเลย ถึงแม้ว่ามาร์ค ดักลาสจะมีความมุ่งมั่นมากแค่ไหน แต่เขาก็ยังมีความกลัวที่จะล้มเหลว อยู่ภายในจิตใจตลอดเวลา
จริงๆ แล้วการเก็งกำไรนั้น มันคือการต่อสู้กับจิตใจของเราเอง
4 ความกลัวในการเทรด
การเอาชนะอุปสรรคสู่ความสำเร็จ
ความกลัวเป็นอารมณ์ที่ทรงพลังที่สามารถสร้างความหายนะให้กับกระบวนการตัดสินใจของเทรดเดอร์ มาร์ค ดักลาสระบุความกลัวหลัก 4 ประการในการเทรดที่เทรดเดอร์จำเป็นต้องเอาชนะเพื่อให้ประสบความสำเร็จอย่างสม่ำเสมอ
ความกลัวมันถูกบ่มเพาะมาจากวัฒนธรรม และสังคมของพวกเราเอง มันแทบเป็นไปไม่ได้เลย ที่ใครสักคนจะเติบโตมาโดยไม่เคยเรียนรู้ที่จะต้องกลัวบางสิ่ง เช่น กลัวที่จะผิดพลาด หรือกลัวที่จะต้องสุญเสียบางสิ่งไป อย่างไรก็ตาม มันก็ยังมีวิธีการบางอย่าง ที่จะช่วยให้เราแก้ไขมันได้ หรือเรียกบางอย่างที่สูญเสียไปกลับคืนมาให้เรา และนี่ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นเรื่องของการเงิน มันสามารถประยุกต์ใช้ได้กับทุกอย่าง
1. กลัวที่จะผิดพลาด:
เทรดเดอร์ควรจำไว้ว่าไม่มีใครถูกเสมอไป และการขาดทุนเป็นเรื่องปกติของการเทรด มุ่งเน้นไปที่กระบวนการซื้อ-ขายและเรียนรู้จากข้อผิดพลาดมากกว่าการหมกมุ่นอยู่กับความสูญเสีย
2. ความกลัวที่จะสูญเสียเงิน
เทรดเดอร์ควรพัฒนากลยุทธ์การจัดการความเสี่ยงที่มั่นคงและเสี่ยงเพียงเล็กน้อยของเงินทุนในการเทรดในแต่ละการเทรด ด้วยการควบคุมจำนวนเงินที่มีความเสี่ยง หากมีการจัดการความเสี่ยงที่ดีเทรดเดอร์สามารถลดผลกระทบทางอารมณ์ของการสูญเสียได้
3. ความกลัวที่จะพลาดโอกาส (FOMO)
เพื่อหลีกเลี่ยง FOMO เทรดเดอร์ควรทำตามแผนกลยุทธ์ของตัวเอง มีระเบียบวินัยในการซื้อ-ขาย และไม่กระโดดเข้าสู่การซื้อขายอย่างหุนหันพลันแล่น
4. ความกลัวที่จะตัดสินใจผิดพลาด
ความกลัวนี้เป็นผลมาจากความเสียใจความผิดหวังในอดีต และจากความดีใจ ส่งผลให้เกิดอคติต่อการเทรด จัดการกับความกลัวนี้ เทรดเดอร์ควรมุ่งเน้นไปที่การดำเนินการตามแผนการซื้อขายของตนอย่างสม่ำเสมอ
เมื่อเข้าใจความกลัวเหล่านี้แล้วนำไปปรับใช้กับการเทรด เราก็จะสามารถลดผลกระทบทางจิตใจและสมารถตัดสินใจได้ดีขึ้น กุญแจสำคัญในการเอาชนะความกลัวเหล่านี้คือการพัฒนาแนวทางการเทรดที่มุ่งเน้นกระบวนการอย่างมีระเบียบวินัย
5 การพัฒนา Mindset ให้มีระเบียบวินัย
1. สร้างแผนการเทรดที่ชัดเจน
แผนการเทรดที่มั่นคงเป็นรากฐานสำหรับการเทรดอย่างมีวินัย เทรดเดอร์ควรสรุปกฎการเข้าและออกที่เฉพาะเจาะจง แนวทางการจัดการความเสี่ยง และกลยุทธ์โดยรวม
2. พัฒนากลยุทธ์ในการจัดการความเสี่ยงที่มั่นคง
การบริหารความเสี่ยงที่มีระเบียบวินัยสามารถสร้างความมั่นใจและลดผลกระทบทางอารมณ์จากการขาดทุนได้
3. จดบันทึก ติดตามประสิทธิภาพในการซื้อ-ขาย
สมุดบันทึกรายวันการซื้อขายมีค่าอย่างยิ่งสำหรับการปลูกฝังระเบียบวินัย ช่วยให้เทรดเดอร์บันทึกการซื้อขาย วิเคราะห์ประสิทธิภาพ และระบุจุดที่ต้องปรับปรุง ยังไง? ด้วยการทบทวนบันทึกเป็นประจำ เทรดเดอร์สามารถรับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับจุดแข็งและจุดอ่อน พัฒนาความตระหนักรู้ในตนเอง และเสริมสร้างความมุ่งมั่นในการทำตามแผนการซื้อ-ขาย
4. ฝึกฝนความอดทนและการควบคุมตนเอง
เทรดเดอร์ควรหลีกเลี่ยงการกระทำที่หุนหันพลันแล่น ควรรอการตั้งค่าการเทรดแบบคุณภาพสูงที่สอดคล้องกับแผนกลยุทธ์
5. พัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง
ด้วยการขัดเกลาทักษะการเทรดอย่างต่อเนื่อง ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับการพัฒนาของตลาด และขอคำติชมจากเพื่อนหรือที่ปรึกษา เทรดเดอร์สามารถปลูกฝังความคิดของการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องที่สนับสนุนการเทรดอย่างมีระเบียบวินัย
5 การมี Mindset ว่าการเทรดใช้เกณฑ์ความน่าจะเป็น
มาร์ค ดักลาส เชื่อการเทรดในตลาดนี้เป็นการเล่นเกมส์ของความน่าจะเป็น หากคนหนึ่งได้ อีกคนต้องเสีย
1. แยกอารมณ์ออกจากการซื้อขายแต่ละรายการ
เมื่อเข้าใจว่าผลลัพธ์ของการซื้อขายแต่ละครั้งนั้นมาจากการสุ่มและความน่าจะเป็น การแยกอารมณ์ออกไปช่วยป้องกันการตัดสินใจด้วยอารมณ์ที่อาจนำไปสู่การขาดทุน
2. มุ่งเน้นไปที่การดำเนินการตามแผนการซื้อ-ขายอย่างสม่ำเสมอ
การมี Mindset ว่าการเทรดใช้หลักความน่าจะเป็น เทรดเดอร์เข้าใจว่าความสำเร็จในระยะยาวของพวกเขาขึ้นอยู่กับการดำเนินการตามแผนการซื้อขายที่สอดคล้องกันมากกว่าผลลัพธ์การซื้อขายในแต่ละรายการ การเปลี่ยนจุดโฟกัสนี้ช่วยให้พวกเขามีระเบียบวินัยและมุ่งมั่นในแผน ทำให้มั่นใจได้ถึงความมั่นคงและการเติบโตในระยะยาว
3. หลีกเลี่ยงการตอบสนองมากเกินไปต่อผลลัพธ์ระยะสั้น
เช่น การขาดทุนหรือกำไร ความคิดเชิงความน่าจะเป็นช่วยให้เทรดเดอร์ตระหนักว่าผลลัพธ์ในระยะสั้นเป็นแบบสุ่มหรือความน่าจะเป็น และไม่ได้บ่งชี้ถึงความสามารถในการซื้อขายโดยรวมของเทรดเดอร์ กลยุทธ์เดียวกันแต่สามารถทำกำไรและขาดทุนได้ เหมือนการโยนเหรีญ หัว ก้อย ดังนั้นยึดมั่นในกลยุทธ์ของเราดีที่สุด
4. ปลูกฝังทัศนคติที่มุ่งเน้นการเติบโตให้อยู่ในตลาดแบบยั่งยืน
การเปิดรับความไม่แน่นอนและการยอมรับกรอบความคิดที่น่าจะเป็นจะกระตุ้นให้เทรดเดอร์เรียนรู้และปรับตัวอย่างต่อเนื่อง
5. รักษาเสถียรภาพทางอารมณ์
ความเสถียรนี้ช่วยให้พวกเขารับมือกับการขึ้นและลงของการซื้อ-ขายที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และรักษาความคิดที่มีเหตุผลตลอดเส้นทางการเทรดของเทรดเดอร์ โดยการเข้าในว่านี่มันเกมส์ของความน่าจะเป็น
Source
Author: