Scalping คืออะไร พร้อมกลยุทธ์ ใช้ในตลาดจริงให้ได้ผล แนวทาง การเล่นสั้น Forex ปัจจุบันมีผู้คนจำนวนมากที่สนใจหารายได้เสริมต่าง ๆ และ Forex ก็เป็นหนึ่งในการหารายได้ที่มีผู้คนจำนวนมากให้ความสนใจ และคิดว่าจะทำกำไรจากตลาด Forex โดยง่าย แต่ความจริงนั้นมันไม่ง่ายอย่างที่หลายคนคิด
เนื่องจากว่าตลาด Forex มีความผันผวนเป็นอย่างมาก เทรดเดอร์ต้องมีการศึกษาเรียนรู้คำศัพท์ และเทคนิคการทำกำไรให้ดีก่อนที่จะเข้ามาเก็งกำไรในตลาด Forex เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น
และ Scalping Forex คือหนึ่งในเทคนิคที่เทรดเดอร์หลายคนนิยมเลือกใช้ แต่ยังมีเทรดเดอร์มือใหม่จำนวนมาก ที่ยังไม่เข้าใจความหมายว่า Scalping คืออะไร
Scalping คืออะไร?
Scalping คือ การซื้อขายแบบรวดเร็ว และปิดทำกำไรอย่างรวดเร็ว โดยเทรดเดอร์จะซื้อขายให้จบภายใน 1 วัน และมักจะไม่ถือออเดอร์ไว้ข้ามคืน ยกเว้นแต่สภาวะตลาดไม่เป็นใจจริง ๆ อาจจะมีการถือออเดอร์ไว้ข้ามคืนได้ แต่โดยทั่วไปแล้ว เทรดเดอร์ที่เทรดแบบ Scalping จะซื้อขายให้จบภายใน 1 วัน
โดยเทรดเดอร์ที่เทรดเดอร์แบบ Scalping มีความเชื่อว่า ไม่ว่าสภาวะตลาด Forex จะมีความผันผวนมากแค่ไหนก็ตาม เขาก็สามารถทำกำไรได้อย่างต่อเนื่อง และไม่ต้องกังวลเรื่อง Stop Loss เพราะว่าคุณทำกำไรแบบสั้น ๆ จุด Stop Loss จึงไม่ค่อยไกลเท่าไหร่และก็ไม่ขาดทุนเยอะอีกด้วย
การเทรด Scalping เหมาะกับใคร
การเทรด Scalping เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่มีความว่องไว ตัดสินใจเร็ว และมีสมาธิสูง เพราะต้องเฝ้าหน้าจอตลอดเวลาเพื่อหาจังหวะเข้า-ออกที่ดีที่สุด นอกจากนี้ ยังต้องมีวินัยในการบริหารความเสี่ยงอย่างเคร่งครัด เนื่องจากมีการเทรดบ่อยครั้งในแต่ละวัน เหมาะกับ Active Trader ที่ชอบเข้าไวออกไว และสามารถจบงานได้เร็ว
การซื้อขาย Scalping
การซื้อขาย Scalping จะทำการเปิดออเดอร์เพื่อทำกำไรระยะสั้น ๆ มักจะไม่ถือยาวข้ามวัน และจะมักจะปิดออเดอร์ภายใน 5-8 ชั่วโมงในแต่ละออเดอร์ เพราะถ้าถือยาวนานมากกว่านั้น มันก็จะไม่เป็นการซื้อขายในระยะสั้น แต่เป็นการซื้อขายระยะยาวแทน
ดังนั้น การซื้อขาย Scalping จะไม่ค่อยซื้อขายบน Time Frame ใหญ่กว่า Time Frame 4H เนื่องจากการวิเคราะห์การแกว่งตัวของกราฟราคา บน Time Frame ที่เล็ก 1Day สามารถมองเห็นการแกว่งตัวของกราฟราคาได้ดีกว่า Time Frame 1Day ขึ้นไป แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด ในแต่ละออเดอร์ คือ ต้องมี Stop Loss ทุกออเดอร์
เพราะการทำกำไร Scalping จะเป็นการทำกำไรระยะสั้นและซื้อขายค่อนข้างบ่อย หากไม่มี Stop Loss อาจจะทำให้การเทรดเสียหายอย่างหนัก จากการเทรดขาดทุนเพียงแค่ออเดอร์เดียวก็เป็นได้
กลยุทธ์ Scalping เบื้องต้นมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง
กลยุทธ์ Scalping เบื้องต้น มีขั้นตอนที่นักเทรดจำเป็นต้องรู้ ดังนี้
- เลือกคู่สกุลเงินที่เหมาะสม : ควรเลือกคู่สกุลเงินที่มีสภาพคล่องสูงและมีความผันผวนพอสมควร เช่น EUR/USD หรือ GBP/USD เพื่อให้มีโอกาสทำกำไรได้บ่อยครั้ง
- กำหนด Time Frame ที่เหมาะสม : Scalper มักจะใช้ Time Frame ที่สั้นมาก เช่น 1 นาที, 5 นาที หรือ 15 นาที เพื่อหาจังหวะเข้า-ออกที่รวดเร็ว
- ตั้งค่า Stop Loss และ Take Profit : กำหนด Stop Loss และ Take Profit ให้ชัดเจน โดยทั่วไปมักจะใช้อัตราส่วน Risk/Reward ที่ 1:1 เช่น ถ้า Stop Loss อยู่ที่ 10 pips ก็ควรตั้ง Take Profit ที่ 10 pips เช่นกัน
- ใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิค : นำเครื่องมือต่าง ๆ มาช่วยในการวิเคราะห์ เช่น Moving Average, MACD, RSI, Stochastic หรือ Bollinger Bands เพื่อหาจุดเข้า-ออกที่เหมาะสม
- เฝ้าติดตามข่าวสารและปัจจัยพื้นฐาน : แม้ว่า Scalping จะเน้นการวิเคราะห์ทางเทคนิคเป็นหลัก แต่ก็ควรติดตามข่าวสารสำคัญที่อาจส่งผลกระทบต่อตลาดในระยะสั้น
- ควบคุมอารมณ์และรักษาวินัย : เนื่องจาก Scalping เป็นการเทรดที่รวดเร็วและบ่อยครั้ง จึงต้องควบคุมอารมณ์ให้ดี ไม่โลภหรือกลัวจนเกินไป และต้องยึดมั่นในแผนการเทรดที่วางไว้
- ทดสอบและปรับปรุงกลยุทธ์อย่างต่อเนื่อง : ใช้บัญชีทดลองเพื่อทดสอบกลยุทธ์ก่อนใช้เงินจริง และหมั่นปรับปรุงกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ
เทคนิค Scalping
ก่อนอื่นต้องขอชี้แจงกับผู้อ่านก่อนว่า เทคนิคการซื้อขายแบบ Scalping ของเทรดเดอร์แต่ละคน จะมีสไตล์ที่แตกต่างกัน วิธีและเทคนิคในบทความนี้จะเป็น 1 ในเทคนิคที่ได้รับความนิยมในการเทรด
- ตั้ง Reward / Risk ไว้ที่ 1:1
- ความหมาย คือ Take Profit มีค่า 1 และ Stop Loss มีค่า 1
ตัวอย่างการใช้เทคนิค Scalping
- ถ้าราคาได้มีการขยับขึ้น ไปที่ราคา 110 บาท จะขายทำกำไร จะเป็นกำไรอยู่ที่ 10 บาท
- แต่ถ้าราคาปรับตัวลง ลงมาที่ราคา 90 บาท ก็ต้องขายเพื่อหยุดขาดทุน จะเป็นขาดทุนอยู่ที่ 10 บาท
จากตัวอย่างนี้ เป็นกฎที่ใช้ในการซื้อขายแบบ Scalping เราจะต้องมี Stop Loss และ Take Profit ที่ชัดเจน และต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
การทำกำไรแบบ Scalping จะซื้อขายอย่างรวดเร็ว ดั่งคำที่ว่า “เข้าเร็ว ออกเร็ว” และหัวใจหลักของเทรดเทรด Scalping ต้องควบคุมตัวเองให้ได้ อย่าให้ความโลภเข้ามาครอบงำ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต้องทำตามแผนการเทรดอย่างเคร่งครัด
การเข้าซื้อขายแต่ละครั้ง เราต้องวิเคราะห์กราฟราคาให้ดี โดยใช้อินดิเคเตอร์ หรือ เทคนิคอื่นๆ ช่วยในการตัดสินใจ และต้องคำนวณ ว่าการซื้อขายครั้งนี้ ต้องมีโอกาสถูกทางมากกว่า 60% ค่อยทำการเข้าซื้อ
เทคนิคที่เทรดเดอร์นิยมใช้เทรดแบบ Scalping
ในการเทรดในตอนที่ข่าวออก ถือว่ามีความเสียงสูง เทรดเดอร์ควรวางแผนรับมือกับความผันผวนที่จะเกิดขึ้นด้วย
อินดิเคเตอร์ ที่นิยมใช้วิเคราะห์กราฟราคา การเทรดแบบ Scalping
เจาะลึกตัวอย่างการซื้อขาย Scalping
จากภาพด้านล่าง อาจจะชวน งง แต่ผมอยากให้ผู้อ่านมองตาม และทำความเข้าใจในวงกลมจุดเข้าซื้อขาย Buy และ Sell
- วงกลมที่ 1 เปิดออเดอร์ Buy ที่เส้นแนวรับ เป็นจุด Buy1
- วงกลมที่ 2 ปิดออเดอร์ Buy1 และเปิดออเดอร์ Sell1 ที่เส้นแนวต้าน
- วงกลมที่ 3 ปิดออเดอร์ Sell2 และเปิดออเดอร์ Buy2 ที่เส้นแนวรับ
- วงกลมที่ 4 ปิดออเดอร์ Buy2 และเปิดออเดอร์ Sell3 ที่เส้นแนวรับ
- วงกลมที่ 5 ปิดออเดอร์ Sell3 และเปิดออเดอร์ Buy3 ที่เส้นแนวรับ
- ราคาไม่ปรับตัวขึ้นตามที่คาดการณ์ไว้ ตรงกรอบสี่เหลี่ยม เป็นจุด Stop Loss Buy3 เพราะราคาหลุดกรอบแนวรับ
- วงกลมที่ 6 เปิดออเดอร์ Buy4 ใหม่หลังจากที่ราคากลับเข้ามาในกรอบ
- วงกลมที่ 7,8,9,10 จะทำการซื้อขาย ตามวงกลม 1,2,3,4,5,6 จนกว่าราคาจะออกนอกกรอบเทรนไลน์
จากตัวอย่างนี้ เป็นเพียงตัวอย่างการซื้อขาย Scalping จากเส้นแนวรับแนวต้าน ด้วยการลากเทรนไลน์ ซึ่งจริงๆ แล้วเทรดเดอร์แต่ละคนจะมีเทคนิคการวิเคราะห์กราฟราคา เทคนิคการเทรดที่แตกต่างกัน
สรุปจบการลงทุนแบบ Scalping คืออะไร
สรุปได้ว่า Scalping คือเทคนิคการเทรด Forex แบบระยะสั้นมาก เน้นทำกำไรเล็ก ๆ แต่บ่อยครั้ง เหมาะกับคนที่มีความว่องไว ตัดสินใจเร็ว และมีวินัยสูง ต้องใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคและควบคุมความเสี่ยงอย่างเคร่งครัด แม้จะมีโอกาสทำกำไรสูง แต่ก็มีความเสี่ยงสูงเช่นกัน จึงต้องศึกษาและฝึกฝนอย่างหนักก่อนใช้จริง
Author: